ยุทธศาสตร์ HEW…

(Hadyai Economic Window (หิว) : พลิกวิกฤติ…เป็นยุทธศาสตร์เชิงรุก!)

รัฐบาลนายกฯอนุทิน กลายเป็น “รัฐบาลหนูเหยียบสายไฟ ”ชักกระตุก! ถูกจับขึงพืดบนสื่อทุกสาขา รถทัวร์ทุกสาย แห่วิ่งลงหาดใหญ่พร้อมหน้าโดยมิได้นัดหมาย เมื่อ พญาฝน Rainbomb ตกกระหน่ำอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์มรสุมภาคใต้
คำสั่งจาก รัฐบาลกลางใน กทม. แทบจะไร้ผลในช่วงชั่วโมงวิกฤติฝนตกหนัก แผ่คลุมลงใน 7-8 จังหวัดที่มีหาดใหญ่เป็น ศูนย์กลางเศรษฐกิจหลัก อีกแห่งของภาคใต้
ข้าราชการระดับสูง ภายใต้บังคับบัญชาของ รัฐมนตรีมหาดไทย (หนู) ไล่ตั้งแต่…อธิบดีกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.), รองอธิบดีฯ ก็เพิ่งย้ายมาจาก หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ,ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายอำเภอหาดใหญ่, ผอ.กรมอุตุนิยมวิทยาภาคใต้ และอีกหลายตำแหน่ง ล้วนเป็น “มือใหม่” หัดหมุนพวงมาลัยรถที่ตัวเองเพิ่งขับ
เหล่านี้…กลายเป็น “เบื้องหลัง” การบริหารภาครัฐ (ใหญ่ – ช้า – ล้าหลัง) ที่หลายคนมองไม่ออกว่า ทำไมการขับเคลื่อนการช่วยน้ำท่วมวิปโยคภาครัฐจึงไม่ทันการณ์?
กำลังทหาร, กำลัง ตชด.,กำลัง อพปร. หรือแม้แต่ กำลังนักศึกษาในระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย ไม่เคยถูกฝึกให้มี “ทักษะ” ในการป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ นี่แหละที่บางคน…บางกลุ่ม มักตั้งคำถามได้ว่า “มีไว้ทำไม?”
ไม่เหมือนกองทัพและกองกำลังทุกฝ่าย รวมทั้งกลุ่มจิตอาสามากมายในใจกลางกรุงเทพ ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย มีรถรายานพาหนะทุกชนิดครบ ขนาดรัฐยังไม่ทันอ้าปาก เขาก็เคลื่อนที่ว่องไวไปถึงหน้างานแล้ว
ก็ดีแล้วครับที่นายกฯหนูต้องท่องคำพูดเป็นนกแก้วย้ำแล้วย้ำอีกเพื่อ ขอโทษประชาชน!
ยามนี้ ใน แวดวงการเมือง ที่ดูเหมือน พรรคภูมิใจไทย จะได้เปรียบพรรคใดๆ ก็เหมือน เทวดาฟ้าดินจะส่องเห็นน้ำหนักภาพลักษณ์ที่ขาดความเท่าเทียม จึงได้ส่ง “พญาพิรุณอำมหิต” ลงมาถ่วงให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ด้าน ดุลอำนาจการเมือง ตรงด้ามขวานไทย
จึงถึงเวลาที่ ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็น…ฐานบารมีเก่า จะใช้ วิชาวาทกรรมอันช่ำชองสยองปากเข้าบดขยี้บี้พรรคภูมิใจไทย ให้ล้มคว่ำคะมำหงาย…ใต้ซากล้มละลายของศูนย์เศรษฐกิจหาดใหญ่ ที่สามารถขยายผลกว้างไกลไปเกือบทุกจังหวัดภาคใต้ ได้ (เพียงยังสงสัยในท่าทีเดิมเรื่อง ดีแต่พูด หรือ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้ใคร อีกหรือไม่?)
แต่อย่าลืม! กระแสการเมืองจากคนวัยฉกรรจ์ ของ พรรคส้ม คลื่นลูกใหม่ ที่ค่อยๆ แทรกซึมอยู่หลายพื้นที่ในใจกลางของทุกๆ จังหวัด และพร้อมจะสะบัด อาวุธโซเชี่ยล ได้อย่างรวดเร็ว…แม่นยำไม่แพ้กัน!
ป่านนี้ ฟากรัฐบาล นอกจาก มึนหัวกับทัวร์ลง ก็คงต้องทำหน้าที่…แก้ปัญหา ต่อไป ไม่ว่าจะ…ถูกหรือผิด หรือไม่เข้าตาประชาชน แต่ก็ต้องดั้นด้น”กวาดหาดใหญ่”ให้สะอาดราบเรียบในทุกซอกมุม พร้อม เยียวยาชีวิตทุกครอบครัวให้ฟื้นตัวเร็วที่สุด
ได้ยินว่า…จะให้ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ก็จะได้พิสูจน์ว่าทำสำเร็จจริงแค่ไหน???
ในมุมของผม อาจจะซ้ำ หรือต่างกับ วิธีคิดวิธีทำของรัฐบาล แต่ก็อยากกระตุก! บางสิ่ง…บางอย่าง? เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตินี้ ให้หลุดพ้นความพินาศเร็วขึ้นก็ได้ ผมจะเรียกให้เท่ๆ ซักนิดว่า…
“พลิกวิกฤติ เป็น…ยุทธศาสตร์เชิงรุก!!!”
1. ประชาชนกำลังหิวโหย และโวยแหลก…ถึงขั้นยิงปืนใส่อาสาสมัคร เกิดการลักขโมยเพราะความจำเป็น ทำไมรัฐบาลไม่สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ระดมสินค้าของกินของใช้ แล้วยกคาราวาน “ธงฟ้า ราคาถูก” ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เคลื่อนที่ไปบริการ ณ จุดที่ใกล้ชุมชนมากที่สุด ในทุกจังหวัดที่น้ำท่วม
2. เมื่อ กระทรวงการคลังตั้ง ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือเครือข่ายวายุภักษ์ รัฐมนตรี ดร.เอกนิติฯ สามารถสั่งพักหนี้ทั้งระบบซักระยะโดยรีบด่วน ได้หรือไม่?
ต้องรีบเปิดช่องให้ชาวบ้านกู้เงินสดตามเกณฑ์พิเศษอย่างรวดเร็ว โดยจับมือกับทุกธนาคารให้ “ทำเดี๋ยวนี้”ได้หรือไม่?
รถราทุกชนิดจมน้ำเดี้ยงทั้งเมือง ไปไหนมาไหนไม่ได้ กระทรวงการคลังกับกระทรวงพาณิชย์จะระดมหารถ ( มือ 2 ก็พอ ) ให้เจ้าของรถแช่น้ำเอารถไปแลกเปลี่ยนชั่วคราวมาใช้ก่อน โดยรัฐค้ำประกันให้ซัก 3-6 เดือน ได้หรือไม่?
โครงการ “คนละครึ่ง พลัส” รัฐมนตรี ดร.เอกนิติ สามารถจัดหาเงินมาเพิ่มให้ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้อีกเดือน 2-3 เดือน ได้หรือไม่?
3. กระทรวงศึกษาธิการ มีวิทยาลัยเทคนิคหลายแห่งมีนักศึกษาเรียนช่างยนต์จำนวนหนึ่ง ก็ให้เขาทำกิจกรรมจิตอาสาซ่อมรถน้ำท่วม ได้หรือไม่?
4. กระทรวงสาธารณสุข ถ้ามีหมอมีรถไม่พอ สามารถ ขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชน ส่งรถฉุกเฉินเคลื่อนที่แห่งละ 1-3 คันพร้อมยาไปช่วยรักษาพยาบาลประจำ ณ จุดเดือดร้อนของประชาชน 7-8 จังหวัด ได้หรือไม่?
5. กระทรวงพลังงาน ต้องหาทางลดราคาน้ำมันในพื้นที่วิกฤติซักระยะหนึ่ง ได้หรือไม่?
เรื่องค่าไฟฟ้า ต้องหยุดค่าใช้ไฟทันทีอย่างน้อย 3 เดือน ได้หรือไม่?
6. กระทรวงคมนาคม ไม่ต้องเสียเวลาคิด รัฐมนตรีพิพัฒน์ (ลูกสงขลาแท้ๆ) สั่งการ ให้รถเมล์ใหญ่เมล์เล็กในสังกัด ยกขบวนไปตั้งสายรถเมล์บริการขนส่งผู้คนฟรี 3 เดือน ได้หรือไม่?
ฯลฯ มีอีกมากมาย ถ้าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะระดมคนเก่งๆมาช่วยใช้วิธีการต่างๆได้อีกพะเรอเกวียน หากต้องการช่วยชาวน้ำท่วมกันอย่างจริงจัง!!!
ข้อเสนอทั้งหมด เป็นแค่…วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวระยะสั้น เท่านั้น ไม่อาจสร้างความหวังเหมือน “รถขนฝัน” ที่โด่งดังของ…นักเตะฟุตบอลเยาวชนทีมหมอนทอง ได้ ถ้ารัฐบาลไม่คิดฝันให้ยาวไกลไปกว่านั้น
อย่าลืมว่า…น้ำท่วมหาดใหญ่รอบนี้ ไม่ได้ทำลายทรัพย์สินและชีวิตของผู้คนอย่างเดียว แต่มันทำลายพื้นฐานทางเศรษฐกิจทั้งระบบ ทั้งแรงงานและอาชีพที่มีรายได้เลี้ยงตัว ก็ถูกตัดขาดพินาศไปทั้งวงจร (ไม่แน่ระยะใกล้ๆนี้ อาจมีคนคิดสั้นเพราะหาทางออกของชีวิตไม่เจออีกก็ได้ – ระวังให้ดี) ประชาชนและบ้านเมืองจะพบความทุกข์ลำบากไปอีกยาวอย่างน้อย 5-6 ปี
การแก้ปัญหาน้ำท่วม จึงไม่ควรหยุดแค่จ่ายค่าเยียวยาแล้วจบ! แต่ต้องเดินหน้าทันทีด้วยยุทธศาสตร์ใหม่ๆ
ในที่นี้…ผมจึงอยากล้อโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( EEC ) มาสร้างในพื้นที่ใกล้ๆ หาดใหญ่ อาจเรียกว่า โครงการพัฒนาหน้าต่างเศรษฐกิจหาดใหญ่ (Hadyai Economic Window – HEW – หิว)
โดยเริ่มต้นด้วย…ผลผลิตหลักจากยางพาราที่มีอยู่แล้ว นำเข้าสายพานธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นตัว “เปิดเกม”
เป็น Model ขนาดย่อ แล้ว…ยกระดับเป็นเมืองเศรษฐกิจ จึงจะรองรับปัญหาจากวิกฤติน้ำท่วมแบบราพณาสูรที่หาดใหญ่ ได้ จากนั้น กระทรวงคมนาคม ก็สร้างเส้นทางการขนส่งทางทะเล ทางบกและทางอากาศบรรจุเข้าไปให้พร้อมสรรพ
ซึ่ง ยุทธศาสตร์ใหม่ๆ แบบนี้…จะไปหนุนเสริมโครงการ Landbridge ในอนาคตได้อย่างพอดิบพอดี
ท่านนายกฯอนุทิน จะปิ๊งไอเดียเฟอะฟะของผมหรือไม่? ก็แล้วแต่จะพิจารณา
แต่ผมว่า…ถ้าท่านนายกฯจะบินลงไปหาดใหญ่อีกรอบ เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว ท่านกรุณาจูงมือ รมว.พิพัฒน์ ไปแอบนอนในชุมชนเขต 8 ซักคืนนึง ก็น่าจะเรียกเสียงฮือฮาคืนมาได้ไม่น้อย???
อย่าลืมว่า อดีตนายกฯแม้ว ใส่ผ้าขาวม้าควงขันอาบน้ำถ่ายรูป ก็เคยทำมาแล้ว
อ้อ! อาทิตย์หน้า ท่านก็ “ยุบสภาฯ” แล้ว ใช่มั้ยครับ???.






