เสียงข้างมากหนุนร่างงบฯปี’67 – ‘เศรษฐา’ ย้ำ! เวลาใช้เงินมีน้อย แต่จะใช้อย่างคุ้มค่า  

เสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร รับหลักการร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วาระแรก “ 311 ต่อ 177 เสียง” เผย! จากนี้ เดินหน้าจัดตั้ง กมธ.วิสามัญ 72 คน พิจารณา ด้าน “นายกฯเศรษฐา” ยืนยันจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า มีเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้แนวคิด “4 เพิ่ม + 1 ลด”  

เรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาล! เมื่อเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล…กลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร ต่อการยกมือโหวตรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก เมื่อคืนวันที่ 5 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ด้วยคะแนน 311 ต่อ 177 เสียง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวตามที่รัฐบาลเสนอ โดยย้ำว่า แม้งบประมาณฯฉบับนี้จะถูกจัดทำภายใต้ระยะเวลาที่เร่งด่วน และมีงบผูกพันที่จะต้องดูแลอย่างเป็นธรรม และมีวงเงินที่จำกัด แต่ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญ มุ่งทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ผ่านการดำเนินนโยบายที่ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ทั้งนโยบายระยะสั้น และนโยบายระยะยาว

ทั้งนี้ งบประมาณที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ มีไฮไลต์สำคัญคือ 4 เพิ่ม 1 ลด คือ จัดงบเพิ่มขึ้น เพิ่มงบลงทุน เงินคงคลังเพิ่มขึ้น จากการจ่ายเงินคืน เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง และเพิ่มรายได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะขยายฐานภาษีได้ จากการจัดเก็บรายได้ให้เป็นธรรม ส่วน 1 ลด คือ รัฐบาลจะขาดดุลลดลง ที่จะเป็นการลงทุนทางการเงินที่คุ้มค่า และแม้ว่ากว่างบประมาณปี 2567 จะผ่านรัฐสภาและนำออกมาใช้ โดยจะเหลือระยะเวลาในปีงบประมาณ 2567 ได้ไม่นาน (ราว 6เดือน หรือตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2567) แต่รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และนำไปใช้อย่างมีเป้าหมาย ให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนทุกบาททุกสตางค์

“สำหรับความเห็นข้อสังเกตและข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ทุกคนได้อภิปรายไว้ ขอฝากกรรมาธิการวิสามัญที่จะแต่งตั้งขึ้นไปใช้ประกอบการพิจารณา ตรวจสอบรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้เป็นไปโดยรอบคอบยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรี ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุมสภาฯเพื่อลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2567 วาระแรกนั้น ปรากฏว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยกมือโหวยสนับสนุนร่างกฎหมายการเงินฉบับนี้ด้วยคะแนนที่เห็นด้วย 311 เสียง ไม่เห็นด้วย 177 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง โดยหลังจากนี้ จะได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาพิจารณา 72 คน

โดยมีสัดส่วนจากคณะรัฐมนตรี 18 คน พรรคการเมืองต่างๆ 54 คน ประกอบด้วย ก้าวไกล 16 คน เพื่อไทย 15 คน ภูมิใจไทย 8 คน พลังประชารัฐ 5 คน รวมไทยสร้างชาติ 4 คน ประชาธิปัตย์ 3 คน ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ ไทยสร้างไทย พรรคละ 1 คน.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password