‘วรภัค’ ชิงลาออก! ปมถูกโยงเอี่ยวสแกมเมอร์ จ่อฟ้องคนปูดข่าว – ‘อนุทิน’ ยัน! ไม่มีใครบีบ ชี้! เป็นภาพลักษณ์เชิงบวกรัฐบาล

“วรภัค ธันยาวงษ์” ประกาศลาออก “รมช.คลัง” ยืนยัน! ไม่เกี่ยวข้องเครือข่ายสแกมเมอร์กัมพูชา จ่อฟ้องคนปล่อยข่าวเอี่ยวธุรกิจสีเทา ด้าน นายกฯ “อนุทิน” ย้ำ! ไม่มีใครกดดัน มองเป็นการแสดงความรับผิดชอบเชิงจริยธรรม และไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นรัฐบาล ประกาศไม่ตั้งคนเพิ่ม มอบ รองฯเอกนิติ ทำงานร่วมทีมผช.รมต.และข้าราชการประจำ

บ่ายวันนี้ (22 ต.ค. 2568) นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง แถลงลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังตกเป็นกระแสข่าวถูกพาดพิงว่า เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋น หรือ “Cambodian scammers” ในประเทศกัมพูชา โดย เจ้าตัวยืนยันชัดว่า ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และการตัดสินใจลาออกครั้งนี้ เป็นไปเพื่อเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบสามารถดำเนินไปอย่างอิสระ ไม่ให้เรื่องส่วนตัวส่งผลกระทบต่อภารกิจของรัฐบาล
โดยตลอดชีวิตการทำงานกว่า 30 ปีในแวดวงการเงินและธนาคาร ทั้งในองค์กรต่างประเทศและสถาบันการเงินของรัฐ เขายึดมั่นในหลักความสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), J.P. Morgan Chase (ประเทศไทย) และ Bank of America (ประเทศไทย) ก่อนเกษียณและหันมาทำงานด้านที่ปรึกษาเศรษฐกิจ จนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รมว.คลังในรัฐบาลปัจจุบัน โดยไม่มีความทะเยอทะยานทางการเมืองใด ๆ นอกจากความตั้งใจจะใช้ประสบการณ์เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

นายวรภัค ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เชื่อมโยงเขากับ ธนาคาร “BIC Bank Cambodia” และกลุ่มธุรกิจในกัมพูชาที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน โดยยืนยันว่า ไม่เคยเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา หรือผู้ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ จากธนาคารดังกล่าว การรู้จักกับบุคคลที่ถูกกล่าวถึงเช่น นาย Leak Yim หรือ Mr. Benjamin Mauerberger เป็นเพียงความรู้จักในฐานะผู้ปกครองโรงเรียนเดียวกันของบุตรเท่านั้น ไม่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือทางการเงินใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ยังปฏิเสธข่าวลือเรื่องภรรยาได้รับผลประโยชน์จากเงินคริปโตว่า “ไม่เป็นความจริง ภรรยาไม่เคยมีบัญชีคริปโตใด ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน”
สำหรับกรณี การถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส (FSS) นายวรภัค ชี้แจงว่า การซื้อหุ้นผ่านบริษัท Pilgrim Finansa เมื่อปี 2564 เป็นธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เป็นลักษณะของการซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (Management Buyout) เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโต โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกองทุน Capital Asia Investment ในสิงคโปร์ และ BIC Bank Lao ซึ่งเป็นธนาคารในลาวที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ BIC Bank Cambodia แต่อย่างใด เขาได้ขายหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ปลายปี 2567 และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวอีกต่อไป

นายวรภัค ย้ำว่า “ผมรู้สึกเสียใจที่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ แต่ผมไม่ต้องการให้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐบาล ผมขอยืนยันว่าผมไม่เคยและจะไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงหรืออาชญากรรมข้ามชาติใด ๆ และจะใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน”
ทั้งนี้ ตนจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่บิดเบือนข้อมูลหรือเผยแพร่ข่าวเท็จที่ทำให้เกิดความเสียหาย และยืนยันว่า จะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงตามหลักนิติธรรมเพื่อปกป้องเกียรติของตนและตำแหน่งทางการเมือง
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลัง การประกาศลาออกของนายวรภัค ว่า ตนได้รับรายงานจาก น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า นายวรภัค ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้ว โดยก่อนหน้านี้ นายวรภัคได้จัดทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงมายื่นให้ตนพิจารณา
นายกฯอนุทิน กล่าวว่า “รู้สึกเสียดาย แต่ขอขอบคุณสำหรับสปิริตและความรับผิดชอบทางการเมืองที่นายวรภัคแสดงให้เห็น” พร้อมยืนยันว่า “ไม่มีใครกดดันให้นายวรภัคลาออก และเป็นการตัดสินใจของเจ้าตัวเองทั้งหมด”

ก่อนจะย้ำว่า “ผมรู้จักท่านวรภัคมาหลายปี เป็นเพื่อนกันและรู้จักสไตล์การทำงานของเขา เขาเป็นคนระมัดระวัง รอบคอบ และมีความรับผิดชอบสูง การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนสปิริตของคนทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพราะมีใครบังคับ ผมคิดว่านี่เป็นตัวอย่างของนักการเมืองที่คิดถึงภาพรวมมากกว่าตัวเอง”
เมื่อถูกถามว่า การลาออกครั้งนี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์รัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตรงกันข้าม ตนคิดว่านี่เป็นภาพลักษณ์ที่ดี เพราะแสดงให้เห็นว่ารัฐมนตรีมีจิตสำนึกทางการเมือง คิดถึงประโยชน์ของประเทศมากกว่าตำแหน่งของตัวเอง รัฐบาลไม่ได้ปกป้องใครอย่างไม่มีเหตุผล ทุกคนต้องอยู่บนหลักความโปร่งใสและตรวจสอบได้
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า จะไม่แต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ เนื่องจากเหลือระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลไม่ถึงสามเดือน ก่อนการยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค.2569 โดยมั่นใจว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะสามารถบริหารและกำกับนโยบายการคลังต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี ทีมผู้ช่วยรัฐมนตรีและข้าราชการประจำช่วยกันขับเคลื่อนงาน
ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ นายอนุทิน ยังตอบคำถามถึงข่าวลือที่ว่า ก่อนหน้านี้มีการทักท้วงเรื่องคุณสมบัติของนายวรภัคจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ามีคดีค้างอยู่ โดยยืนยันว่า “ไม่มีใครทักท้วงในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี การแต่งตั้งผ่านการตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนทุกขั้นตอน” และกล่าวด้วยว่า “รัฐบาลนี้มีรัฐมนตรีทั้งหมด 36 คน ไม่มีใครทำงานคนเดียว หากรัฐมนตรีคนใดไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็มีผู้ที่ได้รับมอบหมายดูแลแทนอยู่แล้ว”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังการประกาศลาออก นายวรภัคได้ส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมคณะรัฐมนตรีผ่านกลุ่มไลน์ โดยย้ำอีกครั้งว่า “ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์” พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับโอกาสที่ได้รับ และแสดงความตั้งใจที่จะใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
สำหรับเหตุการณ์นี้ นับเป็นหนึ่งในกรณีที่รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดย นายวรภัคดำรงตำแหน่งเพียง 34 วัน นับจากวันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ทั้งนี้ นักวิเคราะห์การเมือง หลายฝ่ายมองว่า การลาออกของเขาอาจกลับสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับรัฐบาล เพราะสะท้อนถึงความรับผิดชอบทางจริยธรรม และการบริหารที่ไม่ปกป้องผู้ถูกพาดพิง แต่เปิดโอกาสให้ตรวจสอบอย่างโปร่งใส
และเป็น นายอนุทิน ที่ย้ำทิ้งท้ายว่า “สิ่งสำคัญคือรัฐบาลต้องเดินหน้าอย่างมั่นคงต่อไป ผมไม่กังวลใด ๆ เพราะกระบวนการแต่งตั้งและการตรวจสอบเราทำอย่างรอบคอบแล้ว การลาออกครั้งนี้เป็นเรื่องของสปิริตส่วนบุคคล ไม่ใช่ความผิดพลาดของรัฐบาล”.