นริศ เชยกลิ่น : เปิด(บางส่วน)วิชั่นสร้างอนาคตไทย

เปิดวิสัยทัศน์ “นริศ เชยกลิ่น” ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย  และ “ทีมเศรษฐกิจ” ของพรรคฯ พุ่งเป้าจับกลุ่ม “รากหญ้า-ชนชั้นกลาง” สร้างนโยบายรองรับ หนุนภาครัฐใช้ “มาตรการคลัง” เพิ่มโอกาสการมีบ้าน เพิ่มลดหย่อนภาษีช่วยผ่อนบ้าน พร้อมขับเคลื่อนแนวคิดใช้ที่ดินรัฐสร้างเมืองใหม่ กระจายตามหัวเมืองทั่วไทย ดึง “อินฟาสตั๊คเจอร์-เมืองเทคโนโลยี” เป็นแรงจูงใจ ฉุด “คนกรุงฯ” ย้ายถิ่น สร้างอนาคตใหม่ร่วมกัน เผย! แนวโน้ม “ดอกเบี้ยขาขึ้น” คนไทยควรใช้ชีวิตเพลย์เซฟ

“นริศ เชนกลิ่น” อดีตผู้บริหารระดับสูงจาก…ค่ายเซ็นทรัลพัฒนา และสิงห์เอสเตท ที่วันนี้…กลายมาเป็นหนึ่งใน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ร่วมกับ “อุตตม สาวนายน” อดีตรมว.คลัง และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตรมว.พลังงาน อีกทั้งยังเป็น หนึ่งในแกนหลัก ”ทีมเศรษฐกิจ” คนสำคัญในการผลักดัน เสนอแนวคิดสร้างและนำนโยบายของพรรคฯ…เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ สู่สังคมไทย

จากประสบการณ์ทำงานในภาคเอกชนยาวนานเกือบ 40 ปี โดยเฉพาะการทำหน้าที่ “นักบริหารมืออาชีพ” ผนวกกับ…ความรู้ ความสามารถและความเชี่ยวชาญด้านการเงินและอสังหาริมทรัพย์ ย่อมมีส่วนสำคัญต่อการสร้าง “จิ๊กซอว์” ตัวอย่างๆ ปูทางสร้างข้อเสนอสู่นโยบายพรรคฯ” เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคตอันใกล้

หนึ่งในแนวคิดดีๆ และเป็นภาพใหญ่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ กระทั่งอาจกลายเป็น นโยบายสำคัญของพรรคฯนั่น คือ มุมมองของการสร้าง “เมืองใหม่จากที่ดินของรัฐ” เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองสำหรับผู้รายได้น้อย ซึ่งเป็นคนระดับฐานรากสำคัญ และมีสัดส่วนประชากรมากที่สุดของประเทศ รวมถึง สร้างโอกาสในเชิงธุรกิจและการทำงาน กระทั่ง มีส่วนในการ ยกระดับการมีคุณภาพขีวิตที่ดีกว่าของชนขั้นกลาง ซึ่งเป็นคน 2 กลุ่มสำคัญที่อยู่ในแผนการทำงานทางการเมืองของพรรคฯ ไม่ต่างจากคนกลุ่มอื่นๆ  โดยเฉพาะ “คนระดับบน” ที่แม้จะเป็นคนส่วนน้อยของประเทศ ทว่ากลับเป็นกลุ่มที่ “ทรงพลังและอำนาจการตัดสินใจในระดับที่สูงมาก”

“ทุกวันนี้…โอกาสในการมีบ้านของคนไทย โดยเฉพาะ “คนฐานรากรุ่นใหม่” เริ่มห่างไกลความเป็นจริงมากเข้าไปทุกที ในขณะที่ความต้องใช้ที่ดินมีสูงขึ้น และไม่เฉพาะกับคนในประเทศ แต่ยังมีชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำงาน ลงทุนทำการค้าและธุรกิจ รวมถึงพักอาศัยในประเทศไทย เช่นที่รัฐบาลเพิ่งจะมีนโบายทางด้านภาษี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ได้เข้ามาพักอาศัยในแบบระยะยาว (Long Stay) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ท่ามกลางปริมาณความต้องการใช้ที่ดินที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนที่ดินยังคงมีเท่าเดิม นั่นจึงเป็นเรื่องยากของการจะมีบ้านเป็นของตนเองสำหรับคนฐานรากรุ่นใหม่

 กับมุมมองส่วนตัว…ที่แม้จะยังไม่ได้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของพรรคสร้างอนาคตไทย แต่ “นริศ” เห็นว่าดีและน่าจะมีประโยชน์ในภาพรวมต่อทุกฝ่ายในภาพรวม ก็คือ การใช้ที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะที่ราชพัสดุ ซึ่งยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิเพื่อการพัฒนาอย่างยืนนั้น ควรนำมาพัฒนาต่อยอดสร้างเป็นเมืองใหม่ กระจายไปในทุกภูมิภาคของประเทศ โดยนำระบบผังเมืองที่มีประสิทธิภาพ ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีและเทคโนโลยีสมัยใหม่ (ดิจิทัล เทคโนโลยี) มาใช้ในการสร้างเมืองใหม่ ควบคู่กับการสร้างแรงใจในมิติต่างๆ เพื่อดึงดูดให้คนจากภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯที่ต้องจะสร้างโอกาสและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในเมืองใหม่ที่ว่านี้  ซึ่งไม่เพียงจะบริหารจัดการเมืองที่ง่ายขึ้น หากยังจะช่วยลดปัญหาความแออัดของเมืองหลวงลงไปได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่การสร้าง “เมืองใหม่” ยังคงเป็นเพียงแนวคิดที่ยังไม่ได้แม้แต่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมของพรรคสร้างอนาคตไทย ทว่า “นริศ” ยังได้สะท้อนมุมมองดีๆ เสริมมาด้วยว่า…ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบัน ภาครัฐยังจำเป็นจะต้องนำ มาตรการทางการคลัง มาใช้เพื่อ เพิ่มโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และลดภาระรายจ่ายให้กับคนไทย

และหนึ่งในนั้น ก็คือ…มาตรการทางภาษีเพื่อเพิ่มสัดส่วนการหักลดหย่อนฯในการผ่อนชำระค่าเช่าซื้อบ้าน แม้กระทั่ง ใครก็ตามที่ทำการ “รีโนเวท” ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือต่อเติมบ้าน ก็ควรจะได้รับการช่วยเหลือทางด้านการนำรายจ่ายดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับคนไทย ได้ควักจ่ายเงินเก็บหรือกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายในด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกแรงหนุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม 

ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติในช่วงที่ผ่านมาพบว่า เม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น…สินค้าในกลุ่มวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ฯลฯ โดยเฉพาะภาคแรงงานล้วนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของไทย โดยมีสัดส่วนต่อจีดีพีมากถึง10% เลยทีเดียว

นับเป็น…เซ็กเม้นท์ทางธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และควรที่ภาครัฐจะต้องหันมาให้ความสนใจ พร้อมกับส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจัง…ไม่ต่างจากเซ็กเม้นท์กลุ่มอื่นๆ

ซึ่งเป็นสิ่งที่ “นริศ” และพรรคสร้างอนาคตไทย ได้ให้ความสำคัญและมุ่งความสนใจที่จะนำสิ่งเหล่านี้…ไปแปรเปลี่ยนเป็นนโยบายของพรรคฯในโอกาสต่อไป

ขณะเดียวกัน กับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแนวโน้มว่า…อัตราดอกเบี้ยในประเทศจะกลับไปสู่ภาวะ “ขาขึ้น” นั้น ส่วนตัว “นริศ” มองว่า…นับเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้มีภาระผ่อนจ่ายค่าเช่าซื้อบ้านอย่างมาก เพราะนั่นจะทำให้ภาระรายจ่ายในการผ่อนชำระค่าบ้านมีเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ไปลด “กำลังซื้อ” ของคนไทยให้เหลือน้อยลง ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อกลไกของธุรกิจและการตลาด รวมถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้

ข้อเสนออันเป็น “ทางออก” ของเรื่องนี้ ในมุมของ “นริศ” ก็คือ…ควรที่คนไทยจะต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่าย โดยเฉพาะกับ การซื้อสินค้าในกลุ่มของใช้ฟุ่มเฟือย หรือสินค้าที่ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการซื้อมาใช้งาน ซึ่งอาจจะต้องลดการใช้จ่ายกับสินในกลุ่มนี้ จนกว่าทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือมีรายได้เสริมมากกว่ารายได้เดิมที่มีอยู่

สำหรับ…ข้อเสนอแนะผ่านแนวคิดสาธารณะในการยกระดับสร้างบ้านพักอาศัย ให้เป็น “บ้านหาเงิน(สร้างรายได้)” แทนที่จะเป็นเพียง “บ้านใช้เงิน(ผ่อนชำระรายเดือน /จ่ายค่าน้ำประปา-ค่าไฟฟ้า)” เหมือนในปัจจุบัน ถือเป็นสิ่ง “นริศ” และพรรคสร้างอนาคต พร้อมและน้อมรับที่จะได้นำไปพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นไปได้ เพื่อนำไปต่อยอดในเชิงนโยบาย 

อย่างไรก็ดี แนวคิดข้างต้น…สอดรับกับแนวคิดส่วนตัวในการจะลดภาระรายจ่ายและเพิ่มโอกาสการมีรายได้ของเจ้าของบ้านพักอาศัย ไม่ว่าจเป็น…การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์..เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เอง ส่วนที่เหลือใช้…ก็ขายคืนให้กับหน่วยงานรัฐ (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ) รวมถึงแนวคิดในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชนและที่พักอาศัยรองรับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยเฉพาะในรูปแบบของ “โฮมสเตย์” เป็นต้น

นั่นเป็นแค่บางส่วนของการสนทนา แต่ทั้งหมดคือ…แนวคิดดีๆ ที่อาจกลายเป็นนโยบายของพรรคการเมืองที่ได้เสนอตัวเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ สร้างโอกาสการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รวมถึงเป็นแนวทางในการลดภาระรายจ่าย เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ และการมีคุณภาพชีวิตที่ขึ้น ฯลฯ 

อันจะนำไปสู่…การต่อยอดและพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสและดีกว่าเดิมให้แก่คนไทยและประเทศไทยในโอกาสต่อไป.

สุเมธ จันสุตะ….รายงาน

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password