“บิ๊กตู่” ฟาด “ฝ่ายค้าน” สวนหนัก จะกล่าวหาใครต้องมี “หลักฐาน-ตรวจสอบ” ให้ชัดก่อน
ให้กระบวนการยุติธรรมไปว่ามา! “บิ๊กตู่”ลุกสวน”ฝ่ายค้าน” จะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน-ตรวจสอบให้ชัด ถ้าคิดว่าบริหารไม่ดี ก็ไปฟ้องเอา อย่ามาพูดตีกินให้เสียหาย รับไม่ได้ ยันไม่เคยเอื้อประโยชน์ใคร ซัดกลับควรมีมารยาท ยึดกติกา
วันที่ 15 ก.พ. 2566 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธาน เพื่อพิจารณาญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งแรก ว่า ฟังมาตั้งแต่เช้า มีหลายท่านที่แสดงความคิดเห็น ทั้งแนะนำ กล่าวหา ติเตีอน หลายอย่าง อยากบอกว่าที่ท่านพูดมาทั้งหมด ด้านเศรษฐกิจทำมาหมดแล้ว แต่ยังไม่เกิดผลผูกพัน ก็เอามาตีกินกันตรงนี้ ที่พูดมาทั้งหมดเวลารัฐบาลพูดท่านก็ไม่ฟัง กระทรวงการคลังชี้แจง หน่วยงานชี้แจงก็ไม่ได้ฟังอีก
“เพราะฉะนั้นนโยบายอะไรของท่าน เมื่อท่านเป็นรัฐบาลท่านก็ทำเถอะครับ ถ้าท่านได้เป็นนะ” นายกฯ กล่าว และว่า ส่วนการดูแลพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เราทำตั้งแต่ฐานราก ทั้งเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้าน ประชาชนที่มีรายได้น้อยมีการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า ท่านลองไปศึกษาดู ถ้ามันง่ายอย่างที่ท่านพูดมาก็คงทำไปนานแล้วสมัยก่อนท่านก็ทำไม่ได้
“ส่วนเรื่องการทุจริตผิดกฎหมาย ไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรมไปว่ามา การที่เอาตนไปโยงคนนั้นคนนี้ เป็นญาติคนนั้นคนนี้ ผมคือตัวผมคือครอบครัวผม และผมไม่เคยเอื้อประโยชน์ให้กับใคร ก็ไปตรวจสอบมา เวลาสมัยก่อนไม่เห็นพูดเก่งแบบนี้เลย สมัยท่านเป็นรัฐบาล เรื่องทุจริตไม่เห็นมีการพูดกันสักคำ ต่อไปนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปชี้แจง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ เราพึ่งผ่านวันวาเลนไทน์มาไม่อยากจะทำให้เสียอารมณ์” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ดีๆ ก็รับไว้จดไว้ หลายเรื่องที่ไม่ตรงไม่ถูกต้อง ก็คงต้องให้ฝ่ายตนชี้แจงบ้าง เดี๋ยวรัฐบาลก็คงชี้แจงในแต่ละเรื่อง และเรื่องสำคัญๆ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็คงชี้แจง แต่ต้องหยุดตรงนี้ไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นท่านก็ฉวยโอกาสตรงนี้ในการหาเสียงของท่าน ตนพยายามไม่ไปแตะต้องอะไรท่านเลย
“ดังนั้น ขอให้เป็นไปตามมารยาทกติกาของสภาฯ คนเราต้องมีมารยาทในการพูดจา หลายอย่างเป็นปัญหาในเชิงบริหารและเชิงกฎหมาย ทุกอย่างมีหลักการและหลักเกณฑ์หมดแล้ว ไปตรวจสอบมาให้เกิดความชัดเจน ก่อนที่จะกล่าวอ้างว่าใครผิดใครถูกไปว่ากันมาจนผลการสอบสวนออกมา ผมไม่เคยปล่อยปละละเว้น การที่นำเรื่องมาพูดในสภาฯ แล้วคนข้างนอกได้ยิน ก็กลายเป็นว่าคนนั้นผิดไปแล้วหรือถูกไปแล้ว ผมว่ามันไม่ใช่ เคารพกระบวนการยุติธรรมด้วยและไม่อยากให้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ไปก้าวล่วงอำนาจบริหารมากเกินไป ถ้าท่านจะค้านผมไม่ว่า แต่บางอย่างเป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน ก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ถ้าไม่ดีก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่ใช่มาติติงพูดจาเสียหายแบบนี้บางอย่างผมรับไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว