การทูตเศรษฐกิจ???

เศรษฐกิจไทย…กำลังกลับสู่สมรภูมิโลก ด้วยการทูตเชิงรุกและข้อตกลงใหม่ ที่เปิดประตูสู่การค้า การลงทุนรอบใหม่ แต่เส้นทางนี้ เต็มไปด้วยโจทย์ “ศักยภาพ – ข้อจำกัด – ความเชื่อมั่น” ที่ “รัฐบาลอนุทิน” จำต้องปรับกลยุทธ์เพื่อยืนระยะยั่งยืน ในวันที่ “ไทยกลับมาแล้ว” ในสายตานานาชาติ แน่นอนว่า…การรักษา “โมเมนตัม” และ “สร้างรากเศรษฐกิจใหม่” จะกลาย “เดิมพัน” ของ “นายกฯอนุทิน”

ท่ามกลางความผันผวน ของ เศรษฐกิจโลก การเมืองภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี…“รัฐบาลอนุทิน” ได้เลือกแล้ว…ที่จะ เดินเกม “การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” เป็นแกนกลางของนโยบายสร้างความเชื่อมั่น

โดยใช้…กลไกการค้า การลงทุน และข้อตกลงความร่วมมือพหุภาคี เป็น “เครื่องมือ” ขับเคลื่อนประเทศไทย ในห้วงเวลานี้

เกมนี้…จึงไม่เพียงเป็นความพยายาม “ฟื้นเศรษฐกิจ” หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (2563-2565) หากยังพยายามกลับมาเป็น “ผู้เล่นในภูมิภาค” ที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้าน…เศรษฐกิจ การผลิต และซัพพลายเชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพียงเดือนเศษของ “รัฐบาลใหม่”…สัญญาณเศรษฐกิจ ดูเหมือนจะมี “แรงส่ง” ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น…คำขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี มูลค่ากว่า 1.37 ล้านล้านบาท (เพิ่มขึ้น 94%) ภาคส่งออกเติบโตต่อเนื่องกว่า 14 เดือน

และ ดีลเชิงสัญลักษณ์อย่างการขายข้าวกับสิงคโปร์ ซึ่งกลายเป็น “สัญญาประวัติศาสตร์” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจอาหารเข้ากับมิติความมั่นคงในระดับภูมิภาค

ทั้งหมดนี้ ได้สะท้อนให้เห็นว่า…การทูตเศรษฐกิจของไทย! เริ่มมีทิศทางและพลังอีกครั้ง!!!

แต่ในโลกที่…การแข่งขันไม่เคยหยุดนิ่ง! อยู่เพียงการส่งออกสินค้า ดังนั้น การสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 จึงต้องอาศัย “ยุทธศาสตร์ระยะยาว” ที่ไม่ใช่เพียงการ “ดีลเฉพาะหน้า” เพื่อให้ ประเทศไทย…ก้าวข้ามจาก “ผู้ส่งออก” สู่ “ผู้ร่วมออกแบบระบบเศรษฐกิจโลกใหม่” ที่กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล และพลังงานสะอาด

ตลอดเดือนเศษที่ผ่านมา “รัฐบาลอนุทิน” แสดงให้เห็นถึง “ความตั้งใจ” ในแนวทางนี้ ผ่านแผน “QUICK BIG WIN – ทำสั้น หวังผลยาว กระจายกว้าง” ซึ่งเป็น นโยบายเร่งรัดผลลัพธ์ในระยะสั้น แต่ปูทางให้เกิดโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่

ไล่ตั้งแต่…การเปิดตลาดพลังงานสะอาด Community Solar Farm โซลาร์หลังคาในครัวเรือน และ การใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ความต้องการสินค้าและตลาด ควบคู่กับ มาตรการลดค่าครองชีพ กระตุ้น SME และสร้างตลาดใหม่ในชายแดน

แม้ เครื่องยนต์เหล่านี้…เริ่มเดิน! แต่ โครงสร้างเศรษฐกิจไทย ยังต้องเผชิญกับ โจทย์ “เชิงกลยุทธ์” ที่ต้องแก้ในระยะยาว โดยเฉพาะในส่วนของการ แปลง “ศักยภาพ” ให้เป็น “ผลลัพธ์จริง” และป้องกันการติด “กับดัก” นโยบายระยะสั้น แบบเดิม!!??

เราลองมาถอดรหัส แปลความหมายจาก…ยุทธศาสตร์ “การทูตเศรษฐกิจ” ของ “รัฐบาลอนุทิน”???

จุดแข็ง (Strengths)…อันเป็น “ข้อได้เปรียบสำคัญ” ของประเทศไทยในสายตานานาชาติ นั่นคือ…ที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งไทยถือเป็น “ศูนย์กลาง”…ซัพพลายเชน การคมนาคม และตลาดผู้บริโภค

การมี “ความสัมพันธ์ทางการทูต” ที่ดี! ทั้งกับ..ตะวันตกและตะวันออก ช่วยให้ไทยสามารถเชื่อมโลก 2 ขั้วทางเศรษฐกิจได้อย่างยืดหยุ่น

นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐาน, การผลิตอาหาร ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึง การท่องเที่ยว ยังคงเป็น…ฐานรายได้สำคัญที่ ดึงดูด นักลงทุนต่างชาติ…ให้ได้มองเห็น “โอกาสต่อยอด” มากกว่า…การเริ่มต้นจากศูนย์

แต่ก็มี จุดอ่อน (Weaknesses)…เพราะ ไทยยังคงประสบปัญหาที่ค้างคามานาน ได้แก่ ความล่าช้าของระบบราชการ, การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เด็ดขาด และการติดหล่มในกระบวนการอนุมัติ

สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ “โอกาสทางการค้า” ที่ไทยสร้างไว้…ถูกใช้ประโยชน์ไม่เต็มศักยภาพ ตัวอย่างชัด ก็คือ…

มี “นักลงทุนต่างชาติ” ที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มีจำนวนมาก แต่ “การลงทุนจริง” ยังต่ำมาก เมื่อเทียบกับจำนวนสิทธิที่ได้รับ

กว่าหนึ่งปีที่ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เคยออกมายอมรับในเรื่องนี้…ทว่าการจะบังคับให้ นักลงทุนต่างชาติ…ผู้ได้รับสิทธิฯ ต้องมาลงทุนจริง! ก็ยังจะไม่เกิดผลชัดเจน!!!

สิ่งนี้…สะท้อนปัญหาเชิงระบบ??? ที่ “สิทธิพิเศษทางการลงทุน” กลายเป็นเพียงแค่ “แรงจูงใจ…บนกระดาษ” มากกว่า…การสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง!

นอกจากนี้ การขาดแรงงานทักษะสูง, การผลิตที่ยังพึ่งแรงงานราคาถูก รวมถึง ต้นทุนพลังงานที่สูง และระบบภาษีที่ซับซ้อน ล้วนต่างเป็น…อุปสรรคต่อการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนรายใหญ่

ขณะที่ ความเชื่อมั่นทางการเมือง และความต่อเนื่องของนโยบายเศรษฐกิจ ก็ยังเป็นคำถามสำคัญในสายตานักลงทุนระยะยาว

กระนั้น ยังมี โอกาส (Opportunities) มากพอ…จะเรียกเป็น “โอกาสทอง” ของไทย จากภาวะที่ เศรษฐกิจโลก ภายใต้การปรับโครงสร้าง “ห่วงโซ่อุปทาน” ของ ประเทศมหาอำนาจ เพื่อ…ลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า

ไทย…ในฐานะ “ประเทศกลาง” สามารถใช้ “จุดแข็ง” ด้านความเป็นกลาง และศักยภาพของอาเซียน สร้างบทบาทเป็น “สะพานเศรษฐกิจ” เชื่อมระหว่างจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น

FTA หลายฉบับ ที่ “รัฐบาลอนุทิน” เดินหน้าเจรจา…จึงมี ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ อย่างมาก เพราะไม่เพียง…เพิ่มมูลค่าการค้า แต่ยังสร้าง “ระบบความร่วมมือใหม่” ที่เชื่อมโยงด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล และพลังงานสีเขียว

การลงนามความร่วมมือขายข้าว 1 แสนตัน กับ รัฐบาลสิงคโปร์ ก็เป็นอีกตัวอย่างของ “การทูตเศรษฐกิจ” ที่มีภาพเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งไม่เพียงช่วยเรื่อง…ตลาดสินค้าเกษตร แต่ยัง ยกระดับไทยสู่ผู้จัดหาความมั่นคงทางอาหารระดับภูมิภาค

หาก “รัฐบาลอนุทิน” สามารถ “ต่อยอด” โมเดลนี้ กับประเทศอื่นๆ เช่น UAE อินเดีย หรือแอฟริกา ฯลฯ ก็จะยิ่ง “เปิดตลาดใหม่” ให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง

ทว่า โอกาส มันจะมากับ…ความเสี่ยงและอุปสรรค (Threats) แน่นอนว่า…ความท้าทายหลักของไทย ก็คือ “การรักษาโมเมนตัม”

ในขณะที่ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ธนาคารโลกลดคาดการณ์ GDP ของไทยปี 2025 เหลือเพียง 1.8% จากเดิมที่หวังไว้กว่า 3% สะท้อนให้เห็นว่า…การพึ่งพาการค้าและการลงทุนเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากไม่เสริมด้วยปัจจัยโครงสร้าง เช่น ผลิตภาพแรงงาน, เทคโนโลยี และระบบนวัตกรรม

อีกความเสี่ยงสำคัญ ก็คือ ความไม่แน่นอนของภูมิรัฐศาสตร์ สงครามในตะวันออกกลาง การแข่งขันสหรัฐฯ–จีน และการเปลี่ยนแปลงกฎการค้าสากล ฯลฯ เหล่านี้ล้วนกระทบต่อ “ห่วงโซ่ซัพพลาย” ที่ไทยพึ่งพา โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

หาก ไทยไม่เร่งพัฒนา…โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด และ เพิ่มความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนเทคโนโลยีขั้นสูง ก็อาจจะ “เสียโอกาส” ในระยะยาว ได้…

ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์ต่อรัฐบาลอนุทิน

ดังนั้น สิ่งที่ “รัฐบาลอนุทิน” ควรทำ! นั่นคือ…การเร่งสร้าง “ระบบนิเวศการทูตเศรษฐกิจ” ให้ยึดโยงกันทั้งในและนอกประเทศ ที่ไม่ใช่…เพียง ทำ MOU หรือ FTA แต่ต้องมีโครงสร้างหนุนให้ “การลงทุนเกิดขึ้นจริง” ผ่านการปฏิรูป BOI ให้เข้มแข็งกว่าเดิม โดยกำหนดเงื่อนไขให้ “ผู้ได้รับสิทธิ” ต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่ชัดเจน และมีระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์

พร้อมกันนี้…ควรเปลี่ยน “ตัวชี้วัดความสำเร็จใหม่!” จากเดิมที่เคยเน้น “จำนวนโครงการที่ได้รับสิทธิ” มาเป็น “จำนวนโครงการที่เดินเครื่องผลิตจริง” พร้อม เผยแพร่ “รายชื่อโปรเจกต์ มูลค่าการใช้ทุน การจ้างงาน และผลลัพธ์ต่อ GDPW อย่างโปร่งใส

สิ่งนี้…จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนระยะยาว และลดพฤติกรรม “จองสิทธิไว้ก่อน” โดยไม่ลงทุนจริง!!!

ใน มิติการทูต“รัฐบาลอนุทิน” ควร “ต่อยอด” แนวทาง “การทูตคู่ขนาน” เชื่อมการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เช่น เชื่อม FTA เข้ากับโครงการ Green Finance ดิจิทัล เทคโนโลยี และ Startup ของแต่ละประเทศ เพื่อให้ “ผลลัพธ์” ไม่จำกัดอยู่ที่ตัวเลขการค้า แต่กลายเป็น…ความร่วมมือในห่วงโซ่นวัตกรรมที่ยั่งยืน

ในระดับโครงสร้างไทยควรเร่ง สร้างฐานแรงงานทักษะสูง และ ยกระดับการศึกษาวิศวกรรม AI ดิจิทัล เพื่อให้สามารถ “รับ” การถ่ายโอนเทคโนโลยี จาก…นักลงทุนต่างชาติได้จริง ไม่ใช่เพียงเป็น…ฐานประกอบสินค้า เท่านั้น

ขณะเดียวกัน นโยบาย QUICK BIG WIN ซึ่งมุ่ง…เห็นผลเร็ว ก็ควรถูกนำไปเชื่อมต่อกับ ยุทธศาสตร์ระยะยาว เช่น ไทยแลนด์ 5.0 และ Net Zero 2050 เพื่อให้ “เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่” ไม่ดับกลางทาง!

แต่…ขยายสู่ระบบโครงสร้างถาวร โดยเฉพาะ การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และเศรษฐกิจสีเขียว

สุดท้าย ประเทศไทยจำเป็นต้องสื่อสารเชิงรุกในเวทีโลก ให้เห็นว่า “ไทยไม่ได้กลับมาแค่เพื่อขายสินค้า” แต่กลับมาใหม่ ในฐานะ…ประเทศที่พร้อมร่วมกำหนดทิศทางเศรษฐกิจภูมิภาค

หาก “รัฐบาลอนุทิน” ที่แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงไม่มาก แต่ถ้านับรวมความเป็น “รัฐบาลรักษาการ” ภายหลังการยุบสภาฯคืนอำนาจให้ประชาชน แล้ว “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” เชื่อว่า…ก็มีเวลามากพอ จะแสดงสิ่งนี้ให้โลกได้ประจักษ์ชัด! ในจุดยืนของไทย   

ทำนอง…เราสามารถแสดงความต่อเนื่องของนโยบายได้ เสริมด้วยการบริหารที่โปร่งใส และวางยุทธศาสตร์ระยะยาว

ชัดเจนว่า…การกลับมาของไทยในเวทีโลก…รอบใหม่นี้ จะไม่เป็นเพียงแค่ วาทกรรม แต่จะเป็น “การกลับมาอย่างมีศักดิ์ศรีและยั่งยืน” ในสายตานานาชาติ

เวลาที่เหลือ…นับจากนี้??? ขอเพียง…รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย อย่าปล่อยให้ “แต้มบวก” ใน ยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ผ่าน “การทูตเศรษฐกิจ” ที่กำลังไปได้สวย!!!

ต้องถูก “ฉุด!” ลงต่ำ…จน “ติดลบ!!??” จากความผิดพลาดองยุทธศาสตร์ด้านการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึง ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง…

โดยเฉพาะ ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง จาก ยุทธการ “อุ้ม” เครือข่ายการเมืองทุนสีเทา/ดำ ที่จะ “ฉุด!” ทั้งตัว…รัฐบาลและนายกฯอนุทิน ใน การเมืองสมัยนี้ และส่งผลกระทบต่อไปยัง…การเมืองสมัยหน้า ก็แล้วกัน!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password