12 ข่าวฮอต เม้าท์มันส์ สนั่นเมือง (141068)

เมื่อวานยังเชียร์ปม “ซาวน์หลอน” ของ “กันต์ จอมพลัง” อยู่แท้ๆ แต่ถูกกระแสการเมือง “ตีกลับ” ก็ขอเป็นกำลังใจให้ “คนทำดี” ยังมีอีกหลายเรื่องที่รอให้ คนดีๆ ได้ช่วยคนไทยและประเทศไทย กลับสู่เรื่องของเรา…“12 ข่าวฮอต เม้าท์มันส์ สนั่นเมือง” ประจำวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2568 กับข่าวมากมายจาก ครม. และข่าวต่อเนื่องกับเรื่องที่จั่วหัว…

(1) ซาวด์หลอน…บานปลาย – ปม “ซาวด์หลอน” ของ กันต์ จอมพลัง กลายเป็น ประเด็นการเมือง??? ทั้งในระดับเวทีสากลและการเมืองในประเทศไปแล้ว เสียดาย…แนวคิดดีๆ ที่ “กระตุก” ให้คนเขมรได้คิดเป็น…ที่ที่อาศัย “นั่นมันแผ่นดินไทย!” ล่าสุด “หน.เท้ง-ณัฐพงษ์” โยนเผือกร้อนไป “นายกฯอนุทิน และ สีหศักดิ์ รมว.ต่างประเทศ ตอบให้ชัด! สิ่งที่พลเรือนทำไปนั้น มันทำได้หรือไม่? และการทำในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้ กฎอัยการศึก อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ทำด้วย “เจตนาดี” แต่ต่างชาติ อาจมองว่า รัฐไทยหนุนการยั่วยุ เจ้าตัวอ้าง…ห่วงว่า ไทยจะเพลี่ยงพล้ำบนเวทีโลก หากไม่จัดการอย่างรอบคอบ ย้ำ! ความรับผิดชอบอยู่ที่ นายกฯ กลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ต้องบริหารสถานการณ์อย่างมีสติ ถามกลับ “เสียงหลอน” ปลุกกระแสชาตินิยมจะคุมได้หรือ? ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม โยนต่อให้ “แม่ทัพภาค 1” ตอบเอง จับตาแรงสะเทือน “ซาวด์ผีชายแดน” บานปลายสู่ปัญหาการทูต–ความมั่นคงระดับชาติ.

(2) มท.เดือด! โยก 45 ขรก.ระดับสูง – “โฆษกรัฐบาล” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ แจง ครม.มีมติเห็นชอบ การแต่งตั้งโยกย้าย 45 ขรก.ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เสนอ โดยยึดหลัก คืนความเป็นธรรมให้กับบางคนที่อาจถูกกลั่นแกล้ง จากการแต่งตั้งโยกย้าย 3 ครั้งที่ผ่านมา ในเวลาเพียง 1 เดือน โฟกัสตำแหน่งสำคัญ ได้แก่…พรพจน์ เพ็ญพาส กลับมานั่งอธิบดีกรมที่ดินอีกครั้ง หลังเคยขอย้ายกันข้อครหา “เขากระโดง” นฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ขยับขึ้นอธิบดีกรมการปกครอง ดัน “นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร” ย้ายไปผู้ว่าฯภูเก็ต ส่วนดาวรุ่ง “สยาม ศิริมงคล” รีเทิร์นกรมพัฒนาชุมชน หลังโยกไป 14 วัน ด้าน “ศุภมิตร ชินศรี” กลับสมุทรปราการ ขยับแรงอีก “ธีรพัฒน์ คัชมาตย์” จากผู้ว่าฯอุทัยธานี ขึ้นอธิบดี ปภ. แทน “ภาสกร บุญญลักษม์” จับตา “ณรงค์ เทพเสนา” ย้ายขึ้นผู้ว่าฯอุบลฯ หลังเคยร้องสอบดีเอสไอลงพื้นที่เลือกตั้ง ส.ว. ขณะที่วงในแย้ม! ยังมี “ล็อต 2” ตามมาเร็ว ๆ นี้อีก นัยว่า…รอบนี้ มีการเตรียมปูพรมทีม “น้ำเงินมหาดไทย” รองรับศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นช่วงต้นปีหน้านี้.

(3) นายกฯออกมารับเองนายกฯอนุทิน รับหนังสือร้อนจาก มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ – นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จี้! รัฐบาล ยกเลิก MOU 2543–2544 เหตุ “กัมพูชาละเมิดข้อตกลงร้ายแรง” ทั้งรุกราน – ยิงปืนใหญ่ใส่พลเรือนไทย อ้างสิทธิตาม มาตรา 60 และ 56 แห่งอนุสัญญากรุงเวียนนา 1969 ไทยมีสิทธิบอกเลิกสนธิสัญญาได้ พร้อมกับขอให้ “ระงับประชุม” คณะ JBC–GBC–RBC ทันที! เพื่อป้องกันไทยเสียสิทธิทางกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ แกนนำฯ ชี้ว่า MOU 2544 “ล้าสมัยและใช้การไม่ได้” เพราะกัมพูชายึดพื้นที่ไหล่ทวีปเกินสิทธิ นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลเร่งประกาศยกเลิก MOU 2543 ภายใน 8 เดือน และ MOU 2544 ภายใน 12 เดือน โดยได้แนบรายชื่อไปกับหนังสือ ซึ่งมีทั้ง ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี, รสนา โตสิตระกูล, นิติธร ล้ำเหลือ ร่วมลงนาม ด้าน นายกฯอนุทิน พยักหน้ารับฟัง แต่ยังไม่ตอบชัด บอกเพียง “ขอไปศึกษารายละเอียดก่อนเข้าครม.”.

(4) แฉไอโอป่วน “สูตรแคร์” – “คกก.ประกันสังคมสัดส่วนผู้ประกันตน” ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ระบุถึงสูตรประชาพิจารณ์ประกันสังคม หรือสูตร Care ว่า สูตรนี้ช่วยให้ผู้ประกันตนกว่า 570,000 คน ได้บำนาญเพิ่มเฉลี่ย 10% ที่ต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้ มี IO เข้ามาป่วนการทำประชาพิจารณ์ เพื่อหวังจะล้มและขัดขวางไม่ให้เกิดความเป็นธรรมของกลุ่มผู้ใช้แรงงานและผู้ส่งประกันสังคม ด้าน รักชนก ศรีนอก ส.ส.พรรคประชาชน กล่าวว่าถ้าสูตรผ่านแล้วใครได้บำนาญน้อยลง เชิญมาเหยียบหน้าตนได้เลย! ยืนยันผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 จะไม่มีใครเสียประโยชน์ มีแต่ได้เพิ่ม วอนขออย่าปล่อยให้ไอโอมาปล้นอนาคตคนทำงาน เรียกร้องให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมแสดงความเห็นจริงก่อน 17 ต.ค.นี้ ย้ำ! “สูตรแคร์” คำนวณรายได้เฉลี่ยตลอดอาชีพ ยุติธรรมกว่าเดิม ส่งมากได้มาก ส่งน้อยไม่ถูกทิ้ง โดย ทีม “ประกันสังคมก้าวหน้า” ขอแรงทุกเสียงร่วมผลักดัน เพื่อบำนาญที่คนไทย หายใจได้จริงๆ.

(5) เร่งทุกหน่วยงานจัดทำงบปี 70 – “โฆษกรัฐบาล” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ระบุว่า ครม.สั่งให้ทุกหน่วยงานรัฐเร่งจัดทำกรอบงบประมาณฯปี 2570 เนื่องจากรัฐบาลมีตามกรอบเวลาการทำงานของรัฐบาลแค่ 4 เดือน โดย นายกฯได้กำหนดประกาศยุบสภาฯ ม.ค. 2569 และให้เร่งจัดทำกรอบงบประมาณฯ ใน 1 ธ.ค.นี้ เพื่อให้ส่วนราชการเสนอขอจัดสรรงบประมาณปี 2570 ตั้งแต่ 1 ม.ค.69 และสั่งการให้ สำนักงบประมาณ ปรับปฏิทินงบประมาณ เพื่ออุดช่องโหว่ และจัดทำงบประมาณให้แล้วเสร็จ เพราะ นายกฯเกรงว่า ในช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หากขั้นตอนพิจารณางบประมาณล่วงเลยไปถึง มิ.ย.69 จึงหวังไม่ให้เกิดปัญหางบประมาณของส่วนราชการสะดุดในช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบแผนลงทุนของรัฐวิสาหกิจในงบปี 2569 ของสภาพัฒน์ ด้วยเงินลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท จากรัฐวิสาหกิจ 51 แห่ง หากลงทุนได้ตามเป้าหมาย ช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ถึงร้อยละ 0.3 ทั้งนี้ นายกฯได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายร้อยละ 95 โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สำคัญ.  

(6) เคาะเร่งเยียวยารอบใหม่“โฆษกรัฐบาล” เผย นายกฯอนุทิน สั่ง “มหาดไทย – ปภ.” เดินหน้าเร่งจ่ายเงินช่วย “ผู้เดือดร้อน – รอบใหม่” ขณะเดียวกัน ตั้ง “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” รองนายกฯและรมว.คลัง ติดตาม “ดีลภาษี” ตอบโต้สหรัฐ เป้าอัตรา 19% ชี้! “ปธน.ทรัมป์” ใช้สถานการณ์ชายแดนเป็นข้อต่อรองทางเศรษฐกิจ ระบุ! ไทยยืนยัน 4 เงื่อนไข ชัด! ต่อสหรัฐ “ให้กัมพูชาถอนกำลัง – เก็บทุ่นระเบิด – ปราบสแกมเมอร์ – แสดงจุดยืนต่อผู้รุกล้ำแผ่นดินไทย” ทั้งนี้ นายกฯ ยังห่วงผู้อพยพฝั่งชายแดนที่เพิ่มต่อเนื่องหลายระลอก สั่งทบทวนเกณฑ์ “เงินอุดหนุนผู้อพยพ” จากมติ ครม.เก่าที่ช่วยเพียงครั้งเดียว โดยรัฐบาลตั้งเป้าออกมาตรการเยียวยาครอบคลุมทุกกลุ่ม “ไม่ให้คนไทยถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” กำชับต้องเข้าวาระสัปดาห์หน้า.

(7) ผนึกกำลังลดภาระค่ารถประชาชน นายกฯอนุทิน เผยผลหารือร่วมกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯและรมว.คมนาคม เดินหน้าลดค่าเดินทางช่วยประชาชน ย้ำ! ต้องทำอย่าง “สมเหตุสมผล” ไม่ให้เสียวินัยการคลัง แต่ยืนยัน “รัฐบาลต้องดูแลคนไทยก่อนเสมอ” ขณะที่ พิพัฒน์ ระบุ! เตรียมตั้ง “คณะกรรมการเฉพาะกิจ” พิจารณามาตรการช่วยเหลือให้รอบด้าน ชี้! ต้องใช้เวลา ไม่รีบร้อน เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องและเกิดประโยชน์สูงสุด ย้ำ! แนวทางลดค่าโดยสารอยู่ระหว่างหารือหลายรูปแบบ ทั้งรถสาธารณะ ระบบราง พร้อมยันตรวจสอบเหตุ “ถนนสามเสนทรุด” ตั้งแต่ 3 ต.ค.แล้ว ผลสอบต้องรอบคอบ รัฐบาลตั้งเป้าบรรเทาค่าครองชีพอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่ลดราคาเฉพาะหน้า.

(8) ลงพื้นที่ ดูร้านค้าลงทะเบียนเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกฯและรมว.คลัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า หลังจากรัฐบาลเปิดให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ได้ตั้งแต่ 15 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ร้านค้ารายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดา ยังสามารถสมัครเป็น ผู้ซื้อสินค้าทั่วไป เหมือนกับคนอื่น เพื่อใช้เงินตามสิทธิ์ เพราะถือว่า เป็นคนไทยคนหนึ่ง เพียงขอให้อายุ 16 ปีขึ้นไป โดยร้านค้าใหม่ ต้องมีบัญชี ธ.กรุงไทย และสมัครแอป “ถุงเงิน” รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนอนุมัติ เริ่มรับสิทธิ 29 ต.ค. 68 – 31 ธ.ค. 68 ใช้จ่ายได้เวลา 06.00–23.00 น. พร้อมเปิดผูกแพลตฟอร์ม ฟู้ดเดลิเวอรี่ ผ่านแอปถุงเงิน ตั้งแต่ 3 พ.ย. เป็นต้นไป ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง เน้นใช้ “คนละครึ่งพลัส” ช่วยกระตุ้นจับจ่ายปลายปีนี้ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเตือนร้านค้า ควรเตรียมเอกสารให้ครบ เช่น บัตรประชาชน, รูปถ่ายร้าน, ใบอนุญาตประกอบกิจการ ฯลฯ ทั้งนี้ เขาย้ำว่า…“ร้านค้ารายย่อยมีสิทธิเท่าคนทั่วไป ทุกคนช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” อนึ่ง 8 โมงเช้า พรุ่งนี้ (15) รองฯเอกนิติ จะลงพื้นที่เยี่ยมชมการเปิดลงทะเบียนร้านค้าวันแรก ณ ตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง.

(9) EGCO ลุยเพิ่มหุ้นในอเมริกาธวัชชัย สำราญวานิช เอ็มดี.ใหญ่ EGCO Group ระบุ บริษัทย่อยในสหรัฐฯ ลงทุนเพิ่มใน Linden TopCo LLC อีก 10% รวมถือหุ้น 38% โรงไฟฟ้า Linden Cogen รัฐนิวเจอร์ซีย์ ใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟ 980 เมกะวัตต์ ป้อนนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ ตลาดไฟฟ้าทั้ง 2 มีดีมานด์สูงสุดในสหรัฐฯ หนุนรายได้มั่นคงระยะยาว และโ รงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 เดินเครื่องสำเร็จด้วยเทคโนโลยี Hydrogen Co-firing ลดคาร์บอนตามเป้า Net Zero 2030 ทั้งนี้ EGCO มองการลงทุนนี้เป็นก้าวสำคัญสู่พลังงานสะอาดระดับโลก พร้อมขยายพอร์ตครอบคลุม 6 ประเทศในเอเชียและอเมริกา ธวัชชัย ย้ำทิ้งท้าย “การลงทุนนี้สะท้อนศักยภาพ EGCO ในตลาดพลังงานโลกอย่างแท้จริง”.

(10) ยื่นศาล รธน.ฟัน! สุชาติพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ขอวินิจฉัยคุณสมบัติ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ว่า ขัดรัฐธรรมนูญ ม.233 และ พ.ร.ป.ป.ป.ช. ม.18 หรือไม่? ระบุการเลือกตั้งประธาน ป.ป.ช. มีกรรมการ 2 คนหมดวาระแล้ว แต่ยังร่วมโหวต ถือว่าผิดขั้นตอน ชี้! อาจกระทบความชอบธรรมและสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่อยู่ภายใต้อำนาจ ป.ป.ช. เจ้าตัวยันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ต้องการให้การสรรหาถูกต้องตามกฎหมาย ย้ำ! ป.ป.ช. เป็น “องค์กรปราบโกง” ไม่ควรมีตำแหน่งที่มาขัดกฎหมาย ระบุ! การร้องครั้งนี้เพื่อปกป้องความยุติธรรมและหลักนิติธรรมในสังคม พร้อมฝากศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน.

(11) ระทึกชายแดน! –  เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยเก็บกู้ EOD ตรวจพบ ทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 ลูก ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว โดยทั้ง 2 ลูก เป็น ทุ่นสังหารบุคคลชนิดสะเก็ดระเบิด POMZ-2 สภาพพร้อมทำงาน พบห่างกันเพียงไม่กี่เมตร เจ้าหน้าที่เร่งเก็บกู้ตามขั้นตอน ป้องกันอันตรายต่อชาวบ้านและทหารในพื้นที่ รวมยอดตั้งแต่ 10–14 ต.ค. 68 พบแล้ว 9 ทุ่นระเบิดพร้อมใช้งาน ในจุดเดียว ประกอบด้วย PMN 6 ลูก, MN79 1 ลูก, และ POMZ-2 อีก 2 ลูก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เผย! เป็น “ทุ่นจริงพร้อมระเบิด” หากมีการเหยียบ หรือทำให้ลวดสะดุด โดยคาดเป็นของเก่าหรือถูกฝังเพิ่มจากเหตุปะทะชายแดนก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ฯจะเร่งตรวจพื้นที่รอบหมู่บ้านต่อเนื่อง ด้วยยังเป็นห่วงว่าอาจยังมี “ทุ่นสังหาร” ซุกซ่อนอีกหลายจุด.

และ (12) ใช้มาสคอตซีเกมส์เดิม – ภายหลังรายการเล่าข่าวชื่อดังช่องน้อยสีหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็น หลังจากนั้นไม่นาน มีการชี้แจงข้อเท็จจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย “โฆษกฯศมจรส มิ่งคำเลิศ” ผอ.สำนักผู้ว่าการฯ ระบุว่า…แก๊งแมสคอต “เดอะสาน” ประจำการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ทั้ง 7 สี 7 ตัวเดิม ยังคงอยู่ครบเหมือนเดิม ไม่ได้หายไปไหน และ กกท.ยังคงใช้ทุกตัว ไม่ได้ยกเลิกแต่อย่างใด เพียงแต่มีที่เพิ่มเติมเข้ามา ก็คือ เพื่อนใหม่ “ลายธงชาติไทย” สำหรับแมสคอตเพื่อนใหม่ของ แก๊ง “เดอะสาน” เวอร์ชั่นใหม่ นี้ จะใช้ ลายธงชาติไทย ทั้งในส่วนของซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ โดยจะนำไปใช้เป็นแบบทางการในพิธีมอบเหรียญรางวัลและกิจกรรมหลักของการแข่งขัน ขณะที่ แมสคอตแบบเดิม “7 ตัว 7 สี” จะยังคงอยู่และจะนำมาผลิตเป็นของที่ระลึกและสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ เพื่อเพิ่มสีสันและสร้างความประทับใจแก่เด็กและประชาชนทั่วไปอีกด้วย…แล้วพบกันใหม่!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password