4 X ตัดตอน! อายุรัฐบาล

“4 ปมร้อน!” ที่อาจกลายเป็นไฟแผดเผา “รัฐบาลอนุทิน” เสี่ยงสุด! คงไม่พ้น…“สแกมเมอร์” แกนหลักของกลุ่มธุรกิจสกปรก ว่ากันว่า…สิ่งนี้คือ บาดแผลลึกของรัฐบาล นำสู่การสร้างแรงกดดันจากสังคมไทย และนั่น…อาจเป็น “สิ่งเร้าและตัวเร่ง?” ทำรัฐบาลต้องนับถอยหลังได้เร็วกว่าที่คิด

ภาพภารกิจการลงนาม “ปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชา” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ยังไม่ทันจางหาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ก็ต้องเผชิญกับ “คลื่นการเมืองชุดใหม่” ที่ซัดใส่เข้ามาอย่างไม่หยุดพัก

คลื่นลูกใหญ่…ที่อาจสาดซัด ห้วงเวลาของรัฐบาลฯให้หายไปก่อนครบวาระ 4 เดือน ก็น่าจะมาจาก 4 เรื่องร้อนๆ ที่กำลังเป็นกระแส และถาโถมใส่ทั้ง “รัฐบาลอนุทิน” และนายอนุทิน นั่นคือ…

1. ปัญหาชายแดนและการลงนามสันติภาพกับกัมพูชา

2. ธุรกิจสกปรก “สแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์–พนันออนไลน์–ขบวนการค้ามนุษย์”

3. ลงนามแรร์เอิร์ธและการค้ากับสหรัฐฯ”

และ 4. หลุดคำพูดของผู้นำไทย

โดย 4 ประเด็นร้อน??? หนักสุด! ที่ว่ากันว่า…อาจเป็น ชนวนสำคัญ? ทำให้อายุของ “รัฐบาลอนุทิน” สั้นได้เร็วกว่ากรอบเวลาปกติ ก็คือ…

ปม สแกมเมอร์ แกนนำในกลุ่ม “ธุรกิจสกปรก”!!??

ก่อนจะลงลึกรายละเอียด ลองย้อนกลับไปดูภาพที่ “นายกรัฐมนตรีไทย” จับมือกับ “ผู้นำกัมพูชา” ท่ามกลางสักขีพยานคนสำคัญ อย่าง…นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะ “ประธานอาเซียน”

สิ่งนั้น…อาจสะท้อนความสำเร็จเชิงภาพลักษณ์ระดับนานาชาติ แต่เบื้องหลัง!!!…กลับมีรอยร้าวในประเทศที่กำลังปริแตก???

ทั้งความไม่พอใจจาก…กองทัพ ชาวบ้านชายแดน และพรรคร่วมรัฐบาล ที่รู้สึกว่า…พวกเขากำลัง “ถูกกัน” ออกจาก “เวทีใหญ่” ของ…อำนาจการต่อรอง

ขณะเดียวกัน ปัญหาภายใน อย่าง สแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์–พนันออนไลน์–ขบวนการค้ามนุษย์” กลับลุกลาม! จนกลายเป็น “ระเบิดเวลาทางการเมือง” ซึ่งอาจทำให้ นายกฯอนุทิน อาจต้องตัดสินใจ “ยุบสภาณ!!!” ก่อนถึงเส้นตายแห่งอำนาจ

เมื่อผสมรวมกับ คำพูดเพียงประโยคเดียว? ของ นายกฯอนุทิน ที่ว่า…“ส่วนของฝั่งไทยที่ล้ำไปฝั่งกัมพูชาก็มีเช่นกัน”

มันจึงกลายเป็น…ไฟลามทุ่ง? ในโลกออนไลน์ ทันที! แถมยังถูก นายฮุน เซน ผู้คุมชะตาประเทศกัมพูชาเก็บไปใช้เป็นเครื่องมือ “สร้างอำนาจต่อรอง” ในระดับภูมิภาค แม้ว่า…ภายหลัง นายกฯอนุทิน จะออกมาขอโทษ และยืนยันว่า…พูดตกคำว่า “พื้นที่อ้างสิทธิ์”

แต่ความเสียหาย “เชิงสัญลักษณ์” ได้เกิดขึ้นแล้ว…ในใจของประชาชนคนไทย!!??

ภาพลักษณ์ “ผู้นำที่รักษาอธิปไตย” กลับกลายเป็น “ผู้นำที่เผลอหลุดคำจนเสียเชิงชาติ” ไปแล้วเช่นกัน

ด้าน กองทัพไทย เอง ก็เริ่ม…ขยับตัวอย่างเงียบ ๆ แหล่งข่าวความมั่นคง ยอมรับว่า “ความรู้สึกไม่พอใจมีอยู่จริง” เพราะการเจรจาครั้งนี้…ไม่ได้ผ่านขั้นตอนความเห็นชอบทางเทคนิคจากหน่วยงานหลัก และการพูดในลักษณะ “ล้ำไปฝั่งกัมพูชา” อาจถูกตีความทางการทูตได้หลายมิติ หากฝ่าย ตรงข้ามนำ ไปอ้างทางการเมืองระหว่างประเทศ

และอาจนำไปสู่…การสูญเสียแผ่นดินไทย ให้กับกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง!!!

ขณะเดียวกัน เสียงครหาภายในประเทศ…ก็เริ่มจะดังมากยิ่งขึ้นขึ้น เมื่อการแก้ปัญหา “ธุรกิจสกปรก” โดยเฉพาะ ปัญหาสแกมเมอร์ ของ “รัฐบาลอนุทิน” กลับมีการแต่งตั้ง…รัฐมนตรีบางคน? ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการ “สแกมเมอร์–คอลเซ็นเตอร์” หรือผู้มีอิทธิพลในวงการพนันออนไลน์และการค้ามนุษย์

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย และ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถึงกับหลุดวลีเด็ด!ออกมา “ตั้งโจรไปปราบโจร” ซึ่งกลายเป็น “มีมทางการเมือง” ที่แพร่กระจายรวดเร็วในสังคมออนไลน์

หลายคน “กลับตี” ความแรงได้มากกว่านั้น ว่า…นี่อาจไม่ใช่แค่ “ตั้งโจรไปปราบโจร” แต่เป็นการ “ตั้งโจรไปช่วยโจร” ด้วยซ้ำไป…

มันสะท้อน…รัฐบาลอนุทิน ผิดพลาดครั้งใหญ่!!! …ตั้งโจรไปปราบโจร???

แรงกดดันจากสังคมทวีคูณ เมื่อ พรรคฝ่ายค้าน อย่าง…พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่องว่า…รัฐบาลกำลัง “เล่นละครปราบสแกมเมอร์” มากกว่าการดำเนินการจริง

ทั้งที่ปัญหา “ธุรกิจสกปรก” ได้ส่งกระทบประชาชนโดยตรง ทั้งการ…ถูกหลอกโอนเงิน การฟอกเงินผ่านคริปโต และขบวนการลักลอบค้าคนผ่านพรมแดน

แม้ “รัฐบาลอนุทิน” จะประกาศตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ที่มีนายกฯอนุทิน นั่งหัวโต๊ะ และมีหน่วยงานสำคัญๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึง หน่วยความมั่นคง มาร่วมติดตาม…เส้นทางฟอกเงิน-สินทรัพย์ดิจิทัล ของแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ เหล่านี้ ก็ตาม

แต่ในสายตาของ นักวิเคราะห์การเมืองทั้งในและนอกประเทศ แล้ว พวกเขากลับมองว่า…นี่คือ “คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อซื้อเวลา” มากกว่าจะใช้ลงมือจริงจัง!!!

นั่นเพราะ…โครงสร้างของปัญหาได้ถูกเชื่อมโยงกับ “ผลประโยชน์ขนาดใหญ่” ที่โยงเข้ากับ…นักการเมือง พ่อค้าเงินทุน และกลุ่มทุนดิจิทัลที่หนุนหลังบางพรรคการเมือง? ในประเทศไทย

อีกด้าน “หน้าฉาก” ของความสำเร็จทางการทูตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่เพิ่งจะเซ็นกรอบความร่วมมือการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้ รัฐบาลทรัมป์ โดยมีเงื่อนไขให้ไทย…ต้องยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเกือบทั้งหมด คงเหลือเพียงบางรายการที่ยังเก็บไว้

ขณะที่ สหรัฐฯ “คงภาษี 19%” ต่อสินค้าไทย และเพียง “พิจารณา” ปรับบางหมวดเป็น 0% ในอนาคต พร้อมกับ MOU เรื่องแร่หายาก (แรร์เอิร์ธ) ที่ถูกจับตาว่า…อาจเปิดทางให้ “ทุนอเมริกัน” เข้ามาขุดแหล่งแร่สำคัญในภาคเหนือ

ดีลนี้…ถูก นักเศรษฐศาสตร์ บางคนตีความว่า… ไทยกำลังเสี่ยงต่อการจะเข้าสู่ภาวะอาณานิคมทางเศรษฐกิจแบบใหม่” เมื่อประเทศต้อง เปิดตลาด” แทบทั้งหมด??? เพื่อแลกกับคำมั่นว่าจะได้รับสิทธิทางการค้าและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ

ขณะที่ ฝั่งจีนเอง…เริ่มจับตาไทยอย่างระมัดระวัง! ในท่ามกลางสมรภูมิสงครามการค้าในภูมิภาค

เสียงสะท้อนจาก พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค? เริ่มดังขึ้น หลายคนไม่พอใจที่ นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลถูกกำหนดจาก “โต๊ะเจรจา” เพียงไม่กี่คน โดยไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด?

ซึ่งพวกเขา…ก็ล้วนมี “ฐานเสียง” ในกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดตลาดแบบไร้กำแพงภาษี

“เรากลัวว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เพราะศัตรูของอนุทินตอนนี้ไม่ใช่ฝ่ายค้าน แต่คือพรรคที่ร่วมรัฐบาลเอง” แหล่งข่าวในพรรคร่วมแห่งหนึ่ง ระบุ

เมื่อ ปัจจัยทั้ง 4 ด้าน “ปัญหาชายแดน, คำพูดสะเทือนอธิปไตย, ดีลการค้ากับสหรัฐฯ, และไฟสแกมเมอร์ในบ้าน” ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ภาพลักษณ์ “รัฐบาลแห่งการสมานฉันท์” ที่ นายกฯอนุทิน สร้างไว้

วิเคราะห์การเมืองจากหลายสำนัก เห็นพ้องกันว่า… “สแกมเมอร์–ค้ามนุษย์” คือ จุดเปราะบางที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ เพราะเป็นปัญหาที่ “กินลึก” ในระบบราชการและการเมือง

หากขยายผลสืบสวนไปถึง…ผู้มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจ หรือเจ้าของทุนที่หนุนหลังพรรคใหญ่ สิ่งนี้…อาจกลายเป็นระเบิดลูกโตที่ไม่มีใครรับมือได้

นาทีนี้…“นายกฯอนุทิน” เอง ก็อยู่ในจุดที่ต้องตัดสินใจเด็ดขาด! ว่าจะเลือกอะไร? ระหว่าง…“กวาดบ้าน” ตัวเองแล้วเสี่ยงเปิดแผลลึก หรือจะ “ปล่อยให้เน่า” แล้วรอให้แรงกดดันจากสังคมและพรรคร่วมผลักให้ยุบสภาฯในที่สุด!

มี นักวิชาการบางคน? ประเมินว่า…หากสถานการณ์ยังเดินหน้าแบบนี้ต่อไป “รัฐบาลจะไม่ครบ 4 เดือนแน่!”

นั่นเพราะ…แรงเสียดทาน! ทั้งจาก ภายนอกและภายใน พุ่งสูง! ตีคู่ขนานกันไป…ในเวลาเดียวกัน

แม้จะมีความพยายามโชว์ “ผลงานเชิงบวก” ทั้งการ…เร่งรัดการบิกจ่ายงบฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น การเปิดโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการยกระดับระบบสาธารณสุข ฯลฯ

แต่ทั้งหมด…อาจถูกกลืนหายไปภายใต้เงาของ “สแกมเมอร์–ค้ามนุษย์–พนันออนไลน์” ที่สังคมไทยมองว่าเป็นปัญหาแห่งศตวรรษ

เมื่อ “รัฐบาลอนุทิน” ที่อ้างว่า…จะคืนความเชื่อมั่น!!?? กลับถูก “ตั้งคำถามสวนกลับ!” ในเรื่อง “ศีลธรรมทางการเมือง” และ “ความโปร่งใส” ในทุกมิติ

สิ่งนี้…ได้ทำลายความศรัทธาของประชาชน กระทั่ง วันนี้…มันได้เริ่มถดถอยลงอย่างรวดเร็ว!!!

วันนี้…“นายกฯอนุทิน” อาจยังยิ้มและยืนยันว่า…“ไม่มีแรงกดดันถึงขั้นยุบสภา!”

แต่ในทางการเมือง…ความนิ่ง คือ สัญญาณแรกของพายุใหญ่!!??

และเมื่อพายุนี้ ชื่อว่า “สแกมเมอร์” มันอาจไม่ได้สร้างผลกระทบเพียงแค่…พัดใส่ทำเนียบรัฐบาลให้สั่นคลอน เท่านั้น

แต่อาจพัดใส่! จนกระทั่ง รัฐบาลทั้งชุด…อาจต้องล้มลงก่อนครบวาระ 4 เดือน ก็เป็นไปได้!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password