เป็นแค่ “ว่าที่” อย่าลำพอง! “สมชาย” ตอกกลับ “สว.ใหม่” แนะสงบปากสงบคำ ดีกว่า
“สมชาย”ไฟแล่บ ตอกกลับ”สว.ใหม่” ยันไม่ไร้มารยาท แนะสงบปากสงบคำ เอาเวลาไปอ่านกฎหมายก่อนมาตำหนิ ย้อนเกล็ดตัวเองก็มาได้จาก”บล็อกโหวต-จัดจ้าง” ปัดยื้ออำนาจ ยันเก็บของออกไปหมดแล้ว
วันที่ 8 ก.ค. 67 ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกวุฒิสภา (สว.) ชุดใหม่ ว่า สว.ชุดนี้ยังอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีชุดใหม่ ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง และมีราชกิจจานุเบกษาเมื่อไหร่ สว.ชุดนี้ก็จะพ้นจากตำแหน่ง แต่ขณะนี้ยังทำหน้าที่อยู่ ทั้งประชุมวุฒิสภาและประชุมกรรมาธิการชุดต่างๆ ส่วนญัตติที่เสนอวันนี้สืบเนื่องจากปัญหาการเลือก สว.ชุดนี้ ที่มาตามรัฐธรรมนูญใหม่ตามบทหลัก ซึ่งนักวิชาการก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงเกิดข้อสงสัยว่าที่ประชาชนร้องเรียน และเราก็เห็นจากข้อเท็จจริง
จึงอยากจะขอศึกษา โดยใช้ระยะเวลา 30 วัน เชิญผู้เกี่ยวข้อง 4 ส่วน ได้แก่ กรรมาธิการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ , กรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรม , กรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน และกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา รวมถึงนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.มาร่วมด้วย เช่น นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ , นายเจษฎ์ โทณะวณิก และนายคมสัน โพธิ์คง โดยข้อสรุปที่ได้จากกรรมาธิการชุดนี้จะส่งต่อให้กับคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงส่งให้ กกต.ด้วย เพื่อใช้ในการศึกษา ถอดบทเรียน ส่วนเสียงของ สว.ตอนนี้จะทำให้ญัตติผ่านได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แล้วแต่ที่ประชุม
ต่อข้อถามว่า การที่กำหนดกรอบระยะเวลาศึกษา 30 วัน คิดว่าการประกาศผลรับรอง สว.ของ กกต.จะล่าช้าใช่หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ทราบ ถ้าวันนี้มีมติจาก กกต.ก็จะมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าวันนี้ที่ประชุมวุฒิสภามีมติตั้งกรรมาธิการที่ตนเสนอ ก็ถือว่าการตั้งกรรมาธิการนั้นตกไป แต่ก็ถือว่า สว.ได้อภิปรายปัญหาต่างๆ ให้ประชาชนได้ทราบแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีมีการทักท้วงถึงความเหมาะสมในการประชุมวุฒิสภาในช่วงเวลานี้ นายสมชาย กล่าวว่า “ท่านคงไม่เข้าใจหน้าที่ ท่านอาจจะใหม่ ยังไม่เคยทำหน้าที่ วุฒิสภาก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ถ้าไม่ทำก็ถือว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ การเสนอญัตติหรือแม้กระทั่งตั้งกระทู้ถามก็ยังคงทำอยู่ ฝากถึงท่านที่วิพากษ์วิจารณ์ ท่านอาจจะยังเป็นว่าที่ ท่านยังไม่ค่อยรู้ระเบียบ ท่านค่อยๆ ศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบข้อบังคับวุฒิสภา ก่อนจะมาตำหนิ สว.ชุดเก่า สว.ชุดเก่า ไม่ได้มีความประสงค์จะไปยื้อ จะไปอยากอยู่อะไร เก็บของหมดแล้ว และพร้อมจะส่งมอบ แต่อย่าลืมว่าวุฒิสภาชุดใหม่ ต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ท่านมาได้ด้วยการบล็อกโหวต ด้วยการจัดจ้างหรือเปล่า กกต.เขามีหน้าที่ตรวจสอบให้ถูกต้อง ผมเห็นหลายคนออกมาให้ตรวจสอบ เปิดหีบ แต่ถึงเวลา ท่านกลับบอกให้เร่งรับรอง ไม่ต้องกลัวไม่ได้เป็นหรอกครับ อย่างไรก็ได้เป็น ถ้าท่านถูก ท่านสุจริต ท่านเที่ยงธรรม แต่ถ้าไม่ถูก ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม กกต.ก็ไม่รับรองหรอกครับ”
เมื่อถามย้ำว่า บางคนอาจใช้คำค่อนข้างรุนแรง ถามถึงมารยาท นายสมชาย สวนกลับทันทีว่า “มีมารยาทอยู่แล้วครับ เพราะ สว.ชุดปัจจุบันมาถูกต้องตามกฎหมาย หลายท่านที่ออกมาพูดนั่นแหละไม่มีมารยาท เพราะท่านยังไม่เป็น สว.” นายสมชาย กล่าว และ ขอฝากไปถึง สว.ชุดใหม่ว่า การได้มาบางคนอาจจะมีปัญหา ดังนั้น ความน่าเชื่อถือศรัทธาของประชาชน เป็นสิ่งท้าทายมาก ซึ่งกระบวนการได้มาเมื่อเป็นการเลือกกันเองอาจจะมีการผิดฝาผิดตัวอยู่บ้าง แต่อยู่ที่ท่านจะใช้ประสบการณ์ได้ตรงตามกลุ่มที่สมัครมาหรือไม่ ซึ่งต้องรอพิสูจน์ต่อไปว่าจะทำหน้าที่ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ สังคมก็จะเห็นว่าวุฒิสภายังมีคุณค่า แต่ถ้าทำหน้าที่ไม่ได้ก็เกรงว่าวุฒิสภาจะถูกบั่นทอนความศรัทธาของประชาชน แต่เท่าที่ดู สว.ที่จะเข้ามาใหม่ ส่วนใหญ่มีวุฒิภาวะ ยกเว้นบางคนที่ยังขาดประสบการณ์
เมื่อถามว่า มีการย้อนว่า สว.ยุคปัจจุบันก็มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้ต่างจาก สว.ชุดใหม่มาก นายสมชาย ยอมรับว่า แน่นอน สว.ในอดีตทั้งหมดก็มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งการเลือก สว.ครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่ แค่มาจากการเลือกกันเอง ซึ่งเป็นที่เดียวในโลก แต่ตนเห็นด้วยที่ สว.มาจากวิชาชีพต่างๆ แต่อาจจะไม่เห็นด้วย ในส่วนที่ไม่มีการกลั่นกรอง เลือกตรงจากกลุ่มอาชีพ
“ถ้าจะบอกว่า สว.ชุดนี้มาจาก คสช.ก็ใช่ ธรรมดา ไม่เห็นแปลก สว.ชุดที่จะเข้ามาใหม่อย่าพึ่งลำพอง เราไม่รู้ว่าวันหนึ่งการทำหน้าที่ของท่านจะเป็นเครื่องพิสูจน์มากกว่า บางคนก็สงบปากสงบคำก่อนดีกว่านะ พอผมออกไปแล้วค่อยใช้คำพูดของท่านให้เต็มที่ ตอนนี้ท่านยังไม่ได้เป็น เป็นแค่ว่าที่” นายสมชาย กล่าว.