ปธ.มูลนิธิต้านทุจริต ห่วง ‘กรีนคอร์รัปชั่น’ มหันตภัยร้าย – ชู ‘ดร.เอก์’ บุคคลดีเด่นด้านต่อต้านโกง
“ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ” พูดกลางวงฉลอง “9 ปี จัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต” เผย! “กรีนคอร์รัปชั่น” ถือเป็นมหันตภัยร้ายทำลายโลก ห่วงระบบยุติธรรมถูกทำลาย เปิดช่องคนโกงร่วมกันกินบ้านกินเมือง ก่อนมอบ 3 รางวัลบุคคลดีเด่นด้านต่อต้านการทุจริต และ 3 รางวัลองค์กรดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2567 ด้าน “ดร.เอก์ เหลืองสอาด” 1 ใน 3 บุคคลดีเด่นต้านโกง เผย! ในฐานะ นายกฯสมาคมสื่อต้านคอร์รัปชั่น พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของ “ป๋าเปรม” ลุยจับมือองค์กรพันธมิตรและรัฐบาล ลุกขึ้นต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ หวังสร้างสังคมสุจริตในประเทศไทย
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันป้องกันราชอาณาจักร (สปท.) ถนนวิภาวดีฯ, มูลนิธิต่อต้านการทุจริต ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในวันครบรอบ 9 ปี การจัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต และมอบรางวัลองค์กรและบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต ประจำปี 2567 (Anti–Corruption Awards 2024) โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เป็นประธานในพิธี
ศ.พิเศษ วิชา กล่าวแสดงความยินดีกับองค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลฯ ว่า หน่วยงานองค์กร และบุคคลที่ได้รับรางวัลเป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาต้องทำงานด้วยความอดทน ยากลำบาก โดยไม่ได้มุ่งหวังสิ่งตอบแทน รางวัลที่ได้รับจึงเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความโปร่งใสให้กับบ้านเมืองปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้ สถานการณ์คอร์รัปชั่นที่น่าหวาดกลัวและเป็นภัยคุกคามต่อชาวโลก ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ประเทศหนึ่งประเทศใด คือ การทุจริตได้ทำลายสิ่งแวดล้อม (กรีนคอร์รัปชั่น) ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดในโลก การตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้โลกวิปริตไปหมด ทั้งยุโรป อเมริกา มีแนวโน้มภัยพิบัติที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตการดำรงชีวิตของมนุษย์ เกิดโรคอุบัติใหม่ ซึ่งประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่ประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปแล้ว ฉะนั้นต้องเร่งปลูกฝังให้เยาวชนทุกคนตระหนักรู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ศ.พิเศษ วิชา ยังแสดงความห่วงใยต่อการทำลายระบบยุติธรรม ว่า การทุจริตบั่นทอนความเจริญของเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถไปช่วยเหลือคนยากจนที่ด้อยโอกาสได้ โครงการช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ถูกนักการเมืองทุจริตแกร่งแย่งช่วงชิงผลประโยชน์ไปอย่างน่าเศร้าสลดใจ ทั้งนี้ องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้เรียกร้องให้ไทยยุติทำลายระบบยุติธรรม และเห็นว่าการทำลายระบบยุติธรรมเป็นพวกตะกละตะกลาม (greedily) เป็นพวกกินบ้านกินเมือง
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลเพื่อความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องต่อสู้กับกระบวนการทุจริตที่เผชิญกับการถูกฟ้องปิดปาก (SLAPP) ดังนั้น จึงต้องเร่งผลักดันให้มีการแก้กฎหมาย เพื่อป้องกันการฟ้องปิดปากสื่อมวลชน ตลอดจนภาคประชาชนโดยเร็ววัน
“มูลนิธิต่อต้านการทจริตได้ขับเคลื่อนกิจกรรมต่อต้านทุจริตและปลูกฝังหลักธรรมาภิบาลมาเป็นเวลา 9 ปีเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ขอเรียกร้องให้องค์กรและบุคคลที่ได้รับรางวัลอย่าท้อถอย เราต้องร่วมกันยืนหยัดต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป เร่งเพาะบ่มปลูกฝังเด็กเยาวชนให้เห็นถึงภัยอันตรายการคอร์รัปชั่น ให้เขาเหล่านั้นเป็นอนาคตของบ้านเมืองที่เข้มแข็งสืบไป” ศ.พิเศษ วิชา กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และ ประธานสภาธรรมาภิบาลสื่อมวลชนแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจที่มูลนิธิต่อต้านการทุจริตได้มอบรางวัลอันทรงคุณค่า “บุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต” เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่สื่อที่ดี พร้อมสานต่อเจตนารมณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการสร้างความสุจริตให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรและรัฐบาลในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการก็จะไม่ย่อท้อต่อสู้กับขบวนการมิชอบอย่างไม่หยุดยั้ง
นอกจาก ดร.เอก์ จะได้รับ รางวัลบุคคลดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต แล้ว ยังมีบุคคลสำคัญได้รับรางวัลอีก 2 ท่าน ได้แก่ ดร.มานะ นิมิตรมงคลม เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน และ นายสุทธิรักษ์ ยังยิ้ม หัวหน้ากองประจำการรถไฟฯ สำนักงานอาณาบาล การรถไฟแห่งประเทศไทย ส่วน รางวัลองค์กรดีเด่นด้านการต่อต้านการทุจริต มี 3 องค์กร ได้แก่ ภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาลแห่งชาติ ,บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ (สสส.).