ชูธงเชียร์ “มาดามเดียร์” สู้ต่อ รอวันฟ้าเปิด “อัญชลี” อดีต สส.ภูเก็ต ลาออกอีก ทำปชป.ระส่ำ
“คุณหญิงแอ๋ว” ชูธงเชียร์ “มาดามเดียร์” สู้ต่อในฐานะคนรุ่นใหม่ รอวันฟ้าเปิด ขณะที่ “อัญชลี วานิช” อดีต สส.ภูเก็ต โบกมือลาปชป. ฟาดแรงละอายใจผู้นำพรรคคนใหม่เสียสัจจะ
วันที่ 12 ธ.ค.2566 คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคหลังได้ผู้บริหารชุดใหม่ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์เชิงลบอย่างหนักหน่วงว่า ตนพร้อมจะนำพรรคประชาธิปัตย์กลับสู่อ้อมกอดของประชาชน เป็นพรรคการเมืองที่ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนอีกครั้ง ในวันข้างหน้าที่มีโอกาส
พร้อมกันนี้ ตนก็พร้อมและยินดีสนับสนุนบทบาททางการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่คำนึงถึงความชอบธรรม โดยเฉพาะบทบาทฝ่ายบริหารสำหรับผู้หญิงที่มีคุณภาพ
“ดิฉันพร้อมสนับสนุนให้ มาดามเดียร์ มีโอกาสทำหน้าที่บริหารพรรค รวมทั้งคนรุ่นใหม่ทุกคนที่มีความพร้อม มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ถูกต้องกับความต้องการของประเทศชาติและประชาชน เทิดไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง”
คุณหญิงสุพัตรา ยังส่งกำลังใจถึง “ มาดามเดียร์” และเลือดใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอให้คนรุ่นใหม่ได้สู้ต่อไป วันหน้าเราอาจมีเลขาธิการพรรคเป็นสุภาพสตรีที่แข็งแกร่งที่ชื่อ วทันยา บุนนาค ก็เป็นไปได้
“ดิฉันจึงขอยืนหยัดสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในมิติคนรุ่นใหม่ที่ไม่ละทิ้งแนวอุดมการณ์ของบรรพชนประชาธิปัตย์ เราจะช่วยกันนำประชาธิปัตย์กลับคืนมาสู่วิถีธรรม เพื่อยืนเคียงข้างประชาชนต่อไป” อดีตรัฐมนตรีหญิงแกร่งแห่งประชาธิปัตย์ กล่าว
สำหรับคุณหญิงสุพัตรา หรือที่สื่อมวลชนรุ่นใหญ่รู้จักกันดีในชื่อ “คุณหญิงแอ๋ว” เป็นรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยที่มาจากการเลือกตั้ง โดย คุณหญิงสุพัตรา เป็น สส.นครศรีธรรมราชหลายสมัย สืบต่อจากบิดา คือ นายสุรินทร์ มาศดิตถ์ อดีตสื่อมวลชนและนักการเมืองชื่อก้องของภาคใต้ และเป็นนักการเมืองหญิงที่มีบทบาทสูงมากในช่วงที่การเมืองไทยผลัดใบจากประชาธิปไตยครึ่งใบสู่ประชาธิปไตยเต็มใบ
ขณะที่ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตนายกอบจ.ภูเก็ต และ อดีตสส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ หลายสมัย ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า สจฺจํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย .. ถือเป็นคติพจน์ที่ชาวประชาธิปัตย์ทุกคนยึดมั่นในการปฏิบัติตนทางการเมืองมาโดยตลอด
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคในปีพ.ศ.2489 ตั้งแต่หัวหน้าพรรค คนที่ 1 จนกระทั่งถึงคนที่ 8 ดิฉันเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 จวบจนปัจจุบัน 2566 กว่า 31 ปี ด้วยความมั่นคงไม่หวั่นไหวและเป็นนักการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาตลอดชีวิตการเป็นนักการเมืองด้วยความภาคภูมิใจในหลักการ ในอุดมการณ์ที่ซื่อตรงและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลักเสมอมา แลทุกครั้งก็จะบอกพี่น้องประชาชน มวลสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
“จวบจน..9 ธ.ค.2566 มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ที่จะเป็นผู้นำของพรรคประชาธิปัตย์..กลับเป็นผู้’เสียสัตย์’ในสัจจะวาจาว่าจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เมื่อผู้นำพรรคยุคนี้ไม่อาจดำรงคติพจน์แห่งพรรค อุดมการณ์ของพรรค ไม่อาจรักษาสัจจะวาจาแห่งตนได้ ดิฉันจึงขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นับแต่บัดนี้
เพราะละอายใจต่อมวลสมาชิกที่ซื่อตรงต่อพรรค เพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรค พร้อมขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ มวลสมาชิกพรรค เพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองที่ร่วมกันมั่นคงต่อพรรคมาจนถึงวันนี้ จนกว่าเราจะพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ” นางอัญชลี ระบุ.