ศึกปชป. เดือด! “เดียร์”ลั่นไม่ได้เป็นตัวแทนใคร “ชัยชนะ” เชื่อ ราบรื่น “ชวน” อุบชงเชื่อ “มาร์ค”
“มาดามเดียร์” เสียงสั่น ลั่นพร้อมสู้ถึงที่สุด ยันไม่ได้เป็นตัวแทนของใคร หากแพ้ไม่ขอรับตำแหน่ง “ชัยชนะ” เชื่อเลือกหน.ปชป.ครั้งที่ 3 ราบรื่น พร้อมยกมือให้เสียงถึง 3 ใน 4 งดเว้นข้อบังคับเปิดทางให้ “มาดามเดียร์” เสนอตัวได้ “ชวน” อุบ ปัดตอบจะชงชื่อ “อภิสิทธิ์” ชิงชัยอีกครั้ง
วันที่ 9 ธ.ค.2566 ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ “มาดามเดียร์” ประธานคณะทำงานนวตกรรมการเมืองกทม.ในฐานะผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คนที่ 9 ให้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ด้วยเสียงสั่นเครือ ตาแดง แต่เก็บอาการและควบคุมอารมรณ์ จนให้สัมภาษณ์จบโดยยืนยันว่า มาถึงจุดนี้ตนคิดว่าเกินกว่าสิ่งที่จะคิดว่าแพ้หรือชนะ แต่การสู้ให้ถึงที่สุดและทำให้ดีที่สุด เพื่อให้จิตวิญญาณของพรรคประชาธิปัตย์กลับมาให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็พร้อมยอมรับและไม่ค้างคาใจเรา รวมถึงไม่ค้างคาใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เฝ้ารอ ที่อยากจะเห็นอุดมการณ์ของพรรคที่ภาคภูมิใจมาตลอด77ปี และ เป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชาศรัทธาในพรรคจะยังคงฟื้นกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง
น.ส.วทันยา กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ตนไม่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรค ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค หรือ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรคและรักษาหัวหน้าพรรค ส่วนที่มีข่าวว่านายชวนจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ นั้นตนไม่ทราบ แต่คิดว่าผู้ใหญ่ทุกคนล้วนมีเหตุผล ซึ่งตนไม่อาจไปก้าวล่วง และการที่ตนลงสมัครหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ก็เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเองไม่เกี่ยวกับว่าไปคุยกับผู้ใหญ่หรือสส.คนไหนมา
เมื่อถามว่าหากไม่ได้รับชัยชนะจะร่วมทีมกับผู้ชนะหรือไม่หรือต้องดูคณะทำงานก่อน น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ จนกว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนของพรรคจริงๆว่าวิถีแห่งอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงเดิมไม่เปลี่ยน
เมื่อถามว่าจะชูใครเป็นเลขาธิการพรรค น.ส.วทันยา กล่าวว่า ยืนยันเหมือนเดิมยังไม่มีในใจ เพราะได้ตัดสินใจ ตั้งแต่วันแรกแล้วว่า เพราะศรัทธาในวิถีแห่งอุดมการณ์เพราะประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในสองทางแพร่ง ตนเพียงแค่อยากขอลงมือทำในสิ่งที่เชื่อและฝัน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนก็ฝันไม่ต่างจากตน คืออยากเห็นการเมืองที่ซื่อตรงและจริงใจ จึงไม่ได้เกิดจากเสียงที่ตนรวบรวมได้
“ดิฉันไม่มั่นใจว่าจะได้รับการยกเว้นเสียง 3 ใน 4 ที่เป็นสมาชิกไม่ครบ 5 ปีแต่ดิฉันก็เดินหน้าสู้ไปถึงจุดนั้นแล้ว และไม่ได้เป็นตัวแทนของนายอภิสิทธิ์ หรือเป็นตัวแทนของใคร” น.ส.วทันยา กล่าว
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ทุกคนก็รู้หน้าที่ของตัวเองที่ต้องมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ถ้าการเลือกหัวหน้าพรรค มีการเคลื่อนไหวไม่ให้เข้าประชุมล้มเลือกตั้ง แล้วจะไปรณรงค์ให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งคงไม่ได้ เชื่อว่าวันนี้การประชุมจะราบรื่น เพราะเป็นครั้งที่ 3 แล้ว หากทุกคนรักพรรคก็จะต้องทำให้พรรคเดินไปได้เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ที่จะต้องมีการเปลี่ยนผู้นำองค์กรทุก 4 ปี หากเราอยู่ภายใต้องค์กรนี้ ก็ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ100% ใครมาเป็นผู้นำก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ และตนก็อยู่ในองค์กรนี้มานาน ก็ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ตาม
“ขออย่าเรียกว่า เป็นความขัดแย้ง เพราะประชาธิปัตย์ เปิดโอกาสให้ทุกคนลงรับสมัครเลือกตั้งหัวหน้าพรรค จะเรียกความขัดแย้งไม่ได้ ในการลงสมัครเลือกหัวหน้าพรรคเป็นสิทธิเสรีภาพของสมาชิก เมื่อบอกว่าพรรคเป็นพรรคประชาธิปไตยก็ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง” นายชัยชนะ กล่าว
ส่วนการจะขอมติงดเว้นข้อบังคับในวันนี้นั้น ตนเองไม่ทราบว่าคนอื่นคิดยังไง แต่ตนจะยกมือให้ มาดามเดียร์ ให้เได้สียงถึง3ใน4 ขององค์ประชุมเพื่อเปิดโอกาสให้เข้าสู่สนามเลือกตั้ง เพราะเราเป็นพรรคประชาธิปไตยที่ไม่มีเจ้าของพรรค เราเปิดโอกาสให้ทุกคนที่ปรารถนาดีกับพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง ส่วนการเลือกหัวหน้าพรรคจะเลือกใครเป็นอีกเรื่อง
ส่วนกรณี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะตอบรับลงสมัครหรือไม่นั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า สส.และ ตัวแทนสาขาพรรค ได้แสดงเจตนารมย์ในการไปเชิญนายเฉลิมชัยมาลงหัวหน้าพรรค ส่วนท่านจะตัดสินใจรับหรือไม่รับขึ้นอยู่กับนายเฉลิมชัย และ2วันที่ผ่านมา พวกตนได้แสดงถึงจุดยืนและความตั้งในของ สส.แล้ว เพราะเห็นว่า นายเฉลิมชัย มีความเหมาะสม สามารถที่จะยุติความขัดแย้งได้มากที่สุด อาจจะไม่ทั้งหมดแต่ให้เหลือน้อยที่สุด และวันนี้ เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และคิดว่าตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่มีตัวสำรอง และหากนายเฉลิมชัยไม่รับตำแหน่ง ก็คงต้องหารือกันใหม่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะมีการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงชิงตำแหน่งด้วยนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนที่มีความสามารถ หากถูกเสนอชื่อในที่ประชุม แต่การเลือกตั้ง เลือกได้แค่คนเดียว ว่าใครที่เหมาะสมในเวลานี้มากที่สุด
ขณะที่ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวจะเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมฯว่า ถึงเวลาแล้วค่อยบอก เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ในส่วนของกลุ่ม21สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืนยันจะสนับสนุนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายชวน กล่าวว่า อย่างน้อยกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคเป็นไปตามวาระระเบียบข้อบังคับปกติ การเลือกหัวหน้าพรรคไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งอย่างที่เข้าใจกันในแต่ละครั้ง ก็ให้กำลังใจทุกคนที่แข่งขัน
“เพียงแต่ใครก็ตามที่เป็นหัวหน้า ยังไงเราก็ขอให้บริหารพรรคโดยยึดอุดมการณ์พรรค สิ่งแรกคือ การเมืองบริสุทธิ์ ซื่อสัตย์สุจริต ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการยอมรับเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่มีอายุยาวกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่ว่าเรายึดสิ่งเหล่านี้ ถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นพรรคการเมืองโคตรโกง โกงทั้งโคตร ถึงจะอายุยาวเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครยอมรับเป็นสถาบันการเมืองได้ ดังนั้นผู้บริหารพรรคเป็นเรื่องสำคัญมากในการนำพรรค ต้องมองประโยชน์ของประเทศชาติ และอนาคตของระบอบประชาธิปไตยด้วย ไม่ใช่เพื่อเอาตัวรอดของพรรคเพียงอย่างเดียว” นายชวน กล่าว
และ เมื่อถามว่า หากนายเฉลิมชัยได้เป็นหัวหน้าพรรคจริงจะนำพาพรรคเดินไปได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เอาไว้รู้ผลก่อนแล้วกันว่าเป็นอย่างไร เมื่อมีการแข่งขัน สมาชิกจะเลือกใครเป็นหัวหน้าพรรคก็เป็นไปตามที่สมาชิกเขาต้องการ.