อย่าตีขุ่น! คนไทยจะได้ ‘ตาสว่าง’ จากศึกซักฟอกรอบนี้?

จากวลี “ชายคนนั้น” ที่ทำเอา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อดอมยิ้มไม่ได้ ถึงขั้นฮัมเพลงในชื่อเดียวกัน เมื่อ 13 มีนาคม 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล
สู่ในอีก 2 วันถัดมา (15 มี.ค.) เมื่อ แกนนำฝ่ายค้าน ที่ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โฟกัสเฉพาะ “นายกฯอิ๊ง” แต่ขอพ่วง “คนเป็นพ่อ” (ทักษิณ ชินวัตร) ไว้ในญัตติฯ เนื่องเพราะเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือคนในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
การยอมถอยแบบไม่สุดซอย! ของ ฝ่ายค้าน “พรรคประชาชน” รอบนี้ (ถ้าเป็นจริง!!!) ไม่เฉพาะ นายทักษิณ หรือ น.ส.แพทองธาร รวมถึง คนของพรรคเพื่อไทย เท่านั้น ที่พอได้ “ยิ้มมุมปาก” แม้แต่ ประมุขฝ่ายตินิบัญญัติ อย่าง…นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร (และประธานรัฐสภา) ก็พอโล่งอกไปด้วย
สรุปรวมความคือ พรรคประชาชน ยอมแล้ว…แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดีเดย์! 24 มี.ค.2568 ส่วนจะใช้คำไหนแทน “ทักษิณ ชินวัตร” จะเป็นวลีเดิม “ชายคนนั้น” หรือจะเป็น “ใครคนนั้น” แม้กระทั่ง “สทร.” แทนก็ได้
นายวันมูหะมัดนอร์ พูดถึงประเด็นข้างต้น “ใช้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นวลีไหน? ขอเพียงไม่เอ่ยชื่อคน ซึ่งก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นเป็นพอ”
แค่นี้…ศึกซักฟอก “นายกฯอิ๊ง” ก็เดินหน้าต่อไปได้ แต่ต้องเดินในท่ามกลาง “กองทัพองครักษ์พิทักษ์นายน้อย” ล่ะกัน
“ขณะนี้ ฝ่ายค้านยอมแก้ไขญัตติแล้ว ก็คงไม่มีปัญหาอะไร รอหนังสือที่มีการแก้ไขเข้ามา คงจะเป็นวันที่ 17 มี.ค. โดยเมื่อพิจารณาเรียบร้อย จะสั่งให้บรรจุระเบียบวาระทันที่ จากนั้นในวันที่ 18 มี.ค.จะส่งให้นายกรัฐมนตรี เพื่อกำหนดวันเปิดอภิปราย หากเป็นไปตามนี้ ก็น่าจะทันเปิดอภิปรายในวันที่ 24 มี.ค.ที่จะถึงนี้เช่นกัน” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุและว่า…
คำของฝ่านค้าน…จะเป็นคำอะไรนั้น ตอนนี้ ยังไม่ได้บอกมา เพียงแต่บอกว่าอยู่ในหลักการกว้างๆ และไม่ผิดข้อบังคับ ไม่เอ่ยชื่อบุคคลใด แต่หากมีการแก้ใหม่อีกรอบแล้วยังผิดข้อบังคับอยู่ ก็ต้องให้แก้ไขใหม่ แต่ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเปิดอภิปรายให้ทันวันที่ 24 มี.ค. สามารถขยับเวลาได้ถึงวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ ส่วนตัวคิดว่าประชาชนจะได้ฟังการอภิปรายอย่างเรียบร้อยและถูกต้องตามข้อบังคับ
แม้คำๆ นั้น อาจรุนแรงกว่า “ทักษิณ ชินวัตร” เช่นที่ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตประธานสภาฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ก่อนหน้านี้ ก็ตาม ขอเพียง “ไม่ผิดกติกา” เท่านั้นพอ
ส่วนกรอบเวลาจะกี่ชั่วโมงกี่วันนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ย้ำว่า ขึ้นกับการตกลงของวิป 3 ฝ่าย ซึ่งพูดคุยไปแล้วรอบหนึ่ง หากวันที่ 19 มี.ค.นี้ ได้คุยกันอีกรอบก็คงเรียบร้อย ตกลงกันได้ สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง
นาทีนี้ คงต้องลุ้นกันอีกรอบ! เพราะดูคำให้สัมภาษณ์ท้ายๆ ของ นายวันมูหะมัดนอร์ แล้ว ก็ไม่ชัวร์ว่า คำที่ฝ่ายค้านจะเปลี่ยนนั้น เป็นคำใด? ขัดใจคนของ “นายใหญ่” หรือไม่? ถ้าขัดใจ กรอบเวลาเดิม…24 มี.ค. ที่เตรียมจะ ดีเดย์! เปิดอภิปรายฯ ก็คงเปลี่ยนไป ส่วนจะเป็นกี่วัน? และกี่ชั่วโมง? คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้ว
ถ้าฟังเสียงของ “ตัวตึง” ฝั่งรัฐบาล อย่าง…นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อในทำนอง…
“รัฐบาลใจกว้างและยอมถอยสุดๆ แล้ว เหลือแต่ฝ่ายค้าน ที่ยังไม่ยอมถอย ถ้าตกลงกันได้การอภิปรายก็สามารถเดินหน้าได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ การกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจล่าช้า หรืออาจไม่ทันสมัยประชุมนี้ ที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย.”
เขาย้ำว่า… การที่ฝ่ายค้านเสนอกรอบเวลาอภิปรายเฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว 30 ชั่วโมง ขอเวลาอภิปราย 3 วัน ไม่รวมลงมติอีก 1 วัน นั้น มากเกินไป ไม่สมเหตุสมผล รัฐบาลเสนอในกรอบเวลา 30 ชั่วโมง ให้เป็นของฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 10 ชั่วโมง ใช้เวลาอภิปราย 2 วัน ไม่รวมลงมติอีก 1 วัน
“ถ้าฝ่ายค้านยอมถอย การกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจก็สามารถเดินหน้า หรือในกรอบเวลา 30 ชั่วโมง ให้เป็นของฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง ที่รัฐบาลถอยสุดๆ แล้ว ถ้าฝ่ายค้านไม่ยอมถอย ก็ไม่สามารถตกลงกันได้”
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวอีกว่า เวลาบีบเข้ามาทุกขณะสมัยประชุมนี้จะปิดในวันที่ 10 เม.ย. ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ รัฐบาลไม่ได้เดือดร้อน จึงต้องถามฝ่ายค้านว่าแท้จริงแล้วมีข้อมูลเด็ดหรือมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่?
ลุ้นกันว่า…หาก วิป 3 ฝ่าย พูดจาภาษาเดียวกัน ในวันหารือ 19 มี.ค.นี้ โดยไม่มี ตัวเสี้ยมหน้าไหน? มาคอย ปลุกปั่น…ยั่วน้ำโห ฝ่ายค้าน แล้วล่ะก็
คำๆ นั้น ก็ไม่น่าจะเกินเลยกรอบข้อตกลง ระหว่าง ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ กับ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน
ถึงตอนนั้น….ประชาชนคนไทย จะได้หูตาสว่างกับข้อมูลเชิงลึกของทีมซักฟอก…พรรคประชาชน!!!.