‘ผู้นำไทย’ โชว์กึ๋น! ชูแนวคิดขับเคลื่อน ‘อาเซียน +3’ เสริมความมั่นคงเอเชีย/ตอ.

“นายกฯอนุทิน พร้อมผู้นำชาติอาเซียน ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน +3 ครั้งที่ 28 เผย! ไทยเสนอแนวคิด “ความมั่นคง 3 เสา” ด้านการเงิน ดิจิทัล และมนุษย์ หวังขับเคลื่อนความร่วมมือในภูมิภาค เสริมความแข็งแกร่งอาเซียนและพันธมิตรเอเชียตะวันออก “จีน – ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้”
วันนี้ (27 ต.ค.2568) ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เข้าร่วมการประชุม สุดยอดอาเซียน +3 (ASEAN Plus Three Summit: APT) ครั้งที่ 28 ร่วมกับ ประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยมี ผู้นำชาติอาเซียน เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นพร้อมหน้า
นายอนุทิน กล่าวว่า กลไก “อาเซียน +3” เป็นเวทีความร่วมมือหลักที่สร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรมให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินปี 1997 จนถึงการรับมือกับโควิด-19 และภัยพิบัติทางธรรมชาติ พร้อมระบุว่าโลกปัจจุบันมีความซับซ้อนและเปราะบางมากขึ้น จึงจำเป็นที่อาเซียนและประเทศบวกสามต้องเสริมความร่วมมือให้เท่าทันและครอบคลุม เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ยังได้เสนอแนวคิด “3 Securities Approach” หรือ “ความมั่นคง 3 เสา” เพื่อเป็นทิศทางขับเคลื่อนความร่วมมือ “อาเซียน +3” ในอนาคต ดังนี้
1. ความมั่นคงทางการเงิน (Financial Security) ไทยเสนอให้ยกระดับ “ข้อริเริ่มเชียงใหม่พหุภาคี” (Chiang Mai Initiative Multilateralisation: CMIM) สู่การจัดตั้งกลไก “Rapid Financing Facility” เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินได้อย่างทันท่วงทีในภาวะวิกฤต พร้อมสนับสนุนถ้อยแถลงว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค เพื่อสร้างระบบความมั่นคงทางการเงินที่ยืดหยุ่นและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
2. ความมั่นคงทางดิจิทัล (Digital Security) นายกรัฐมนตรีไทย ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลควรเกิดขึ้นอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะ ในระดับชุมชนและผู้ประกอบการ MSMEs เพื่อให้เทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียม ไทยสนับสนุนการจัดทำ “ข้อตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน” (ASEAN Digital Economy Framework Agreement: DEFA) ซึ่งจะเป็นโอกาสใหม่ทางการค้า การลงทุน และนวัตกรรม พร้อมเสนอให้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีคอมเมิร์ซ และแรงงานดิจิทัล ควบคู่กับการป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัยและยั่งยืน
3. ความมั่นคงของมนุษย์ (Human Security) นายอนุทิน เน้นย้ำว่า “ประชาชนคือหัวใจของความร่วมมืออาเซียน +3” โดยไทยผลักดันการเสริมความมั่นคงทางอาหารผ่านเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Agriculture) และ การพัฒนาโครงการสำรองข้าวฉุกเฉินอาเซียน +3 (APTERR) ให้ตอบสนองต่อความต้องการได้รวดเร็ว พร้อมขยายความร่วมมือครอบคลุมสินค้าเกษตรอื่น ๆ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทย ยังได้เสนอให้ อาเซียน +3ใช้ประโยชน์จาก ศูนย์อาเซียนในประเทศไทย เช่น ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและมีนวัตกรรม (ACAI) และ ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (ACSDSD) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเงินสีเขียว และพลังงานสะอาด
ในตอนท้าย นายอนุทิน ได้แสดงความชื่นชมต่อ ประเทศคู่เจรจา +3 ที่มีบทบาทสร้างสรรค์และสนับสนุนการพัฒนาอาเซียน พร้อมยืนยันว่า…ไทยจะร่วมมืออย่างแข็งขัน เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความเข้มแข็งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ที่ประชุมฯได้ร่วมรับรอง แถลงการณ์ผู้นำอาเซียนบวกสามว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นกรอบขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันในอนาคต.






