นายกฯหนุนร่วมมือ ‘ไทย-ลาว’ ทุกด้าน – ดันเป้าการค้า 11 พันล้านดอลล์ในปี’70

“นายกฯอนุทิน” เยือน สปปงลาว ครั้งแรก ประกาศร่วมผลักดันความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการคมนาคม ตั้งเป้ามูลค่าการค้า 11,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2027 (2570) ก่อนประชุมร่วม “ทีมไทยแลนด์ – เอกชนไทย” ใน สปป.ลาว วอนร่วมหนุนสร้างเครือข่าย “Friends of Thailand” ผลักดันผลประโยชน์แบบ win-win

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินทางไปเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–ลาว ในปีนี้ 2568 ที่ผ่านมา โดยหลังจากหารือเต็มคณะ ร่วมกับ นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว แล้ว “โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เปิดเผยถึงสาระสำคัญของการหารือ ว่า ไทยและสปป.ลาว มีเป้าหมายร่วมกัน คือ ยกระดับความมั่นคง เศรษฐกิจ การคมนาคม–โลจิสติกส์ และพลังงาน โดยตั้งเป้าการค้าทวิภาคีแตะ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2027 ควบคู่การผลักดัน “ความตกลงการค้าเสรี (FTA)” และความร่วมมือที่จำเป็นต่อห่วงโซ่อุปทานภูมิภาค
ด้านความมั่นคง ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงเร่งปราบอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะยาเสพติด การฉ้อโกงออนไลน์ และค้ามนุษย์ ไทยจะสนับสนุนงบประมาณและองค์ความรู้ให้เจ้าหน้าที่ลาว เพิ่มจุดประสานงานกลาง (contact point) ระหว่างหน่วยงานลาวกับ “ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์นานาชาติ” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย เพื่อยกระดับการสกัดกั้น–แลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมเตรียมตั้งศูนย์เยียวยาผู้เสียหายจากค้ามนุษย์สำหรับสองประเทศ
ด้านสิ่งแวดล้อมและน้ำโขง ต่างเห็นพ้องร่วมแก้หมอกควันข้ามแดนผ่านยุทธศาสตร์ CLEAR Sky โดยไทยช่วยลาวใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูล–แจ้งเตือนประชาชน และร่วมมือบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำโขงอย่างเป็นระบบ

ด้านเศรษฐกิจ–โลจิสติกส์ ไทยผลักดันประชุม COOP ครั้งที่ 8 (พาณิชย์–อุตสาหกรรมและการค้าลาว) เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า เน้นการค้าชายแดนและเครือข่าย SMEs พร้อมขยับโครงสร้างพื้นฐานหลัก ได้แก่ เปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ–บอลิคำไซ) เสริมกำลังสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 (หนองคาย–เวียงจันทน์) ปรับปรุงทางหมายเลข 12 และพิจารณาช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับสะพานข้ามโขง (เชียงแมน–หลวงพระบาง) รวมถึงศึกษาสะพานรถไฟข้ามโขงแห่งใหม่และแผนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ไทย–ลาวครบวงจร เป้าหมายคือให้การขนส่งผ่านแดนคล่องตัว ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สาม และเชื่อมต่อรถไฟลาว–จีนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้านพลังงาน ทั้ง 2 ฝ่าย ให้ความสำคัญความร่วมมือใกล้ชิดเพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมสีเขียว โดยไทยเสนอสนับสนุนการลงทุนและโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงรูปแบบผลิตไฟฟ้าร่วมกัน เพิ่มเสถียรภาพพลังงานภูมิภาค
ส่วน กรอบพหุภาคี ฝ่ายไทยยืนยันบทบาทเชิงรุกเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนในเมียนมา และมองว่าการเลือกตั้งปลายปีจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนผ่าน แม้ยังต้องติดตามเงื่อนไขความปลอดภัยและการมีส่วนร่วมทางการเมือง

ในช่วงบ่าย นายกฯอนุทิน ได้ประชุมร่วมกับ “ทีมไทยแลนด์–เอกชนไทย” ในลาว โดยขอให้ ธุรกิจไทยดำเนินงานอย่างรับผิดชอบเพื่อภาพลักษณ์ “นักลงทุนคุณภาพที่ลาวไว้วางใจ” และสนับสนุนการสร้างเครือข่าย “Friends of Thailand” เพื่อผลักดันผลประโยชน์ร่วมกันแบบ win–win ซึ่ง ที่ประชุมได้หารือใน 5 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่ (1) การค้า–การลงทุน: เดินหน้าเป้าการค้า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2027 และเตรียมประชุม JC/COOP เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและ SMEs (2) โลจิสติกส์: ขอความร่วมมือลาวดูแลการขนส่งผลไม้ไทยผ่านลาวไปจีน และการใช้สถานีเวียงจันทน์เพื่อขึ้นรถไฟลาว–จีนโดยตรง (3) ภาษี: แก้กฎระเบียบภาษีให้โปร่งใส ลดต้นทุนการผลิต (4) บุคลากร: พัฒนาทักษะแรงงานลาวรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมไทย และ (5) อัตราแลกเปลี่ยน: เตรียมมาตรการรับมือความผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน.