เกมสั้น : เดิมพันยาว

ท่ามกลางสายน้ำที่เชี่ยวกราก! “รัฐบาล 4 เดือน” ของ “นายกฯอนุทิน” อาจถูกท้าทายและเดิมพันสูง! ด้วย “เวลา” เพราะหากคว้า Quick Big Win ในเกม “อายุสั้น…แต่เดิมพันยาว 4 ปีหน้า” ได้ทันฤดูฝนและน้ำหลากในปีนี้? บน “เกมอำนาจ” ที่ไม่รอใคร! สิ่งเดียวที่ยืนยาวกว่า “วาระรัฐบาล” นั่นคือ…ความทรงจำของคนไทย

สถานการณ์การเมือง! ก่อนถึงห้วง “ปลายฝนต้นหนาว” ที่เชื่อกันว่า…หากปีไหนมีปริมาณน้ำเยอะ ปีนั้น…อากาศจะหนาวมากกว่า…

เป็นสถานการณ์ที่พูดได้ว่า…ถนนทุกสายในทางการเมือง ไหลเข้ามาซบ…พรรคสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย”???

มาแล้ว…ก็จะตามมากันอีก จนหลายคนวิจารณ์ ว่าเป็น…พรรคภูมิใจดูด!!! และเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะ “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” ที่ตอบคำถามนี้…

“ถ้าดูด ส.ส.ดีๆ มาช่วยทำงานให้ชาติบ้านเมือง…มารับใช้ประชาชน ก็ต้อง “ภูมิใจดูด”…”

สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็น “พรรคแม่เหล็กแรงสูง!” ดึงดูดนักการเมืองต่างพรรค…ต่างขั้ว? ไหลเข้ามาเรื่อยๆ และจะไหลอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมาย ส.ส. 100 อัพ! คงไม่ไกลเกินฝัน!!!

กลับสู่…หัวเรื่องหลัก! ท่ามกลางสภาพแวดล้อม ที่ก็เป็นมาอย่างนี้ทุกปี…ทุกครั้งที่เกิดฤดูพายุพัดถล่ม! ฝนฟ้าตกหนาแน่น อาการ “น้ำท่วมหนัก!” ในหลายพื้นที่ ทั้งในตัวเมือง บ้านเรือน เรือกสวนไร่นา เป็นกันมาอย่างนี้…ซ้ำซาก!!??

หน้าฝน…น้ำท่วมหนัก! หน้าร้อน…น้ำแห้งแล้งยาวนาน?

หาใคร? ไม่ว่าจะเป็น…นักการเมือง หรือข้าราชการประจำ เข้ามาแก้ไขปัญหาข้างต้นได้อย่างตรงจุด…ไม่เจอ!!!

กับ สถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ ทั้ง…ปัญหาลมฟ้าอากาศ และ ปมกระทบกระทั่งกับประเทศข้างบ้าน “กัมพูชา”

บางเรื่อง Uncontrolled ควบคุมไม่ได้!!! บางเรื่องเกิดขึ้นมาก่อนที่ “รัฐบาลอนุทิน” จะเข้ามาบริหารประเทศ???

แต่เมื่อต้องทำหน้าที่ “ผู้นำประเทศ” ในรัฐบาล 4 เดือน หน้าที่ของ “นายกฯอนุทิน” กับการแก้ไขสถานการณ์นี้…ก็มิอาจปฏิเสธได้!!!

ในช่วงฤดูน้ำหลาก…หลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วมหนัก! โชคดีของทุกรัฐบาล เพราะมี…ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมถึงภาคประชาสังคม ที่ต่างก็ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัย ได้อย่างตรงจุดและเท่าทัน!!!

ทว่าหากเป็นไปได้ ก็ไม่ควรให้สถานการณ์นี้ มา “รีบรัด” ความรู้สึกที่ต้องหวาดกลัวและวิตกกังวลใจของประชาชนที่อยู่ในข่ายต้อง “รับน้ำ” จากมวลน้ำ 3 เคสท์ “น้ำเหนือ – น้ำฝน – น้ำหนุน”  

โดยเฉพาะ ภาคกลางตอนล่าง จนถึง กรุงเทพฯและปริมณฑล

ต้นปี 2562 ยุค “รัฐบาลลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ยามนั้น คิดทำโครงการสำคัญที่เชื่อกันว่า…น่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา “น้ำท่วม – น้ำแล้ง” ได้อย่างตรงจุดที่สุดโครงการหนึ่ง!

นั่นคือ…โครงการคลองระบายน้ำหลาก บางบาล–บางไทร หรือที่คนทั่วไปเรียกขานเป็น “คลองเจ้าพระยา 2”

ขนาดคลอง…กว้างเฉลี่ย 200 ม. (ลดเหลือ 110 ม.ในบางช่วงของเขตชุมชนเมือง) ยาว 22.5 กม. ด้วยงบประมาณช่วงแรก เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2562 วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท ก่อนมาปรับเพิ่มเป็น 2.54 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 1 ต.ค.2567

ตามแผนจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ในราวปี 2569 – 2570

เทียบไทม์ไลน์…โครงการ “คลองเจ้าพระยา 2” เกิดขึ้นมาก่อน และกว่าจะแล้วเสร็จ กระทั่งเปิดใช้งานอย่างจริงจัง “รัฐบาลอนุทิน” ก็ไปแล้ว…

ความเกี่ยวพัน…แทบจะไม่มี แต่หาก “นายกฯอนุทิน” คิดจะทำให้มี…ก็ทำได้!!!

ก่อนหน้านี้ “นายกฯอนุทิน” ก็เพิ่งประกาศนโยบาย Quick Big Win – อะไรทำได้…ต้องรีบทำก่อน สิ่งนี้…สามารถจะนำมาเชื่อมโยงกับ โครงการ “คลองเจ้าพระยา 2” และแผนแก้ไขปัญหา “น้ำท่วม – น้ำแล้ง” ได้อย่างน่าสนใจ???

พรรคการเมืองทุกพรรค นักการเมืองทุกคน ต่างรู้กันดี???

ปัญหาภัยน้ำท่วม ไม่ใช่แค่ปัญหาธรรมชาติ แต่มันคือ “บทสอบ” ของ “ผู้นำรัฐบาล” ที่จะใช้วัดความสามารถ ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ตกเป็น “ผู้ประสบภัยฯ”

แม้จะเป็น “รัฐบาล 4 เดือน” และ มีเวลาทำงานจริงเพียงหนึ่งฤดูฝน เท่านั้น แต่หากคิดจะแก้ไขปัญหานี้ให้กับคนไทย นายกฯอนุทิน และคณะรัฐมนตรีของเขา ก็จะต้องดำเนินการ ที่ทุกการตัดสินใจ…จะต้องคำนวณอย่างแม่นยำและรวดเร็วที่สุด!

“อะไรทำได้…ต้องรีบทำก่อน” นี่คือ จังหวะที่ “ผู้นำ” ต้องเลือก “Quick Big Win” สร้างผลลัพธ์ที่ทำให้ประชาชนได้เห็นและรู้สึกได้ทันที

แม้จะเป็น…รัฐบาลอายุสั้น แต่หากทำได้ถูกจังหวะ ผลลัพธ์อาจยาวไกลกว่าวาระที่มีแค่ 4 เดือนก็เป็นได้!!!

แน่นอนว่า “นายกฯอนุทิน” ย่อมรู้ดี?…ถึง บททดสอบภาวะ “ผู้นำ” ของเขา จึงเลือกที่จะตอบสนองต่อแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างรวดเร็วและทันทีที่มีสัญญาณ “น้ำล้นเขื่อน!”

นั่นคือ การแต่งตั้ง “คณะกรรมการปฏิบัติการระบายน้ำ” และมอบหมายให้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรฯ เป็นประธาน เพื่อ “รวมศูนย์” การตัดสินใจการแก้ไขปัญหาน้ำ มาไว้ที่ “รัฐบาลกลาง”

มันคือ การส่งสัญญาณทางการเมือง อย่างชัดเจนว่า…รัฐบาลนี้จะไม่ยอมแพ้กับเงื่อนเวลาที่มีน้อย หรือระบบราชการที่เชื่องช้า

นั่นเพราะแนวคิดในการทำงานของ “รัฐบาลอนุทิน” นั่นคือ…“เวลาสั้น แต่ต้องทำให้ได้ผลยาว” และ “หัวใจคือประชาชน”

ภาพของ “นายกฯอนุทิน” ลงพื้นที่…อยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ท่ามกลางน้ำท่วมสูงระดับเข่า พร้อมคำพูดว่า…

“รัฐบาลนี้จะไม่ปล่อยให้ประชาชนเผชิญน้ำลำพัง”

สิ่งนี้….กลายเป็น สัญลักษณ์ทางการเมืองชุดใหม่ ของ “ผู้นำ” ที่เลือกลงพื้นที่และลงมือปฏิบัติจริง! มากกว่าจะนั่งอยู่แต่บนโต๊ะทำงานในห้องแอร์

เพราะในสถานการณ์ที่…ผู้คนกำลังลำบาก สิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่คำอธิบายจากเจ้าหน้าที่ แต่คือ…น้ำเสียงของ “ผู้นำ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้า และพูดว่า…

“ผมอยู่ตรงนี้กับคุณ”

ภายใต้ภาพการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ คำถามใหญ่? ที่ยังค้างคาอยู่ในใจของคนภาคกลาง

“แล้วปีหน้า น้ำจะท่วมอีกไหม?”

คำตอบของคำถามนี้ ไม่ได้อยู่ที่ เครื่องสูบน้ำหรือถุงยังชีพ แต่อยู่ที่ “โครงสร้างการจัดการน้ำของประเทศ” ซึ่งหมายรวมถึงโครงการขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “คลองเจ้าพระยา 2”  ที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อรับน้ำจากตอนบนของลุ่มเจ้าพระยาและระบายลงสู่ปลายน้ำให้เร็วขึ้น

เป้าหมายคือ “ลดระดับน้ำท่วม” ในพื้นที่อยุธยาและปทุมธานี ได้เฉลี่ย 30–50 เซนติเมตร  

ข้อเท็จจริงทางเทคนิคชี้ชัดว่า… “รัฐบาลอนุทิน” ไม่ได้เป็นผู้เริ่มโครงการนี้ แต่ในทางการเมือง “ใครสานต่อจนจบ” มักได้รับเครดิตมากกว่า “ใครเริ่มต้น”

และในพื้นที่ที่ประชาชน ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี พวกเขาไม่สนใจว่า…โครงการเริ่มเมื่อใด? แต่อยากรู้ว่า “รัฐบาลนี้จะทำให้มันเสร็จหรือไม่?”

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ! ที่ “รัฐบาลอายุสั้น” สามารถสร้างภาพของ “ผู้นำ” ที่ “ทำสั้นแต่ให้ผลยาว” ได้อย่างทรงพลัง

หาก “นายกฯอนุทิน” เลือกเดินเกมอย่างชาญฉลาด??? เขาอาจใช้ สถานการณ์น้ำท่วมหนักในปีนี้ เป็น “Quick Big Win” ของรัฐบาล ด้วยการประกาศ…เร่งรัด “คลองเจ้าพระยา 2” ให้เดินหน้าเร็วที่สุด!! พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทำนอง…

“หากติดขัดอะไร ให้รายงานตรงถึงรัฐบาล”

แล้วย้ำต่อสาธารณะว่า…“รัฐบาลนี้จะไม่เริ่มใหม่ แต่จะเร่งให้เห็นผล”

คำประกาศเช่นนี้…จะทำให้ โครงการ “คลองเจ้าพระยา 2” ถูกย้ายจากสถานะว่าเป็น “ของรัฐบาลก่อน (ลุงตู่)” กลายเป็น “ของรัฐบาลนี้ (อนุทิน)” ในทางการเมืองทันที!!!

แนวทางนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หลายรัฐบาลเคยใช้ “โครงการต่อยอด” เป็นเครื่องสร้างผลงานและเครดิต เช่น โครงการระบบราง โครงการทางด่วน หรือประกันรายได้เกษตรกร

“จุดสำคัญ” ไม่ใช่ว่า…ใครริเริ่ม แต่เป็นใครที่ “ปิดเกม” ได้สำเร็จ มากกว่า…

ในสังคมที่ประชาชนรู้เบื่อหน่ายกับความล่าช้า คำว่า “รัฐบาลนี้ทำให้เสร็จ” ย่อมมีน้ำหนักมากกว่าคำว่า “รัฐบาลนั้นเป็นคนเริ่ม” เสมอ!!!

อย่างไรก็ตาม เกมนี้…ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย??? เพราะสถานการณ์น้ำปีนี้ รุนแรงกว่าที่คาด พายุหลายลูกเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ต้องระบายน้ำจากเขื่อนมากกว่าปกติ การสื่อสารต่อสาธารณะ…หากขาดเอกภาพ ก็อาจกลายเป็น “ดาบสองคม” ได้

เพราะในยุคที่ “ข้อมูลไหลเร็ว” ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย สามารถกลายเป็นกระแสโจมตีได้ทันที!

รัฐบาลนี้ จึงต้องสื่อสารให้ชัดว่า…การระบายน้ำ คือ มาตรการจำเป็น ไม่ใช่ความล้มเหลวในการบริหารน้ำ

อีกด้านหนึ่ง “คลองเจ้าพระยา 2” ยังต้องเดินควบคู่ไปกับการ “ป้องกัน” โบราณสถานในเขตมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา เพราะเส้นทางของคลองอยู่ใกล้แหล่งประวัติศาสตร์สำคัญหลายแห่ง ทั้ง วัดไชยวัฒนาราม วัดพุทไธศวรรย์ และหมู่บ้านโปรตุเกส ฯลฯ

หากเกิดปัญหา “น้ำกัดเซาะ” หรือ “โบราณสถานพังทลาย” ขึ้นมา ภาพทางการเมืองจะเสียหายทันที!!!

เพราะไม่มีอะไร…จะมาทำลายความเชื่อมั่นของสังคม ได้เร็วเท่ากับ…การทำลาย “สมบัติของชาติ”

ในระยะสั้น “นายกฯอนุทิน” จึงจำเป็นจะต้อง “เดินเกมสองหน้า?”

หน้าแรก คือ ลงมือแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าให้เห็นผลเร็ว และ อีกหน้า คือ การสื่อสารเชิงนโยบายที่วางรากฐานระยะยาว

แม้รู้ดีว่า…ตัวเองจะอยู่ในตำแหน่งเพียงไม่กี่เดือน แต่การประกาศว่า “รัฐบาลนี้จะทำในสิ่งที่คนก่อนเริ่มไว้ให้สำเร็จ” ก็จะทำให้ประชาชน ได้มองเห็นภาพ…

“รัฐบาลที่ทำงานต่อเนื่อง” ไม่ใช่ “รัฐบาลเฉพาะกิจ” ที่มาแล้วก็ไป

หาก “นายกฯอนุทิน” สามารถเร่งรัดให้ “คลองเจ้าพระยา 2” คืบหน้าเกิน 80% ภายในกลางปี 2569 ช่วงที่เขายังคงทำหน้าที่ “รัฐบาลรักษาการ” พร้อมแถลงข่าวในท่วงทำนอง…

“โครงการนี้…จะแล้วเสร็จในรัฐบาลสมัยหน้า แต่รัฐบาลชุดนี้ ได้ปูทางเอาไว้ให้แล้ว”

นั่นจะเป็นการ “ปักธง” ทางการเมืองที่ทรงพลังอย่างที่สุด!!! เพราะใน…วันเลือกตั้ง กับ…วาทกรรมทางการเมือง อย่างวลี… “อย่าเปลี่ยนม้ากลางน้ำ” จะถูกใช้ได้อย่างมีน้ำหนักทันที!!!

ซึ่งก็คงไม่ใช่เพียง… “คลองเจ้าพระยา 2” แต่ยังหมายรวมถึง โครงการก่อสร้าง “รัว/กำแพงกั้นแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา” ที่ได้เริ่มกันจริงๆ ใน “รัฐบาลอนุทิน” อีกด้วย

แม้ รัฐบาลนี้…จะมีเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่หากเข้าใจจังหวะและกล้าที่จะ “ทำสั้นแต่ให้ผลยาว”

นายกฯอนุทิน จะสามารถแปรเปลี่ยนฤดูฝนที่เกิดภาวะน้ำไหลหลาก ให้กลายเป็น “ฤดูแห่งศรัทธา” ได้ในทันที เช่นกัน!!!

เพราะในท้ายที่สุด “หัวใจของการเมือง” ไม่ใช่การอยู่ได้นาน แต่คือการอยู่ในใจประชาชน!!!

“หัวใจคือประชาชน” ไม่ใช่แค่สโลแกนหาเสียง แต่คือ “คำตอบเดียว” ที่ทำให้รัฐบาลใด ๆ อยู่รอดได้ในวันที่ทุกคนกำลังลอยคออยู่กับน้ำ

“รัฐบาลอนุทิน” อาจได้ชื่อว่าเป็น “รัฐบาล 4 เดือน” แต่ถ้า “ควบคุมเกมแห่งสายน้ำ” ได้ดี? ก็อาจกลายเป็น…

รัฐบาลที่ถูกจดจำ ว่า…สามารถใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนสร้างความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกของผู้คนได้ยาวนานกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา

และนั่นคือ Quick Big Win” ที่อาจปูทางไปสู่ “รัฐบาลอนุทิน 2” ได้โดยไม่ต้อง…ใช้คำสัญญาใด ๆ เพิ่มอีกเลย!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password