“ภูมิธรรม” จับเข่า! ถก “ฉางอัน ออโตโมบิล” ใช้ไทยเป็นฐานผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า”
“ภูมิธรรม” หารือ ประธานฉางอัน ออโตโมบิล ชื่นชมความสำเร็จในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ขอให้ช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ทั้งการวิจัย พัฒนาชิ้นส่วนและอุปกรณ์ เชื่อมโยงอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ และพัฒนาบุคลากรไทย
วันที่ 27 พ.ย. 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับ นายจรู ฮวาหลง (Mr.Zhu Huarong) ประธานบริษัทฉางอัน ออโตโมบิล และ คณะ ที่ห้องรับรอง ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ว่า กระทรวงพาณิชย์ชื่นชมในการเติบโตและความสำเร็จของฉางอัน ออโตโมบิล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน ที่มีความเชี่ยวชาญในกระบวนการทำงานด้านต่าง ๆ ทั้งการวิจัยและพัฒนารถยนต์ รวมถึงทุกขั้นตอนในการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ รวมถึงได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา 10 แห่ง ในกว่า 6 ประเทศ ในจีน อิตาลี ญี่ปุ่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และเยอรมัน พร้อมร่วมมือกับแบรนด์รถยนต์ชื่อดังของโลกหลายแบรนด์ เช่น Ford / Mazda / Suzuki และ Peugeot เป็นต้น
โดยได้แสดงความยินดีที่โครงการลงทุนของฉางอัน ออโตโมบิล ได้รับการอนุมัติจาก BOI เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศครั้งสำคัญของไทยในปี 2566 และเป็นโครงการลงทุนครั้งใหญ่โครงการแห่งแรกนอกประเทศจีนของฉางอัน ออโตโมบิล มีเป้าหมายในการผลิตและการพัฒนาในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรมนุษย์ ห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทจะพัฒนาโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด 4 จังหวัดระยอง บนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 24,000 ล้านหยวน (ประมาณ 118,000 ล้านบาท) และเกิดการจ้างงานกว่า 2,600 อัตรา
“ด้วยการลงทุนในไทยเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV, PHEV, REEV และแบตเตอรี่ เป็นการรวมหน่วยงานวิจัยและพัฒนา การผลิต การสนับสนุนชิ้นส่วน การจำหน่าย และการจัดส่งเอาไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทย เป็นประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ดีของทั้ง 2 ประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนไทย ให้ไทยเป็นฐานการผลิตต่อไป ถ้ามีสิ่งใดที่รัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ช่วยสนับสนุน เพื่อการเจริญเติบโตของทั้ง 2 ประเทศได้ก็ยินดี” นายภูมิธรรม กล่าว
โดยนายภูมิธรรมได้เสนอแนะให้บริษัทพิจารณาใน 3 เรื่อง 1.สนับสนุนการพัฒนาและวิจัย การผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ที่เป็น OEM (Original Equipment Manufacturer) 2.ส่งเสริมการยกระดับความเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ (Supply Chain Management) และ3.ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมยานยนต์ไทย ให้แรงงานไทยที่มีศักยภาพได้เรียนรู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ 2 ประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการหารือนายภูมิธรรม ได้ลองนั่งรถ EV รุ่นใหม่ของบริษัทที่บริเวณลานชั้น 3 ของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ นายจรู ฮวาหลง(Mr.Zhu Huarong) ประธานบริษัทฉางอัน ออโตโมบิล ที่นำมา จำนวน 2 รุ่น SUV และซีดาน คือ รุ่น DEEPAL S07 และรุ่น DEEPAL L07 โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ จะเป็นรุ่นที่มาผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย โดยฉางอันมีเป้าหมายการลงทุนในไทย ประกอบด้วยบริษัทที่ดูแลการจำหน่าย โรงงานผลิตในประเทศ และผลิตชิ้นส่วนในประเทศ ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่งานตัวถัง งานพ่นสี งานประกอบชิ้นส่วนเทคโนโลยีต่าง ๆ งานตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด จนกลายเป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ โดยวางกำลังการผลิตในระยะแรก 100,000 คันต่อปี เพื่อรองรับตลาดในประเทศ และส่งออกไปยังอาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และ แอฟริกาใต้.