สรรพสามิตจับบุหรี่เถื่อนต่อเนื่อง จ.กระบี่ มูลค่าปรับกว่า 20 ลบ.
สรรพสามิตเดินหน้าปราบบุหรี่เถื่อนลักลอบหนีภาษีต่อเนื่อง ล่าสุดจับบุหรี่เถื่อน ณ ศูนย์กระจายสินค้าของเกาะลันตา จ.กระบี่ จำนวน 21,490 ซอง มูลค่าปรับกว่า 20 ล้านบาท
นายภาคภูมิ ตันธนศรีกุล เลขานุการกรม ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวถึง ความคืบหน้าในการดำเนินมาตรการปราบปรามบุหรี่เถื่อน ตามนโยบายของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้เสียภาษี ซึ่งส่งผลกระทบ ต่อผู้ประกอบการที่ค้าขายและชำระภาษีอย่างสุจริตให้ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงเป็นการดูแลผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยและได้สินค้าที่มีคุณภาพ
โดยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 8 และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กระบี่ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบส่งพัสดุเป็นบุหรี่หนีภาษีจำนวนมากในพื้นที่ เกาะลันตา จ.กระบี่ จึงได้ ลงพื้นที่ตรวจสอบพัสดุ ณ ศูนย์กระจายสินค้าของเกาะลันตา จ.กระบี่ ปรากฏว่าพบพัสดุต้องสงสัย เมื่อตรวจสอบภายในพบบุหรี่หนีภาษี ไม่ติดอาการแสตมป์ตามกฎหมาย จำนวน 21,490 ซอง มูลค่า 2,524,237 บาท ประมาณการค่าปรับ 22,931,254.50 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับบุหรี่เถื่อนจำนวนดังกล่าวนี้ จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่าเป็นบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้านมาทางช่องทางธรรมชาติผ่านด่านบ้านแหลม จ.จันทบุรี จากนั้นนำเข้าระบบไปรษณีย์ไปศูนย์กระจาย สินค้า ปณ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อส่งไปยังศูนย์ไปรษณีย์ชุมพร แล้วส่งไปยังปลายทาง ณ ไปรษณีย์ เกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อขายให้ลูกค้าบนเกาะลันตาและกระจายต่อในเขตภาคใต้และภาคตะวันตก
ในการนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนข้ามประเทศ และผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต 2560 อย่างเคร่งครัด กรมฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจทั่วประเทศเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบปราบปรามตามพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันการกระจายบุหรี่เถื่อนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ตลอดจนการป้องกันและปรามปราบโดยการจับผู้ค้ารายใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายหรือหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยจะมีการดำเนินการต่อเนื่อง อย่างสม่ำเสมอเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อร้านค้าปลีกถูกกฎหมายและดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนให้ได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสหรือพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศหรือ สายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th.