มท1. นำ ‘8 กระทรวง’ เข้ารายงาน นายกฯ ก่อนประชุม ครม. หาบทสรุป ‘ปมผลสอบ’ ตึก สตง.ถล่ม!

เผย! ก่อนประชุม ครม. พรุ่งนี้ (8) “อนุทิน” เข้ารายงานผลสอบเชิงลึก! พร้อมแผนงานของ 8 กระทรวงหลัก ปมตึก สตง.ถล่ม หลังรับข้อสั่งการ นายกฯแพทองธาร ครบ 7 วัน ตั้งเป้าวางแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาต่อไปในอนาคต
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะรับฟังการรายงานข้อมูลผลการตรวจสอบกรณีอาคารก่อสร้างของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน พังถล่มลงมาในวันที่เกิดแผ่นดินไหว (28 มี.ค.) หลังจากเคยมีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย จะเป็นผู้รายงานเมื่อครบกำหนด 7 วัน ทั้งนี้ เพื่อหาข้อสรุปให้เกิดบรรทัดฐานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างรัดกุมและนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ ในการประชุม ครม.ครั้งล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. ให้ 8 กระทรวง ได้แก่… กระทรวงมหาดไทย เร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการภัยพิบัติต่างๆ โดยให้มีการแบ่งหน้าที่และกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังสั่งให้ กระทรวงการต่างประเทศ เร่งศึกษากับผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ ที่มีความพร้อมและอยู่ในแนวแผ่นดินไหว อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศนิวซีแลนด์ หรือบางประเทศในสหภาพยุโรป รวมทั้งประเทศอิสราเอล และให้ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมแผนรับมือ ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุใหญ่ๆ และอุบัติภัยสำคัญ ว่าควรจะดำเนินการในรูปแบบไหนอย่างไร ทั้งระบบโรงพยาบาลสนาม การปฏิบัติตัว การรองรับ และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อย่างไร
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เร่งสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่า การท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่อื่นๆ ในประเทศไทยได้ปกติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ระดมนักวิชาการธรณีวิทยาเพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำข้อเสนอแนะและมาตรการที่ถูกต้อง ปลอดภัย พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าใช้การได้มากน้อยเพียงใด เช่น ชายฝั่งอันดามัน ที่เคยเกิดเหตุสึนามิ ที่เคยมีการวางทุ่นในทะเล ให้สำรวจว่ายังใช้การได้อยู่หรือไม่ และให้นำกลับมารายงานที่ประชุมอีกครั้ง
กระทรวงศึกษาธิการ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการฯ เร่งบรรจุเรื่องการปฏิบัติตนในขณะแผ่นดินไหว และการเกิดอุบัติภัยต่างๆ เข้าไปในแบบการเรียนการศึกษาของเด็กและเยาวชนเนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยไม่เคยมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ และไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาก่อน ขณะเดียวกันมอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม ตรวจสอบการเดินทางทุกมิติ ทั้งทางน้ำ ทางบก ทางเรือ และทางอากาศว่า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีพี่น้องประชาชนใช้บริการสามารถใช้บริการได้หรือไม่ มีความแข็งแรงและสามารถรองรับภัยธรรมชาติได้มากน้อยเพียงใด
อีกทั้ง มอบหมาย สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ร่วมมือกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปมาตรการเยียวยาของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และให้ประชาสัมพันธ์เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารอย่างถูกต้องและทั่วถึง โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่างๆ และผลของการดำเนินคดีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้.