นายกฯ แถลงผลการประชุมคณะกก.นโยบายเศรษฐกิจพิเศษ สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ทั้ง EEC เศรษฐกิจแนวชายแดน ย้ำแผนทุกแผนต้องปรับแก้ไขได้ทันตามสถานการณ์โลก

วันที่ 5 พ.ค.2565 เวลา 12.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 1/2565 ว่า การประชุมดังกล่าวมีการพัฒนาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยครั้งนี้ได้สรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา จะมีผลประโยชน์กับใครโดยตรงโดยอ้อม โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งกายภาพ ด้านดิจิทัล การกำหนดพื้นที่ในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษที่เรามี ทั้งอีอีซี เศรษฐกิจตามแนวชายแดน เรื่องการลงทุนด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีแนวทางปรับแก้ให้ทันสมัย

ตนได้บอกแล้วว่าหลายๆอย่างเป็นเรื่องการวางแผน เป็นเรื่องของนโยบาย มีความจำเป็นต้องวางแผนระยะยาวตามยุทธศาสตร์ ตามแผนสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตามแผนปฏิรูป แต่ทุกอย่างสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉะนั้นแผนทุกแผนจะต้องมีความยืดหยุ่น ไม่ใช่แข็ง ทำอะไรก็ทำอย่างนั้นไปตลอดไม่ได้ วันนี้ได้บอกทุกหน่วยงาน หลายอย่างเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการคิด ซึ่งก็ทยอยเปลี่ยนมาเยอะแล้วให้ทันต่อสถานการณ์โลก และให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย คนไทย ซึ่งมีความแตกต่างจากหลายประเทศพอสมควร

นายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญจะต้องสร้างความเข้าใจและมีความร่วมมือระหว่างกัน ทำเพียงฝ่ายเดียวจะไม่สามารถดำเนินการได้เป็นผลสำเร็จอย่างแน่นอน วันนี้ได้พูดถึงพื้นที่ต่างๆที่มีศักยภาพในประเทศไทย ซึ่งเคยบอกแล้วว่าจะทำอย่างไรให้เกิดเศรษฐกิจในแต่ละภาค แต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดในกิจกรรมที่เขามีศักยภาพ จึงมีการประชุมกำหนดกรอบและขอบเขตการทำงาน กำหนดรูปแบบการลงทุนที่อาจมีความแตกต่างกันไปบ้าง สำคัญที่สุดคือทำอย่างไรประชาชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด ควบคู่กับการลงทุนของรัฐและภาคเอกชน วันนี้เราสร้างเศรษฐกิจตามแผนมาเยอะแล้ว เป็นการติดตามความคืบหน้า มีปัญหาตรงไหนก็จะปรับแก้ไป การให้สิทธิและโยชน์ต่างๆก็จำเป็นต้องปรับรูปแบบในอนาคตว่าทำอย่างไรถึงจะตอบสนองแต่ละพื้นที่ให้ได้ เพราะขีดความสามารถต่างกัน เราจะต้องพัฒนาไปสู่อนาคตให้ได้ เราไม่เคยหยุดคิดไม่เคยหยุดทำ และวันนี้ก็มีหลายอย่างอาจจะต้องปรับแก้

“ประเด็นสำคัญคือความเข้าใจในข้อกฎหมายที่มีอยู่ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วการลงทุนต่างๆอยู่ที่สิทธิประโยชน์ เราให้มากนักก็ไม่ได้ ให้น้อยไปก็สู้เขาไม่ได้ สิ่งเหล่านี้สัมพันธ์กันไปหมด วันนี้เรื่องประชุมมีเยอะเดี๋ยวจะมีรายละเอียดออกไปเพื่อไม่ให้เกิดการคลาดเคลื่อนในการชี้แจงตามสื่อต่างๆ” นายกฯ กล่าว.