“เฉลิมชัย” มั่นใจ”ทุเรียนไทย”ครองแชมป์ตลาดจีน “อลงกรณ์”ชี้ ไตรมาสแรก ส่งออกเพิ่มขึ้น42%

“เฉลิมชัย”มั่นใจทุเรียนไทยครองแชมป์ตลาดจีนแสนล้าน “สมาคมทุเรียนไทย”ชี้ราคาปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว “อลงกรณ์”เผยไตรมาสแรกปี2565ส่งออกทุเรียนเพิ่ม42% ยืนยันไม่มีทุเรียนเน่าคาด่านจีน ติงสื่อระวังเสนอข่าวเข้าทางพ่อค้ากดราคาชาวสวน

วันที่ 7 พ.ค.2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยว่า การส่งออกทุเรียนไทยไปจีนยังเป็นไปตามแผนปฏิบัติการผลไม้ปี 2565 มั่นใจว่าทุเรียนไทยจะครองแชมป์ตลาดจีนได้อย่างต่อเนื่องนำรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่า1.2แสนล้าน โดยประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวันจากรายงานล่าสุดว่าด่านจีนเปิดดำเนินการทุกด่าน แต่บางด่านเริ่มติดขัดเพราะมีออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องจึงขอความร่วมมือภาคเอกชนไทยเพิ่มการขนส่งทางเรือและทางรถไฟ”จีน-ลาว”มากขึ้น ตามเป้าหมายกลยุทธ์การบริหารโลจิสติกส์ของ”ฟรุ้ทบอร์ด”ที่ให้เพิ่มการขนส่งทางเรือ55% ทางบก40% ทางราง(รถไฟสายจีน-ลาว) และ ทางอากาศรวมกัน 5% เพื่อลดความแออัดของด่านทางบกในช่วงผลผลิตทุเรียนออกมาก ลดความเสี่ยงจากการปิดด่าน เพราะโควิด-19 และเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าขนส่งเพิ่มตามไปด้วยจากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ที่สำคัญ จีนเป็นตลาดหลักของทุเรียนไทย โดยในปี2564 การส่งออกทุเรียนสดไปจีน 875,097 ตัน คิดเป็นมูลค่า109,205 ล้านบาท ขยายตัว 68.4% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยผลไม้ไทยสามารถครองตลาดจีน มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 40 % อันดับ2 คือ ชีลี 15% เวียดนาม 6% อยู่อันดับ3 สะท้อนถึงศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของผลไม้ไทย แม้จะเผชิญปัญหา มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ในจีนซึ่งกระทบการขนส่งและการส่งออกเป็นระยะๆในช่วงกว่า 2ปีที่ผ่านมา“ ปีนี้รัฐบาลโดยฟรุ้ทบอร์ด กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงพาณิชย์ จะพยายามช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนและผู้ประกอบการล้ง ผู้ส่งออกในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคเพื่อทำให้ราคาทุเรียนและผลไม้ได้ราคาที่ดีและเพิ่มการส่งออกสร้างรายได้ให้ประเทศของเรามากขึ้น” รมว.เกษตรฯ กล่าว

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ และ ประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการจำหน่าย ในคณะกรรมการผลไม้ล่วงหน้า “Fruit Board” กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ รายงาน ราคาผลไม้ไทยในตลาดจีนเพิ่มขึ้น 40% ส่วนราคาในประเทศ ทางนายกสมาคมทุเรียนไทยแจ้งว่า ราคาทุเรียนดีกว่าปีที่แล้วโดยราคาหน้าล้งอยู่ที่กิโลกรัมละ130-140บาท ถ้าตกเกรดก็ลดลงมาตามคุณภาพ วันนี้ได้ตรวจสอบสถานการณ์ราคากับผู้นำเข้าของจีนรายใหญ่ที่กว่างสียืนยันว่าราคาทุเรียนไทยในตลาดจีนตอนนี้ดีกว่าปีที่แล้วแม้เริ่มเข้าช่วงที่ทุเรียนไทยเริ่มออกมามาก นอกจากนี้ได้รับรายงานจากพาณิชย์จังหวัดจันทบุรีว่า ราคาทุเรียนยังสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ120-150บาทแล้วแต่เกรดและคุณภาพ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการส่งออกทุเรียนและผลไม้ไทยเพิ่มขึ้นมากในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าการส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้น 42% ลำไยเพิ่มขึ้น 36% มะม่วงเพิ่มขึ้น 21% ส่งผลทำให้ราคาผลไม้ในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ราคาเพิ่มขึ้น 40% ส้มเขียวหวานเพิ่มขึ้น 8% ส้มโอขาวน้ำผึ้งเพิ่มขึ้น 28% เป็นต้น รวมทั้งมาตรการเพิ่มการบริโภคภายในประเทศจาก30%เป็น40% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้วางมาตรการด้านการตลาดไว้แล้วรองรับผลไม้ 566,000 ตัน โดยประกอบด้วย
1.ตามมาตรการเขิงรุก ตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว ช่วยระบายผลไม้ได้เตรียมไว้ 244,000 ตัน
2.มาตรการเตรียมสต๊อกสำหรับทำผลไม้แช่เย็น แช่แข็ง 120,000 ตัน
3.กระจายทั่วประเทศโดย เตรียมระบายไว้ 145,000 ตัน และ ส่วนหนึ่งคือการจัด “พาณิชย์ Fruit Festival 2022” จะมีส่วนช่วยระบายผลไม้ ได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 ตัน จัดตั้งแต่วันที่ 2-8 พฤษภาคม 2565 เตรียมจุดจำหน่ายไว้ทั้งหมด 1092 จุด ประกอบด้วยห้างโมเดิร์นเทรด ร้านค้าปลีก-ส่ง ร้านสะดวกซื้อ ห้างท้องถิ่น โดยเป็นที่กรุงเทพมานครและรถเร่ 500 จุดที่เหลือเป็นต่างจังหวัดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการับมือช่วงpeakซึ่งผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออกคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น จาก 575,542 ตัน ในปี 2564 เป็นจำนวน 729,110 ตัน ในปี 2565

ส่วนกรณีที่มีสื่อบางสำนักรายงานขาวเกี่ยวกับมาตรการ “ซีโร๋โควิด” ของประเทศจีน และมีการกักด่าน สร้างผลกระทบต่อการส่งออกทุกเรียนของประเทศไทยนั้น ขอชี้แจงว่า สื่อมวลชนอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริง ทำให้การเสนอข่าวมีความคาดเคลื่อน และ ส่งผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะการจำหน่ายผลผลิตทุเรียนของเกษตรกร ที่มีผู้ไม่หวังดี ใช้ข่าวที่นำเสนอเป็นประเด็นกดราคารับซื้อจากเกษตรกร ดังนั้นจึงอยากให้สื่อได้ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน ซึ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมให้ขอมูลในทุกด้าน เพื่อให้นำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และสร้างประโยชน์ทั้งต่อเกษตรกร และประเทศชาติ จึงอยากให้สื่อมวลชนได้พิจารณา และเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบข้อมูลก่อนนำเสนอ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password