ฮือฮา! ’เต้ มงคลกิตติ์‘ดอดซบ’ปชป.‘เรียบร้อย บอกจะมาช่วยดึงคนรุ่นใหม่เข้าพรรค เผยได้พบ’นายหัวชวน‘ด้วย บอกยินดีต้อนรับ ชี้เหตุเลือกประชาธิปัตย์ต้องการตอบแทนบุญคุณ’เฉลิมชัย’ช่วยให้ได้เป็นสส.สมัยแรก พร้อมประเดิมงานแรก สังเกตการณ์ประชุมใหญ่พรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2567 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เข้าพบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อช่วงสายวันนี้ (26 เม.ย.) เพื่อขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และในช่วงบ่ายนายมงคลกิตติ์ ก็ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายมงคลกิตติ์ จะเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคประชาธิปัตย์ ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ ในวันที่ 27 เม.ย.ด้วย

โดยนายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่าตนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างการตัดสินใจ เมื่อตนตัดสินใจว่าจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงได้เดินทางไปพบนายเฉลิมชัย ที่บ้านในเวลา 11.30 น. เพื่อแจ้งความประสงค์ จากนั้นช่วงบ่ายตนจึงเดินทางเข้ามายังพรรคประชาธิปัตย์เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคฯ ซึ่งได้พบกับนายชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งนายชวนก็ยินดีที่มีคนมาช่วยพรรค

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า การที่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะ ตนเข้าใจกฎระเบียบต่างๆอยู่แล้วและเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ช่วงตกจึงต้องการขุนพล รวมทั้งเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเป็นพรรคที่มีการเมืองเยอะที่สุด เมื่อตนเข้ามาก็จะสามารถดึงคนรุ่นใหม่ให้พรรคพอสมควร ตนจึงต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นหลักของบ้านเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชนได้และต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะๆ

เมื่อถามว่าทำไมเลือกเข้าพรรคประชาธิปัตย์ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตนรู้จักกับนายเฉลิมชัยมาเป็น 10 ปีมีบุญคุณต่อกัน ดังนั้นการที่ตนเลือกที่จะเข้าพรรคประชาธิปัตย์เพราะต้องการเข้ามาช่วยพรรค และทดแทนบุญคุณนายเฉลิมชัย ตนได้เป็นสสส.ครั้งแรก ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากนายเฉลิมชัย

เมื่อถามว่ามีการพูดคุยถึงตำแหน่งในพรรคหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกัน จะให้ตนทำอะไรก็ได้จะทำเต็มที่ ซึ่งตนสามารถที่จะช่วยเหลือพรรคได้เรียกว่าเป็นม้าเร็วในการ เคลื่อนที่ไป 77 จังหวัด ซึ่งการลงพื้นที่ตนชำนาญทั้งหมด ไม่ต้องฝึกกันแล้ว ส่วนเรื่องการตรวจสอบการทุจริตก็เห็นฝีมือตนอยู่แล้ว และถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมเกิดขึ้นตนก็พร้อมจะลงสมัครทั้งกรุงเทพฯนนทบุรี และพิษณุโลก อย่างไรก็ตามการประชุมประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคฯ ในวันที่ 27 เม.ย. นี้ ตนไปร่วมสังเกตการณ์ด้วยแน่นอน.