“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจง อย่างเป็นทางการครั้งแรก กรณีที่มีชื่อไปพัวพันกับคดีหมูเถื่อน โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันความบริสุทธิ์ และยินดีให้ความร่วมมือ ในกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกัน ไม่ปฏิเสธเป็นญาติกับ “เฮียเก้า”

วันที่ 16 ม.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีต รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นัดสื่อมวลชนเพื่อ แถลงข่าว กรณีมีชื่อตนเองพัวพันคดีหมูเถื่อน ที่พรรคประชาธิปัตย์ หลังจาก พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายจับขบวนการนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาด โดยมีชื่อตนเองไปพัวพันว่า ซึ่งก่อนหน้านี่้ นายเฉลิมชัย ระบุว่า น่าจะเป็นเรื่องการเมือง เพื่อทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหาย และไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นร่วมรัฐบาล หรือ ชั้น 14 หรือไม่ พร้อมย้ำไม่เคยเข้าไปมีส่วนพัวพันเอื้อประโยชน์ให้คนใกล้ชิดไปเรียกรับผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย

ขอให้คนหวังดีกับประเทศชาติ และเจ้าหน้าที่ ช่วยเอาคนผิดมา ลงโทษ และ ยังท้าให้เปิดชื่อ นักการเมืองที่อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถีงไอ้โม่งที่มีการพูดถึง พร้อมจะฟ้องร้องดำเนินคดีถ้าทำให้เสียหาย เพื่อปกป้องตัวเองและองค์กรที่อยู่

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย นำหนังสือมอบอำนาจ มาชี้แจงว่าช่วงเข้าดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบอำนาจเต็มให้ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในการสั่งการอนุมัติ อนุญาตการปฏิบัติราชการ หรือ การกระทำอื่นๆ ที่รัฐมนตรีว่าการพึงปฏิบัติ หรือ ดำเนินการตามกฎหมายรวมถึงกรมปศุสัตว์ ให้รัฐมนตรีช่วยปฏิบัติราชการแทน เว้นอำนาจเฉพาะตัวที่ ต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากช่วงนั้นมีการระบาดของโรคอหิวาต์ และย้ำถึงนโยบาย สั่งล้างบางไม่รับเคลียร์ เรื่องหมูเถื่อน พร้อมยกเคสเคยจับกุมและทำลายหมูได้มากกว่า 1 ล้านกิโลกรัม

ขณะเดียวกันนายเฉลิมชัย ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นญาติกับ “เฮียเก้า” ผู้ต้องหาในคดีส่งออกตีนไก่เถื่อน แต่ไม่ได้มีบิดาคนเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมามีความพยายามโยงว่ามีความใกล้ชิด หากทำผิดก็ต้องถูกลงโทษทางกฎหมายเมื่อมาอยู่ในประเทศไทย

โดยก่อนหน้านี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องกับหมูเถื่อน คดีพิเศษที่ 127/2566 ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ประกอบมาตรา 68 และมาตรา 83 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย

1.นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นน้องชายต่างมารดานักการเมืองชื่อดัง

2.นายหยาง ยา ซุง

3.นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของนายหลี่)

4.น.ส.นวพร เชาว์วัย

5.นายสมเกียรติ กอไพศาล ที่มีข่าวว่าเป็น “อดีตเลขาฯส่วนตัว” ของนายเฉลิมชัย

ทั้งนี้ สมัยที่นายเฉลิมชัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เมื่อปี 2554 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายเฉลิมชัยได้เคยเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 แต่งตั้งนายสมเกียรติ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านแรงงาน ในคณะกรรรมการกองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร กรมจัดหางาน.