คลังพร้อมปรับเกณฑ์ใช้เงินหมื่นดิจิทัล – เร่งสรุปเงื่อนไขก่อนชงชุดนายกฯ 24 ต.ค.นี้

2 รมช.คลัง ย้ำ! รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อท้วงติง แต่เดินหน้าต่อโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลแน่! หนุนความเป็น “รัฐบาลดิจิทัล” ยืนยันเงินส่วนใหญ่มาจากงบประมาณแผ่นดิน เผย! กก.ชุดเล็ก เร่งหาข้อยุติเสนอชุดใหญ่ที่นายกฯเป็นประธาน 24 ต.ค.2566 ด้านปลัดคลัง เปรียบได้สวย “คลังขับรถ แบงก์ชาติเหยียบเบรค” ต้องทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียว ดันเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้า

นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัติดภารกิจเดินทางไปเยือนฮ่องกง มอบหมายให้ “2 รมช.คลัง” นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ร่วมนำแถลงความคืบหน้า โครงการแจกเงินผ่าน Digital Wallet 10,000 บาท โดยมี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง และนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าวที่กระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันเดินหน้าผลักดันโครงการนี้ ไม่เพียงกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มกำลังซื้อของคนไทย แต่ยังต้องการเดินไปสู่รัฐบาลดิจิทัล สำหรับเงินที่ใช้ในโครงการฯ 5.6 แสนล้านบาท จะมาจากงบประมาณเป็นหลัก โดยรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อปรับเงื่อนไขการใช้เงินให้เหมาะสมมากที่สุด ทั้งนี้ จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งใครมีรายได้สูง หรือไม่ต้องการใช้เงินดังกล่าว ไม่ต้องลงทะเบียน ถือเป็นทางเลือกให้กับประชาชน จำเป็นต้องรีสตาร์ทชีวิตของประชาชน สร้างเม็ดเงินใหม่กระจายไปทั่วประเทศ

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 บาท จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อให้กระจายไปทุกที่ พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างโอกาสและการลงทุนในทุกชุมชน เกิดการจ้างงาน โดยรัฐบาลจะมีรายได้กลับคืนมาในทางอ้อมจากภาษี ที่ผ่านมาระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตไม่เต็มศักยภาพและช้ากว่าหลายประเทศ รัฐบาลจึงต้องผลักดันจีดีพีเติบโตให้ได้ตามเป้าหมาย เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ยปีร้อยละ 5 ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า

“รัฐบาลไม่ได้เสกเงินขึ้นมาใหม่ เงินดิจิทัลไม่ได้เกิดขึ้นจากการเขียนโปรแกรมสร้างคริปโทเคอเรนซี่ เราไม่ได้พิมพ์เงินเพิ่มเติม แหล่งเงินยังเป็นไปตามกรอบกฎหมาย ธปท. ภายใต้การรักษาวินัยการเงิน การคลัง ยืนยันใช้วิธีเกลี่ยงบประมาณโครงการที่ไม่จำเป็น แต่จากข้อท้วงติงของหลายฝ่าย รัฐบาลจะได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้เงิน เช่น การกำหนดระยะเวลาใช้เงิน 6 เดือน รัศมีการใช้เงินในพื้นที่ 4 กม. อาจขยายให้กว้างขึ้น โดย เงื่อนไขเหล่านี้คณะอนุกรรมการหลายชุดจะเร่งประชุมฯ เพื่อสรุปทุกด้านภายในสิ้นเดือนตุลาคม เพื่อเสนอบอร์ดดิจิทัล นายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณาในวันอังคารที่ 24 ต.ค.ที่จะถึงนี้” นายจุลพันธ์ ระบุ

ด้าน นายกฤษฎา กล่าวว่า การบริโภคที่มีการขยายตัวสูงในรอบ 20 ปี จำกัดวงเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ไม่ได้กระจายไปยังกลุ่มอื่นๆ ขณะที่ ภาคการส่งออกยังประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ด้านการลงทุนภาครัฐในงบประมาณปี 2567 อาจต้องใช้เวลาถึงต้นปีหน้ากว่าออกสู่ระบบได้ เครื่องยนต์ที่สำคัญช่วงนี้จำเป็นต้องอาศัยการกระตุ้นการบริโภคให้กระจายไปทุกส่วน

ส่วน เลขานุการ รมว.คลัง เสริมว่า การเติมเงินดิจิทัล เป็นการเติมเงินไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เพราะกำหนดเงื่อนไขการใช้เงินส่งผลต่อไปในหลายมิติ และเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ เงินดิจิทัลมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยสูงกว่า อีกทั้งการกระจายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ใช่กระตุ้นการบริโภคอย่างเดียว แต่ทำให้เกิดการการลงทุนขนาดเล็กในชุมชน สร้างอาชีพใหม่ สร้างการลงทุนใหม่ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ ประเด็นที่ 3 เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ยกระดับไปสู่การเป็นซูเปอร์แอป ก้าวไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล รองรับประเทศก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอีโคโนมี สร้างมูลค่ามหาศาล

ขณะที่ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมทำงานประสานนโยบายการคลัง กับนโยบายการเงินของ ธปท. พร้อมยกข้อเปรียบเทียบ กระทรวงคลังเป็นผู้เหยียบคันเร่งรถยนต์ และ ธปท.ที่ดูแลนโยบายการเงินทำหน้าที่เหยียบเบรก จึงต้องขับรถไปข้างหน้าอย่างมีจังหวะผสมผสานกัน เพื่อให้ขับรถไปได้อย่างนุ่มนวล ดังนั้น จึงต้องหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้เชื่อความเป็นมืออาชีพของกระทรวงการคลังว่าจะรรักษาวินัยทางการเงินการคลังอย่างเข้มแข็งต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password