“พลเอกประยุทธ์” โพสต์เฟสบุ๊ค แจงสถานการณ์ การเงินการคลังไทยอยู่ในเกณฑ์ดี
นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊ค ชี้แจงสถานการณ์ การเงินการคลังของประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ทุกฝ่ายต้องไม่ประมาท ขณะเดียวกันย้ำเตือนปชช.เฝ้าระวังโควิด19 หลังเทศกาลสงกรานต์ และ ขอคนไทยมีความสามัคคี จับมือไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันที่ 18 เม.ย.66 คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมตามปกติ เพื่อติดตามสถานการณ์โลกและแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบัน ตลอดจนขับเคลื่อนโครงการพัฒนาต่างๆ ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นที่ผมเห็นว่าน่าสนใจ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อทุกคน และจะต้องร่วมมือกันในวันนี้ ได้แก่
1.แม้สถานการณ์การเงินการคลังของประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี ทั่วโลกให้การยอมรับและมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเงิน และสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมของไทย ที่สามารถเดินหน้าขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง มีการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกวิธี โดยรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาจากฐานราก และ ทุกกลุ่ม อย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในอนาคต แต่ความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องมีการเตรียมความพร้อม และรัฐบาลก็จะไม่ประมาท จะติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมมาตรการลดผลกระทบให้ได้อย่างทันท่วงที
2.เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังโควิด โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 3.8 ล้านคน/ครั้ง เป็นชาวต่างชาติอีกราว 3 แสนคน สร้างรายได้กระจายทุกภูมิภาคกว่า 18,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิดที่สูงขึ้น เนื่องจากมีกิจกรรมทางสังคมมากมาย ดังนั้นผมขอให้ทุกคนได้เฝ้าระวังอาการของตนเอง ถ้าไม่มั่นใจก็ให้ตรวจ ATK ในเบื้องต้น และเข้ารับการรักษาตามระบบหากมีอาการของโรคในทันที เพื่อลดผลกระทบต่อส่วนรวม
3.สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 หลายจังหวัดยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาซากพืชผลทางการเกษตร และไฟป่า ทั้งในประเทศและนอกประเทศ ที่ผมได้ร่วมประชุมกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อกระชับความร่วมมือกันให้มากขึ้น ซึ่งผมเห็นว่าสิ่งสำคัญที่จะช่วยลด PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด นอกเหนือจากการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ และการบังคับใช้กฎหมายของทุกหน่วยงานแล้ว คือ ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนก็จะเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่จะช่วยลดผลกระทบร่วมกันนี้ได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ในการเดินหน้าประเทศไทยของเรา ฝ่าวิกฤต หรือเอาชนะอุปสรรคใดๆ ก็ตาม ย่อมต้องอาศัยทั้งความรัก ความสามัคคี และความร่วมแรงร่วมใจกันจากทุกคน ทุกภาคส่วน ไม่อาจทิ้งภาระไว้กับใคร และไม่อาจทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราทุกคนต้องช่วยกัน ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เหมือนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ได้เสียสละเวลาส่วนตัว เวลาของครอบครัว ในช่วงเทศกาล เพื่อมาดูแลความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ ซึ่งผมก็ขอชื่นชมและขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ.