ยสท.ส่อชงแก้ปมภาษีบุหรี่! หลังพบเป็นต้นตอสารพัด ทั้งบุหรี่เถื่อนทะลักและรายได้รัฐหดแรง

ผู้ว่าการการยาสูบฯยอมรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ส่งผลด้านลบเยอะ ไม่เพียงทำรายได้ของ ยสท.และสรรพสามิตลด แต่ยังสร้างแรงจูงใจให้ขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมายจากเพื่อนบ้านเติบโตยิ่งขึ้น ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้สูบและรายได้รัฐลดลง ย้ำ! ขอเวลาศึกษา 4 เดือน ก่อนชงเรื่องให้คลังพิจารณาแก้ไข

นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และ พ.ศ.2564 อาจไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องสักเท่าใดนัก ไม่เพียงทำให้รายได้ ในแง่ยอดขายที่ลดลงของ ยสท. และรายได้ภาษีของกรมสรรพสามิตที่ลดลง แต่ยังไปเพิ่มปัญหาการลักลอบนำเข้าบุหรี่ผิดกฎหมาย ทั้งที่เป็นบุหรี่ปลอมและบุหรี่เถื่อน ทำให้อาจต้องพิจารณาแนวทางของการเสนอให้มีการแก้ไขโครงสร้างภาษีบุหรี่เสียใหม่

“แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งดำเนินการ หลังจากที่มีแนวโน้มการลักลอบนำเข้าเพิ่มขึ้น เพราะราคาขายในประเทศมีราคาที่สูงมาก จึงเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เกิดขบวนการลักลอบนำเข้าบุหรี่ปลอมจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน ยสท.เอง ก็ต้องพิจารณาถึงประเด็นปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างภาษีฯใหม่ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้เร่งศึกษาปัญหาดังกล่าวในฐานะที่เป็นเรื่องเร่งด่วนว่า ควรจะมีข้อเสนออย่างไรในประเด็นเหล่านี้ ซึ่งคาดว่าจะใช้ประมาณ 3-4 เดือน จึงจะมีข้อสรุปและนำเสนอไปยังกระทรวงการคลังต่อไป” ผู้ว่าการ ยสท. ย้ำ

ทั้งนี้ ปัญหาการค้าบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งทำเป็นขบวนการใหญ่ มีการเปิดจำหน่ายอย่างเปิดเผยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ส่งผลทำให้ร้านนำบุหรี่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายร่วมกับบุหรี่ทั่วไปในราคาเดียวกับบุหรี่ถูกกฎหมาย ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ และอาจทำให้ระบบการจำหน่ายของผู้ค้าที่กฎหมายได้รับความเสียหายตามมาได้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ยสท.ได้มีการนำทรัพย์สินประเภทที่ดินที่มีอยู่กว่า 150 แปลง ใน 15 จังหวัด รวมเนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ มาจัดหาประโยชน์ ซึ่งจากมติของบอร์ด ยสท. ที่อนุมัติให้นำที่ดินกว่า 2,000 ไร่จากทั้งหมด มาให้เช่านั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ศักยภาพอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท. ในทุกมิติ ก่อนจะนำไปจัดประโยชน์ในโอกาสต่อไป พร้อมกันนี้ ยสท.ยังได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการแสดงผลข้อมูลด้านอสังหาฯด้วยโปรแกรมภูมิสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ของ ยสท. คาดว่าจะแล้วเสร็และใช้งานได้ภายในเดือน เม.ย.2566 นี้

ขณะเดียวกัน ยสท. ยังดำเนินธุรกิจภายใต้แนวนโยบายของ ครม. โดยเฉพาะ โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (B) ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอดในด้านทรัพยากรชีวภาพและผลผลิตทางการเกษตร เศรษฐกิจหมุนเวียน (C) โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ เศรษฐกิจสีเขียว (G) ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบได้ใช้สารชีวภาพแทนสารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช

“ยสท.ยังมีโครงการคาร์บอนเครดิตในพื้นที่กำกับดูแลอีก 27 แปลง หรือราว 500 ไร่ ที่จะดำเนินการปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มการกักเก็บก๊าซเรือนกระจก และคืนออกซิเจนให้กับพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันในปีนี้ ยสท.จะมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เปลี่ยนสำนักงานโครงการย้ายโรงงานผลิตยาสูบสวนอุตสาหกรรมโรจนะ มาเป็นสำนักการพัฒนายั่งยืน เพื่อมาดูแลธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้อง โมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยตรง” ผู้ว่าการ ยสท. ระบุ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password