“โรม” นำกมธ.มั่นคงฯ ถก ผบ.ทบ.ชื่นมื่น กองทัพรับปาก เลิกเกณฑ์ทหารปี71
“รังสิมันต์ โรม” เผย คุย ผบ.ทบ. ครั้งแรกชื่นมื่น เห็นกองทัพกำลังปรับตัว ทบ. รับปาก เลิกทหารเกณฑ์ปี 71 จ่อตั้ง เจ้ากรมยุทธการทหารบกนั่งที่ปรึกษาประธานกมธ. เชื่อไม่เกิดปัญหาซ้ำ หลังกอ.รมน.เบี้ยวแจงวานนี้อ้างหนังสือราชการล่าช้า ขณะที้ส่ง “พลโทพงศกร” ประสานให้ข้อมูลกองทัพ ยันไม่ใช่ตัวประกัน
วันที่ 15 ธ.ค.2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังนำคณะเข้าหารือครั้งแรก กับ พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก
โดยนายรังสิมันต์ ระบุถึงบรรยากาศการหารือว่าเป็นไปด้วยดีกรรมาธิการได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก วันนี้ทิศทางของกองทัพดีมากต้องชื่นชม เสียเพียงเวลาน้อยไปหน่อย ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกยืนยันว่า ขณะนี้กองทัพบกปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้มีข้อตกลงในที่ประชุมว่าจะตั้ง พลโทพงศกร รอดชมภู ที่ปรึกษากรรมาธิการมาเป็น ส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูลกับกองทัพที่เป็นประโยชน์ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ส่งมาเป็นตัวประกัน เช่นเดียวกับ มีแนวคิด ที่จะตั้ง พลโทชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เจ้ากรมยุทธการทหารบก เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ที่จะทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ต่อไป ซึ่งในอนาคตจะมองหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ได้มีการหารือ เรื่องการเกณฑ์ทหาร โดยกองทัพชี้แจงว่า ภายในปี 2571 ตั้งเป้าจะรับสมัครทหาร 100% ซึ่งปัจจุบันทำได้ อยู่ที่ 40% และในปีหน้าตั้งเป้า ให้มีผู้สมัครเป็นทหาร 50-60% ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวก แสดงให้เห็นว่ากองทัพ มีการสมัครของทหารเข้ามา แล้วทหารเกณฑ์ก็จะถูกใช้เฉพาะในยามสงคราม อย่างไรก็ตามกรรมาธิการได้เสนอแนะ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต โดยอาจพิจารณากฎหมายต่างๆ ให้มั่นใจว่า นโยบายนี้จะถูกใช้ต่อไป
นอกจากนี้ได้มีการหารือ ถึงปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการตั้งด่านความมั่นคง ที่กรรมาธิการแนะนำไปว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการปรับลดด่านลง ทั้งนี้เข้าใจเรื่องของความมั่นคง ที่ยังเห็นว่าเป็นประโยชน์ แต่ถ้าลดมาบางส่วน จะเป็นนิมิตรหมายที่ดี ทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการใช้กฎหมายสำคัญหลายฉบับ มีทิศทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น เพื่อส่งมอบให้พลเรือนดูแลต่อในอนาคต
นายรังสิมันต์ ยังระบุว่า ได้หารือถึงเรื่องน้ำมันสวัสดิการที่หายไป ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า กำลังอยู่ในกระบวนการสรุป ในอนาคตก็อยากให้ได้ติดตาม ว่าผลจะเป็นอย่างไร แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก ทิศทางเป็นไปด้วยดี รวมถึงได้พูดคุยถึงเหตุการณ์ เรื่องบ้านพักสวัสดิการ ที่เป็นต้นตอนำไปสู่เรื่องที่สังคมไม่อยากให้เกิดขึ้น ซึ่งได้รับคำยืนยันว่าจะมีการลงโทษต่างๆ กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน
นอกจากนายรังสิมันต์ กล่าวว่า มีการหารือถึงพื้นที่ชายแดนฝั่งเมียนมา ที่กองทัพได้ชี้แจงอย่างเช่นพื้นที่เล้าก์ก่าย ที่คนไทยถูกหลอก ไปค้ามนุษย์ ว่ามีกระบวนการช่วยเหลือ ซึ่งตัวเลขขณะนี้ สามารถช่วยเหลือได้เกินกว่า 500 คน นายรังสิมันต์ จึงฝากให้ดูพื้นที่อื่นๆ ที่ใกล้กับอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก เพราะเป็นจุดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ที่อาจมีคนไทย ถูกหลอกไปเป็นจำนวนมาก
นายรังสิมันต์ ยังระบุว่า ได้มีการหารือประเด็นยุบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรหรือ กอ.รมน. แต่มุ่งไปที่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้รับคำชี้แจงว่า ที่ตัวแทนของกอ.รมน.ไม่ได้เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ เมื่อวานนี้ตามคำเชิญ เพราะติดขัดเรื่อง หนังสือราชการ ที่อาจจะช้า ตนคิดว่าการทำงานต่อไปหลังจากนี้ เมื่อมีบุคคลที่ประสานงานใกล้ชิด เช่นเจ้ากรมยุทธการ คิดว่าปัญหาที่เกิดจากกระบวนการดังกล่าวจะหมดไป ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการตั้งอนุกรรมาธิการ ขึ้นมาศึกษากฎหมายความมั่นคงต่างๆ เช่นพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ความมั่นคง และจะมีการแลกเปลี่ยนเชิงลึกต่อไป ถึงที่ทางหลังจากนี้ ว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้เราได้ฟังข้อมูลจากกองทัพ คิดว่าเป็นประโยชน์ จึงขอขอบคุณทหารทุกท่าน แม้ว่าเวลา พูดคุย ของเรา อาจจะสั้น แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แล้วเป็นสิ่งที่ทำให้ กรรมาธิการและกองทัพทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ต่อไป.