“พิเชษฐ์” รับเจอ “ชวน” แซว เป็นรองปธ. ระวังโดนเอาคืน สมัยที่แล้ว เป็นมือทำสภาล่ม
‘พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ ลั่น พร้อมทำงาน กู้ศักดิ์ศรีสภาคืน โอด ได้งบน้อยทำงานลำบาก หวังปลอดปัญหาสภาล่มในยุคตน หลังเจอ ‘ชวน หลีกภัย’ แซวแรงระวังถูกเอาคืน
วันที่ 4 ก.ค.2566 เวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงภายหลังจบการประชุมเรื่องประธานสภา และรองประธานสภา ว่า ตนไม่รู้ตัวว่าจะได้รับการเสนอชื่อ มารู้เอาเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม คิดว่าพรรคคงเห็นว่าตนอยู่ในสภามานาน และอยู่ในการประชุมสภามาตลอด ดังนั้น ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎร คิดว่าตนก็เห็นปัญหาเยอะ และฝ่ายนิติบัญญัติเล็กมากเมื่อเทียบกับฝ่ายตุลาการและฝ่ายบริหาร ครั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรต้องคืนชีพ ให้มีศักดิ์ มีศรี เพราะเรื่องของการทำงานตอนนี้มีขีดจำกัด
เรื่องแรกคือเรื่องงบประมาณ ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรถูกลดงบลงทุกปี และสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ เราจะพยายามขยายให้ครอบคลุมจังหวัดต่างๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดเข้าถึงฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่ง ส.ส.ก็จะได้นำพาพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน เข้ามายังสำนักงานของสภาผู้แทนราษฎร แต่ทั้งนี้ ต้องใช้บุคลากรและงบประมาณอีกจำนวนหนึ่งในการดำเนินการ
นายพิเชษฐ์กล่าวต่อว่า ตนมีความพร้อมทำงานเต็มที่ เรื่องปัญหาต่างๆ รวมถึงเรื่องปัญหาสภาล่ม และเรื่องการหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันเปิดช่องน้อยมากที่ให้ ส.ส.ไปสัมผัสกับประชาชน รวมถึงส่วนต่างๆ ดังนั้น ช่องทางที่ ส.ส.จะมีโอกาสได้ดูแลประชาชน คือ การหารือในสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งเพียง 2 นาทีนั้นมีค่ามากสำหรับ ส.ส.และประชาชน เบื้องต้นจะเพิ่ม 2 นาทีเป็น 3 นาทีในการหารือเพราะปัญหาต่างๆ มีมากมาย
และมีความคิดว่าจะหารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) รวมถึงนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าให้กระทรวงต่างๆ เข้ามาพบปะกับ ส.ส. อย่างน้อย 6 เดือน 1 ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ว่ามีปัญหาอะไร ซึ่ง ส.ส.จะได้นำปัญหามาคุยกับทุกกระทรวงได้ คิดว่าเป็นโครงการใหม่ที่เราจะริเริ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องประชุมร่วมกัน 3 คนก่อน
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสภาผู้แทนราษฎรภายใต้การนำของทั้ง 3 คน จะไม่เกิดปัญหาสภาล่ม นายพิเชษฐ์กล่าวว่า คิดว่าขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของรัฐบาล ถ้าฝ่ายรัฐบาลมีการบริหารจัดการสมาชิกหรือเวลาได้
“ซึ่งผมก็ทำให้สภาล่มเยอะ ก็เข้าใจดีและพยายามที่จะไม่ให้สภาล่ม และมี ส.ส.แซวว่าไม่มีใครทำให้สภาล่มแล้ว เพราะคนทำให้สภาล่มก็ไม่มีโอกาสแล้ว ท่านนายกฯ ชวน (หลีกภัย) ก็แซวว่าที่ผ่านมาก็ทำเรื่องไว้เยอะนะ ระวังจะถูกเอาคืน แต่ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำหน้าที่ไป” นายพิเชษฐ์กล่าว
เมื่อถามถึง การผลักดันกฎหมายต่างๆ ของพรรค ก.ก. เช่น การเสนอแก้ไขมาตรา 112 สมรสเท่าเทียม หรือสุราก้าวหน้า นายพิเชษฐ์กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลว่าจะเห็นสมควรหรือไม่ กฎหมายที่เข้ามาพิจารณาจะผ่านการกลั่นกรองมาระดับหนึ่งแล้ว และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่มาจากประชาชนเสนอ ตนยินดี เชื่อว่าประธานสภา และรองประธาน ทุกคนเห็นความสำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับประชาชน เป็นอันดับแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก. แถลงข่าวเสร็จ และนายพิเชษฐ์เตรียมที่จะแถลงข่าวต่อ นายพิเชษฐ์และนายพิธาได้มีการจับมือกัน โดยนายพิธาได้กล่าวกับนายพิเชษฐ์ว่า “ยินดีด้วยครับพี่”