“สมคิด” ซัดอย่ามองแค่ใครเป็นนายกฯ มันเป็นเรื่องงี่เง่า เท่ แต่ประชาชนไม่มีกิน เหน็บอีสาน มีส.ส.130 คน แต่ช่วยปชช.ไม่ได้ ย้ำไม่สนใจตำแหน่ง ลั่นถ้าไม่ติดโควิดตาย จะช่วยให้ดีที่สุด ยุใครแจกเงินรับหมด มาหยอดกระปุก แต่ไม่ต้องเลือก

วันที่ 4 พ.ย.2565 เวลา 16.00 น. ที่บ้านสวนพอเพียง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) พร้อมผู้บริหารพรรค นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคอีสาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี พบกับตัวแทนเกษตรกร ประชาชน ปราชญ์ชาวบ้าน ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี โดยประชาชนได้สะท้อนเรื่องปัญหาราคาพืชผลเกษตร

นายสมคิด กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนมาวันนี้ไม่ได้มาหาเสียง ไม่เลือกตนไม่เป็นไร แต่ตนคิดมาโดยตลอดว่า จะช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างไร ตนทำงานมาตลอดตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ไม่เคยสนใจตำแหน่ง ตั้งแต่จำนำข้าว เพื่อไม่ให้พ่อค้าชี้ราคา จนมาถึงยุคโครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์รวม 12 ปี เป็นเงินช่วยเหลือไม่รู้กี่แสนล้านบาท ที่ผ่านมาน้ำท่วม เราไม่โทษใคร แต่ต้องเริ่มกันใหม่ ไม่ใช่ว่าจะพูดแต่ว่าใครเป็นนายกฯ เป็นเรื่องงี่เง่า แต่ต้องบอกว่า ใครจะทำจริง ไม่ใช่เป็นนายกฯ แล้วเท่ แต่ชาวบ้านไม่มีกิน ถามว่าจะเป็นไปทำไม

“เราทำเพื่อให้คนเป็นล้านคน มีกินมีใช้ ไม่ต้องไปเป็นคนใช้ ให้คนดูแคลน หรือ เป็นแรงงาน ได้ค่าจ้างถูก แต่นายทุนรวย และการจะพลิกอีสานใช้เงินไม่มาก แต่ต้องเอาจริง และดูว่างบประมาณที่มีจะทำอะไรก่อนหลัง และคนเป็นนายกฯ อย่าไปกลัวพรรคนั้นพรรคนี้ ต้องจริงจัง ต้องให้ทำตามหน้าที่ เกิดมาไม่ได้หวังรัฐมนตรี ที่เงินเดือนหลักแสน อายุ 70 กว่าไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว สุขภาพก็ไม่ดี ที่เดินสายช่วยประชาชนได้ แค่นี้ก็อิ่มใจแล้ว” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงให้เกษตรกร ดีขึ้น คือการนำ ทั้งสภา และรัฐบาล อีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีประชาชนกว่า 20 ล้านคน ทั้งที่มีส.ส. 130 คน แต่ยังช่วยพี่น้องไม่ได้ แปลว่าอะไร คนอีสานต้องคิดให้ได้ว่า ส.ส.มากที่สุด แผ่นดินก็มี เพียงแต่พื้นดินรับน้ำไม่ได้ น้ำมาจึงท่วม ถามจริงๆ ว่าในเชิงวิศวกรรมสามารถทำได้ แต่รัฐบาลต้องจริงจังกับโจทย์ อย่าแยกกระทรวงกันทำงาน ตอนนี้มีเป็นร้อยหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำ แยกกันทำงานไปหมด จึงต้องหาคนรับผิดชอบให้เจอ การนำโดยสภา รัฐบาล และการรวมตัวของนักการเมืองทั้งหลายเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่โทษใคร แต่เราต้องรู้ว่าพรรคการเมืองใดจะทำงานจริงๆ

นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่ใช่นักการเมือง ดังนั้นทุกโครงการที่ออกมาจะจริงจัง เพราะเราอยากทำ เพื่อให้คนเป็นล้านคนมีกิน ลูกเต้าไม่ต้องไปทำงานในเมืองเป็นคนใช้ให้คนดูแคลน หรือทำงานโรงงานค่าแรงก็ถูก แต่นายทุนรวยขึ้น ถ้าจะพลิกอีสานใช้เงินไม่มากหรอก งบประมาณแผ่นดินต้องเอาจริงว่าอะไรมาก่อนมาหลัง วิธีช่วยมีหลายอย่าง ไม่ใช่จำนำข้าวปีต่อปี เราต้องพัฒนารายได้ให้แข็งแรง ถ้ารัฐบาลเอาจริงไม่ใช่สักแต่ว่าขอไปที จะสามารถแก้ปัญหาได้ โอกาสมันมี วันที่ 5 พฤศจิกายน ตนจะเปิดนโยบายของพรรค ตอนนี้เรารู้ปัญหาของท่าน ตนติดต่อกับคนในธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาตลอด จึงรู้ว่า เขาอยากช่วยเกษตกร แต่อยู่ที่นโยบายของรัฐบาล เพราะกระทรวงการคลังวัดที่ผลกำไร ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนตัววัด เป็นเรื่องการช่วยเกษตกรแทน การนำนี้สำคัญมาก ถ้าบริหารภายใต้ข้อจำกัดว่าจะเอาอย่างนี้อย่างนั้น ถ้าทำจริงๆ คนเป็นนายกฯ คำไหนต้องคำนั้น จะกลัวพรรคนั้นพรรคนี้ทำไม อยู่ไม่ได้ก็ไป ชนะเลือกต้ังไม่มีประโยนช์ ถ้าคนทั้งประเทศไม่มีกิน

นายสมคิด กล่าวว่า นายกฯ จงใช้เวลาตราบที่อยู่ในตำแหน่งทำให้ดีที่สุด อย่างไปกลัวนักการเมือง ตอนนี้ พรรค สอท. ยังเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ก็จะโชคดีได้ที่ช่วยประชาชนได้จริง ส่วนคนที่วิจารณ์ว่าตนช่วยแค่คนรวย เป็นพวกผีเจาะ เพราะตนช่วยมาตั้งแต่กองทุนหมู่บ้าน และย้ำว่าที่ต้องมาช่วยเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นและทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ เป็นนายกฯ หรือไม่ได้เป็น เป็นเรื่องเล็ก เป็นนายกฯ ไม่ง่าย เป็นแล้วต้องช่วยคนจริงๆ ถ้าเป็นแล้วเท่อย่างเดียวจะเป็นไปทำไม ไม่รู้ชาตินี้จะเห็นคนอีสานดีขึ้นหรือไม่ ตราบใดที่ตนยังมีลมหายใจ มีแรง ไม่ติดโควิด-19 ตายเสียก่อน จะพยายามทำให้ดีที่สุด ตนมาพร้อมกับปรัชญาไม่ได้มาแค่สัญญา ไม่ได้มาจำนำเสียง เราไม่เอา แต่เราต้องการมาช่วย

“สมมติมีคนมาให้เงินคนละ 500 บาท รับไว้ไม่เป็นไร แต่อย่าไปเลือกเพราะ 500 บาทที่เขาให้มา หากเขาอยู่ 4 ปี หารแล้วเท่ากับว่าท่านได้เงินจากเขาซื้อกาแฟแก้วหนึ่งยังไม่ได้เลย ดั้งนั้นรับไว้ไม่เป็นไร แต่จำไว้ว่าถ้าเขาจ่ายเงินให้แปลว่ามันไม่มีของฟรี และจำไว้ว่าคนเราให้อะไรแบบนี้มีจุดมุ่งหมายแน่ๆ ผมอยู่การเมืองมานานมาก ไม่ได้บอกว่าไม่ให้รับ ไม่รับก็โง่สิ แต่เก็บไว้หยอดกระปุก ดังนั้น อยากให้เลือกพรรคที่ไว้ใจได้ทำงานได้ อย่าไปเห็นกับของเล็กๆ น้อยๆ ที่เขามาแจก” นายสมคิด กล่าว.