นพดลโพล’ ชี้! คนไทยกลับมาทุกข์หลังสงกรานต์ – ชู ‘นายกฯอิ๊ง’ ความหวังใหม่ของคนไทย?

ซูเปอร์โพล บอก! หลังเทศกาลสงกรานต์ คนไทย 40.7% กลับมาทุกข์กันต่อ 81.9% กลัวเงินไม่พอใช้ เหตุเศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ค้าขายไม่ดี และ 60.3% เชื่อมั่นในตัว “นายกฯแพทองธาร” แต่ถึงขั้นจะยกให้เป็น “ความหวังใหม่” ของประชาชนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ คงต้องหันไปดูทฤษฎี “จ้างผีโม่แป้ง” กันดู?

ผ่านพ้นเทศกาล “สงครามสายน้ำแห่งความสุข”…จากคนไทยสู่ชาวโลกไปแล้ว กลับเข้าสู่โหมดความจริง!

และเป็น…สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ภายใต้การนำของ ผศ. ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ ที่ดอดทำผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง สังคม เศรษฐกิจและการเมือง ในสายตาของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ผ่านการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,215 ราย เมื่อวันที่ 15-19 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา

ถือว่า…ทำได้ออกมาตรงกับสถานการณ์ของบ้านเมืองอย่างที่สุด!

ผลสำรวจข้างต้น มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ แต่อาจต้องโฟกัส เฉพาะ 2-3 ประเด็นหลักที่คนไทยควรรู้ จากผลการวิจัยฯนี้

หนื่ง40.7% ของคนไทยหลังเทศกาลสงกรานต์ พบว่า กลับมารู้สึกทุกข์เหมือนเดิม ถึงทุกข์มากขึ้น เพราะ เศรษฐกิจไม่ดี ไม่มีงานทำ สุขภาพไม่ดี มีปัญหาครอบครัว ยาเสพติด มลพิษ ความวุ่นวายการเมือง และความไม่ปลอดภัย มีแค่ 24.8% ที่แสดงออกถึงความรู้สึกกลาง ๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เพราะไม่เห็นมีอะไรดี ทุกอย่างดูทรง ๆ มีขึ้น ๆ ลง ๆ โดยมองไม่ออกว่าอนาคตอันใกล้มันจะเป็นอย่างไร ที่เหลืออีก 34.5% ที่บอกว่า ตัวเองดูมีความสุข เหมือนเดิม ถึงเพิ่มขึ้น เพราะความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การงานอาชีพดี ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน เพื่อนดีเป็นกัลยาณมิตร ทำบุญเข้าวัด สมาธิวิปัสสนา

สองประเด็นความหวาดกลัวต่อภัยเศรษฐกิจ เรื่องนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงไม่ต่างจากประเด็นแรก โดยพบว่า… 81.9% กลัวเงินไม่พอใช้ เศรษฐกิจแย่ ข้าวของราคาแพง ค้าขายไม่ดี, 75.2% กลัวเงินออม เงินเก็บ ลดลง กลัวเงินหมด, 62.2% กลัวนโยบายรัฐบาลทำไม่ได้จริง กลัวนโยบายรัฐมีผลต่อเงินในกระเป๋า, 61.8% กลัวสงครามการค้าโลก กลัวราคาน้ำมันพุ่ง กลัวภาษี และ 53.5% กลัวตกงาน กลัวถูกลดเงินเดือน กลัวถูกลดชั่วโมงทำงาน

ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาเชิงปากท้อง ยังเป็นความกังวลอันดับหนึ่ง

เรื่องสุดท้าย สามความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี แม้จะโดนถากถางในทางการเมืองจากฝ่ายตรงข้ามและคนที่เห็นต่าง กระนั้น น.ส.แพทองธาร ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากกลุ่มตัวอย่างมากที่สุด โดย 60.3% มีความเชื่อมั่นมากถึงมากที่สุดต่อนายกรัฐมนตรี เพราะมีนโยบายที่ตอบโจทย์ สามารถช่วยเหลือคนรายได้น้อย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผู้หญิงคนรุ่นใหม่ เก่ง ทำงานเร็ว ได้บารมีจากพ่อ ภาพลักษณ์ส่วนตัว รักครอบครัว ดูดีมีสง่า คิดอ่านพูดทันสมัย สื่อสารตรงประชาชน และปรับตัวเก่ง เป็นต้น

อีก 24.8% เชื่อมั่นน้อย ถึงไม่เชื่อมั่นเลย เพราะเห็นว่าขาดประสบการณ์ เป็นเครือข่ายตระกูลการเมือง ยังไม่เห็นผลงานชัดเจน มีหลุดอารมณ์ดูไม่ดี กังวลผลของนโยบายบางอย่าง ยังไม่เด็ดขาด และเห็นแก่พวกพ้อง ขณะที่ 14.9% ไม่มีความเห็นต่อความนิยมในตัวผู้นำหญิงคนนี้

ผศ.ดร.นพดล กล่าวว่า…จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า น.ส.แพทองธาร ยังคงได้รับแรงสนับสนุนในระดับที่มั่นคง แต่ไม่ใช่ไร้ข้อท้าทาย โดยเฉพาะจากกลุ่มที่เฝ้าจับตามองด้วยความระแวดระวัง

ส่วนที่ สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล ชี้ไปในทำนองที่ว่า…มีหลายจุดเด่นที่กลายเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อความเชื่อมั่นในตัวของ น.ส.แพทองธาร  กระทั่งอาจกลายเป็นสูตรผสมระหว่างภาพลักษณ์กับเนื้อหาทางนโยบาย ที่ทำให้เธอกลายเป็น “ความหวังใหม่” ของประชาชนในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ นั้น

หากคนไทยเชื่อในทฤษฎี “เงินจ้างผีโม่แป้งได้” (แม้แต่ผี…ยังจะใช้เงินซื้อได้ อะไรทำนองนั้น) แล้วล่ะก้อ

ดูกันยาวๆ จาก เกม “แย่งอำนาจการเมือง” ถึงระดับ…ขับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคออกไป พร้อมกับ ปรับคณะรัฐมนตรี ส่วนจะถึงขั้น “ชิงยุบสภาฯ” หรือไม่นั้น คงต้องรอหลังการถือครองกระทรวงสำคัญๆ จาก “เจ้าของเดิม” สักสี่ซ้าห้าเดือน ไปแล้วล่ะมั้ง!

การเมืองไทย…อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password