“ดีลแลกประเทศ” วลีที่มาพร้อมภาพประกอบเรื่องในเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.2568 เป็นต้นไป….

27 + 3 + 2 ชม. คือ เวลาเบื้องต้นที่ “วิป 3 ฝ่าย” ตกลงในเบื้องต้น หากไม่มีการตีรวนตั้งแต่วินาทีแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร พาดพิงไปถึง “คนในครอบครัวชินวัตร” จนต้องขยายวันเวลาออกไปแล้ว

เชื่อว่า…ทุกอย่างจะลงเอยตามข้อตกลงร่วมกัน

แต่เรื่องของการเมือง มันคงไม่ลงเอยง่ายๆ กับ ทฤษฎี 1+1 = 2 แน่! เพราะในทุกครั้งของการของเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ฝ่ายค้านเอง…ก็หวังจะสร้างแรงกระเพื่อม ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองเช่นกัน

แม้เกมในสภาฯ เสียงข้างมากของฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้การโหวตที่มี…เป็นชัยชนะในเบื้องต้นของฝั่งรัฐบาล โดยเฉพาะสถานการณ์ที่ “นายกฯอิ๊ง” ถูกโฟกัสเพียงลำพัง ร่วมกับ “คนในครอบครัวชินวัตร”

แต่ “ลิ่ม” ที่พรรคฝ่ายค้าน พยายามจะ “ตอกย้ำ” เพื่อสร้างความปริร้าวระหว่างแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางสารพันปัญหาที่ดูเหมือน 2 พรรคแกนหลัก…จะไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ตั้งแรกร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้ว

อาจส่งผลร้ายและสร้างแรงกระเพื่อมตามมาหลังสิ้นสุดการอภิปรายฯในรอบนี้ได้…

หลายรัฐบาลในอดีต…ก็มีอันต้องพังพาบ หลังสิ้นสุดศึกซักฟอกรัฐบาล

รอบนี้…แม้ทุกฝ่ายพยายามจะจับมือกันแบบหลวมๆ เพราะต่างก็ไม่พร้อม หากจะต้องเปิดเกมหาเสียงเลือกตั้งกันใหม่ในเร็วๆ นี้ แต่รอยร้าวที่ถูก “ตอกลิ่ม”…ย้ำ ซ้ำๆ ในตลอดทุกช่วงเวลาที่ฝ่ายค้าน งัดเอาข้อมูลออกมาแฉกลางสภาฯ

คะแนนเสียงที่ “นายกฯอิ๊ง” จะได้รับจากเพื่อน ส.ส.ฝั่งรัฐบาล และ/หรือ บางมือจากฝ่ายค้าน ก็ตามที

ล้วนมีผลต่อความรู้สึกนึกคิดของคนที่กำลังจะตกเป็น “เป้าหมายในทางการเมือง” ด้วยกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็ตามที

ยิ่ง “นายกฯอิ๊ง” ที่เจ้าตัว…สารภาพเอง ไม่เคยเจอบรรยากาศเช่นนี้ เคยเห็นแต่ในหน้าจอทีวี เมื่อต้องมาเจอกับตัวเอง ในสถานการณ์ที่รัฐบาลเอง ก็ไม่มีผลงานอะไรให้พอจับต้องได้เลย

การรับฟังเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของ “ผู้อาวุโส” ในทางการเมือง อาจช่วยอะไรไม่ได้ทั้งหมด นั่นจึงนำมาสู่การพูดจาในลักษณะร้องขอเชิงข่มขู่…

ให้ ส.ส.เพื่อไทยและฝั่งรัฐบาล คอยอ่านข้อความในห้องไลน์ เผื่อว่า…“นายกฯอิ๊ง” ต้องการขอข้อมูลที่สำคัญและจำเป็น รวมถึง…รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ช่วยตอบแทนในรายละเอียดของเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับงานของกระทรวงนั้นๆ

มากกว่านั้น เมื่อ ประธานวิปรัฐบาล ย้ำชัด! ส.ส.เพื่อไทยและ ส.ส.รัฐบาล…ห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามขาด และต้องมาพร้อมหน้ากันตั้งแต่ช่วงเช้าวันซักฟอกในวันแรก…

หันมาดูที่ ความเชื่อมั่นของคนที่กำลังจะถูกจับขึ้นเขียงในทางการเมือง อย่าง…“นายกฯอิ๊ง” ที่ได้ตอบคำถามนักข่าวในหลากหลายประเด็น เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 มี.ค.2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล

ลำพังจะจะอยู่รับฟังการอภิปรายตลอดจนถึงเวลาที่ลากยาว “ตีห้าครึ่ง” ของวันรุ่งขึ้น (25) ได้หรือไม่? เจ้าตัวตอบเอง…

“อยู่ไม่ถึงแน่นอน ต้องกลับไปนอนบ้าง เพราะยังมีวันต่อไปด้วย ต้องพูดคุยเพื่อผลัดเวรกัน สลับกัน อยู่คนเดียวทั้งหมดคงไม่มีใครอยู่ได้ตลอด”

ก่อนจะตอบแบบเล่นมุขว่า… “เครื่องดื่มชูกำลังต้องเข้า ไหว ก็เต็มที่ ก็เตรียมข้อมูลกันไป”

เรื่องที่ ฝ่ายค้าน ยอมเอาชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกไปจากญัตติไม่ไว้วางใจ “นายกฯอิ๊ง” ก็พูดชัด! “…นายทักษิณไม่ได้พูดอะไรเลย และการอภิปรายพูดอะไรมาก็ตอบไปตามนั้น”

ดีกรีคำถามที่เริ่มรุกหนักและรุนแรงอย่างวลีที่อ้างฝ้ายค้าน ทำนอง… “เป็นการดีลแลกประเทศ” (ตรงตามโปสเตอร์ข้างต้น) ทำเอาเจ้าตัวถึงกับอุทาน! ต่อด้วยคำถามตามมาว่า…

“แล้วประเทศเราถูกแลกกับอะไร? ไม่มี…แล้วจะถามว่าจริงไหมได้อย่างไร? เพราะไม่มีอยู่แล้ว ใครเขาจะไปแลกประเทศ แค่คิดว่าเราจะแลกของมีค่าของเราหรือไม่? เราไม่แลกใช่ไหม? ใครมาอยู่ตำแหน่งตรงนี้จะไปแลกประเทศ แลกอะไร? ไม่ใช่อยู่แล้ว ไม่เป็นไร สร้างธีมให้มีสีสัน น่าติดตาม”

เมื่อถึง คำถามแทงใจดำ! ฝ่ายค้านมองว่า…เป็นการนำผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตร มาแลกกับผลประโยชน์ของประเทศ

“ตระกูลชินวัตรได้อะไร” นั่นคือคำถามกลับจาก “นายกฯอิ๊ง” ก่อนจะตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ที่บอกว่า…แลกกับการกลับมาของนายทักษิณ!

เล่นเอาน้ำเสียง สีหน้า และท่าทางของ “นายกฯอิ๊ง” ดูเปลี่ยนไป และจริงจังมากขึ้น ก่อนจะตอบว่า “ได้คุณพ่อกลับมา เรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป”

รวมถึง เป็นการดีลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาด้วย? ก่อนจะตอบกลับว่า “ก็ไม่ใช่ เรื่องเดียวตลอดไป ทำอะไรก็ตามเป็นดีลแลกหมด ที่จริงต้องใช้เหตุผลด้วย อย่าใช้แต่อารมณ์”

ส่วน ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาล จะยกมือให้นายกฯครบทั้งหมด หรือไม่นั้น “นายกฯอิ๊ง” ตอบคำถามนี้ว่า… “พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันพร้อมสนับสนุนกันอยู่แล้ว ครบไม่ครบต้องไปดูกันหน้างานว่าเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรบ้าง”

ดูเหมือนการตอบคำถามของนักข่าวรอบนี้ ของ “นายกฯอิ๊ง” จะสร้างความหงุดหงิดให้เจ้าตัวมากพอสมควร

ส่วนจะส่งผลทำให้ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีรอบนี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? อย่างไร? และระดับการเปลี่ยนแปลงจะรุนแรงมากแค่ไหน?

คงต้องลุ้นไปกับ การอภิปรายของฝ่ายค้าน และ การตอบข้อสงสัยของ “นายกฯอิ๊ง” และบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ตอบแทน

แต่ที่แน่ๆ รอบนี้…คนไทยจะได้เห็นรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจาก “ลิ่มการเมือง” ชัวร์!!!.