‘5 ข้อ’ หาก ‘นายกฯอิ๊ง’ ทำได้! จะหลุดพ้นอาการ ‘เสียรังวัด’ ทันที!

หลังจากเสียรังวัด กรณี “ต่อล้อต่อเถียง…ต่อปากต่อคำ” กับสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้อากัปริยา ที่ไม่สะท้อนภาพความเป็น “ผู้นำประเทศ – ที่สง่างาม” จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบ ชนิดหาดีแทบไม่เจอ

ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งได้แสดงท่าทีที่สอดรับกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย และตรงกับแนวทางของ กองทัพไทย หลังจาก “ผู้นำเหล่าทัพ” ไม่เฉพาะ แม่ทัพภาคที่ 2 แต่ยังรวมถึง แม่ทัพภาคที่ 1 ไล่ไปจนถึง…ผู้บัญชาการทหารบก ลากยาวข้ามฟากไปยัง เหล่าทัพที่เหลือ ทั้ง…กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ กองบัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้แสดงความแข็งกร้าว ต่อท่าทีและข้อเรียกร้อง…ในลักษณะ “เอาเปรียบ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้” จาก “ผู้นำเชิงจิตวิญญาณ” ของประเทศข้างบ้าน

ท่าทีที่ว่าของ นายกฯแพทองธาร คือ…การโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ว่า…

“จากกรณีที่ทาง รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานีอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน

รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน

ในกรณีที่ กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป

ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ”

แน่นอน แม้จะล่าช้า จนเกือบไม่ทันการ แต่ก็ยังดีกว่า…ไม่มีท่าทีต่อกรณีดังกล่าวเสียเลย!!! แม้คนไทยหลายส่วน ยังคงรู้สึกว่า…มันช้าและน้อยเกินไป ควรจะมีอะไรที่ให้ นายกฯแพทองธาร ได้ทำมากกว่านั้น ในสถานการณ์นี้…

ขณะที่ ทางฝั่งกัมพูชา ทั้งฝ่าย รัฐบาลและประชาชนกัมพูชา ต่างออกมาก่นด่ากันเสียงขรม! หลัง “ผู้นำไทย” แสดงจุดยืน…ไม่รับอำนาจศาลโลก แต่ยึดแนวทางการหารือใน ระดับทวีภาคี หรือ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา (Joint Boundary Commission – JBC) เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาดระหว่าง 2 ประเทศ ภายใต้หลักการ “สันติวิธี”

อย่างที่บอก…ท่าทีของ นายกฯแพทองธาร ที่เพิ่งแสดงออกมา และเป็นท่าทีที่ทำให้ ฝั่งกัมพูชา รู้สึกไม่พอใจ กระนั้น สิ่งนี้…ก็ไม่ได้ทำให้ฝั่งไทย รู้สึกชื่นชมยินดีมากนัก? เพราะ คนไทยส่วนใหญ่ ยังคิดว่า…สิ่งที่ นายกฯแพทองธาร ได้ทำนั้น มันยังน้อยเกินไป…

แล้วอะไร? คือสิ่งที่คนไทยส่วนใหญ่ อยากให้ “ผู้นำหญิง” รายนี้ทำ

1.ประกาศให้ชัด! ฝ่ายกัมพูชา รุกล้ำดินแดนไทยหรือไม่? หากรุกเข้ามาจริง…รัฐบาลไทยจะทำอะไรต่อไป?

2.หาก ฝ่ายกัมพูชา ยืนยันจะไม่ล้มการเจรจรในระดับ JBC รัฐบาลไทย ภายใต้การนำของ นายกฯแพทองธาร จะประกาศ ยกระดับความเข้มข้น ในการจัดการปัญหานี้อย่างไร? ถึงขึ้น “ปิดด่านชายแดน” ทุกแห่งที่มีหรือไม่? เพราะฝั่ง กองทัพเอง ก็ประสงค์จะทำสิ่งนี้เช่นกัน เนื่องจากไม่ต้องการให้ฝ่ายกัมพูชา ได้ตุนเสบียงรองรับการเปิดสงคราม หากจะมีขึ้นตามมา

3.มาตรการต่อเนื่องจากการ “ปิดด่านชายแดน” คือ จะต้องตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า และตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึง สั่งห้ามส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปไปยังกัมพูชา รวมถึง ลดสัดส่วนการส่งออกน้ำมันฯให้กับ สปป.ลาว และเวียดนาม เพื่อไม่ให้ส่งขายต่อให้กับกองทัพกัมพูชา เพราะพวกเขาก็จะนำน้ำมันฯที่ว่านี้…ไปเติมใส่รถถัง รถบรรทุก เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบิน ฯลฯ เพื่อมาทำศึกกับฝ่ายไทยได้

4.ประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ส่วนตัว ทั้งในระดับ…ฉันเพื่อน และฉันญาติสนิท แล้วจะต้องไปประกาศต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระแก้วมรกต ศาลหลักเมือง ฯลฯ ด้วย ไม่เช่นนั้น…คนไทย อาจไม่เชื่อในการประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ฯชั่วคราวครั้งนี้

5.ประกาศยกเลิก MOU 2543 (ครอบคลุมพื้นที่ทางบก) ที่เกิดขึ้นใน สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ซึ่งถือเป็นศัตรูคู่อาฆาตในทางการเมืองกับ อดีตนายกฯทักษิณ คุณพ่อของนายกฯแพทองธาร และ ประกาศยกเลิก MOU 2544 (ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเล) ซึ่งเป็น คุณพ่อของนายกฯแพทองธาร เอง ที่ได้ไปจัดทำไว้กับ รัฐบาลกัมพูชา เมื่อกว่า 30 ปี ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ ฝ่ายไทย…ตกเป็น “เบี้ยล่าง” ในทุกครั้งของการเจรจากับฝั่งกัมพูชา เนื่องจาก ใน MOU ดังกล่าว ฝ่ายไทย ดันไปยอมรับ แผนที่ สัดส่วน 1:200,000 ของกัมพูชา ซึ่งในอนาคตไม่แน่ว่า…อาจทำให้เราต้องเสียดินแดนเพิ่มเติม ทั้งบนบกและในทะเล โดยเฉพาะ ในทะเลที่มีทรัพยากรใต้ทะเลบริเวณเกาะกูดเป็นจำนวนมาก

หากเป็นไปได้…โปรดเปลี่ยนภาพ “กลุ่มคนที่ยืนด้านหลัง” ที่วันนี้…มีแต่ คนของพรรคเพื่อไทย และยากจะหา คนจากพรรคร่วมรัฐบาล มายืนค้ำยันให้ได้แล้ว โดยดึงเอาบรรดา…“ผู้นำเหล่าทัพ แม่ทัพนายกอง ครบทุกเหล่า” มายืนเคียงข้าง

ประเด็นคือ…กล้าไหม? และ ผู้นำเหล่าทัพ แม่ทัพนายกอง…จะมารึป่าว?

หาก “นายกฯแพทองธาร” ทำได้ครบทั้ง 5 ข้อ ย้ำ! ครบทั้ง 5 ข้อได้จริงแล้ว เชื่อว่า…อาการ “เสียรังวัด” ทั้งในระดับต่อ “ต่อล้อต่อเถียง…ต่อปากต่อคำ” กับสื่อมวลชน และในระดับ “ผู้นำประเทศ” ต่อกรณีปัญหาชายแดนกัมพูชา จะคลี่คลายลงทันทีเช่นกัน!!!

“ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ขอเชิญคนไทย มาลุ้น! และ “วัดใจ” ไปด้วยกันว่า…นายกฯแพทองธาร จะตัดสินใจ “เดินหน้า” ต่อประเด็นปัญหานี้อย่างไร?

5 ข้อที่ คนไทยส่วนใหญ่ อยากเห็นและอยากให้ “ผู้นำหญิง” รายนี้…ได้ทำตามเสนอไว้ข้างต้นนี้ ที่สุด! จะได้ทำ? และทำได้ครบหรือไม่?

หากไม่ทำ หรือทำไม่ครบ! ถึงตอนนั้น…ค่อยว่ากันใหม่ “คนไทยควรจะทำอย่างไร?” จะรอใช้อำนาจระหว่าง การใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งใหม่ หรือจะมีช่องทางอื่นใด…ที่ทำได้เร็วกว่านั้น

ถึงเวลา…สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน จะเป็นผู้ชี้ทางนำแสงสว่างมาให้ประเทศไทยและคนไทยเอง!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password