ปิดจุดเสี่ยง! ‘บ้านเพื่อคนไทย’ อย่าซ้ำรอย ‘ทักษิโณมิกส์’
หนึ่งในแผนงาน/โครงการตาม แผนยุทธศาสตร์ “ทักษิโณมิกส์” ยุครุ่งเรืองในอดีต สมัย “นายกฯทักษิณ ชินวัตร” และรัฐบาลไทยรักไทย ที่ยังตราตรึงและเป็นความทรงจำดีๆ ของคนไทย นั่นก็คือ โครงการบ้านเอื้ออาทร ที่แม้ในภายหลังจะพบปัญหามากมายจากการทุจริตของฝ่ายการเมือง ข้าราชการประจำ และผู้บริหารของหน่วยที่เกี่ยวข้อง
ผลแห่งคดีจะลงเลยและสิ้นสุดอย่างไร? แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว
โครงการในลักษณะคล้ายๆ กัน และมีแรงบันดัลใจจากคนที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” เจ้าของทฤษฎีเศรษฐกิจคู่ขนาน “ทักษิโณมิกส์” ได้หวนกลับมาใหม่อีกครั้งในชื่อ “โครงการบ้านเพื่อคนไทย”
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (17 มกราคม 2568) ณ โถงกลางประตู 1 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดชมห้องตัวอย่าง และจองสิทธิ์โครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยมีบางส่วนของคณะรัฐมนตรี เข้าร่วมโครงการและเป็นสักขีพยานในภารกิจสำคัญของรัฐบาลชุดนี้
ภายใต้แนวคิดที่ว่า…“การมีบ้านเป็นของตนเองจะช่วยให้ประชาชนสามารถพัฒนาตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง อีกทั้งยังส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวม”
โครงการนี้ รัฐบาลเลือกที่จะใช้พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟ ซึ่งสะดวกต่อการเดินทาง และมีการเชื่อมโยงกับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในอนาคต สำหรับขึ้นโครงการบ้านเพื่อคนไทย เพื่อให้เป็นบ้านหลังแรกให้กับกลุ่มผู้ใช้แรงงานรายได้น้อย รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งทำงาน อันจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกลุ่มนี้
โดยมีเงื่อนไขหลักสำคัญในการเข้าร่วมโครงการ คือ ผู้สมัครต้องเป็นผู้ไม่มีบ้านหลังแรก และยังไม่เคยขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เพื่อป้องกันการเก็งกำไรในอนาคต
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า คนไทยกว่า 5.87 ล้านครอบครัว หรือคิดเป็นประมาณ 27% ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง รัฐบาลจึงได้เน้นย้ำเรื่องของการช่วยเหลือสนับสนุนพี่น้องประชาชน ผ่านการดำเนินนโยบายที่จะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หรือทำให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมั่นคงขึ้น ซึ่งโครงการบ้านเพื่อคนไทยจะช่วยสนับสนุน ผู้ที่เริ่มทำงาน First Jobber หรือคนที่อยู่ในวัยทำงานที่กำลังพยายามเก็บเงินซื้อบ้าน มีบ้านเป็นของตัวเอง บนทำเลใกล้รถไฟฟ้า เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางไปทำงาน ทำให้มีแรงกาย แรงใจในการทำงานเพื่อขับเคลื่อน และพัฒนาประเทศ และเพื่อให้พี่น้องคนไทยทุกคนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี
ทั้งนี้ บ้านเพื่อคนไทยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชน ทำให้ประชาชนมีที่ดินเป็นของตัวเอง มีที่อยู่อาศัยอย่างปลอดภัย เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการจะมอบให้ประชาชน โดยหลังจากนี้ จะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับประชาชนที่สนใจโครงการบ้านเพื่อคนไทยผ่านช่องทางต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนติดตาม Social Media ของรัฐบาลไว้ เพื่อให้ประชาชนไม่พลาดข้อมูลสำคัญ นอกจากนั้น ประชาชนยังสามารถเดินทางเข้ารับชมบ้านตัวอย่าง ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 31 มกราคมนี้
“ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทยในระยะนำร่อง ทุกหน่วยงานมีส่วนสำคัญอย่างมากในการผลักดันนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลเพื่อสนับสนุนประชาชน แต่ยังต้องร่วมมือ ร่วมใจผลักดันนโยบายของรัฐบาลในมิติอื่น ๆ เพื่อประเทศชาติและเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงว่า โครงการฯ จะส่งผลดีหรือเสียในตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน และโครงการดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยให้มีสิทธิ์มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้
สำหรับ โครงการบ้านเพื่อคนไทย ช่วยเพิ่มการใช้ประโยชน์จาก ที่ดินของ รฟท. ที่เคยรกร้างว่างเปล่าหรือถูกใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างชุมชนที่มีคุณภาพโดยการวางแผนที่อยู่อาศัยถึง 100,000 ยูนิตในรูปแบบคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวจะช่วยกระตุ้น GDP ของประเทศรวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึงได้
ถึงบรรทัดนี้ ก็อยากให้ นายกฯแพทองธาร และ “รัฐบาลเพื่อไทย” ได้ศึกษาบทเรียนในอดีต ทั้งจาก โครงการบ้านเอื้ออาทรและโครงการประชานิยมอื่นๆ ที่รัฐบาลในอดีตได้เคยทำกันเอาไว้ จุดไหนเป็นจุดอ่อน และอาจพัฒนาจนกลายเป็นปัญหาตามมาในอนาคต จำเป็นก็ต้องตัดทิ้งออกไป
อย่าแค่เคลือบแคลงระแวงสงสัยกับพฤติกรรมของ “คนร่วมรัฐบาล” หรือคนในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่จงเอาความเคลือบแคลงระแวงสงสัยที่ว่านี้ เปลี่ยนเป็นพลังจัดการกับทุกปัญหาและอุปสรรคที่อาจมีตามมา
ปิดจุดเสี่ยงให้เหลือศูนย์ หรือให้น้อยที่สุด! อย่าได้ “ลูบหน้าปะจมูก” หรือเอาผิดเพียงแค่แสดงพฤติการณ์ในลักษณะ “ไฟไหม้ฟาง” อีกเลย!!!.