ชูวิทย์ยื่นถอนคุ้มครองภท.- ฟ้องทนายตั้งร้อยล.- จ่อแถลงโต้ปมที่ดินสวนย่านสุขุมวิท  

มาตามนัด! “ชูวิทย์” ยื่นเพิกถอนคำสั่งศาลเเพ่งคุ้มครองพรรคภูมิใจไทยห้ามพูดกัญชากระทบหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ พร้อมฟ้อง “ทนายตั้ม” เรียก 100 ล้านบาท ปมพาดพิงกล่าวหารับเงินเว็บพนัน ย้ำ! ไม่ให้อภัย เตรียมนำเงินที่ได้นำไปทำบุญทั้งหมด ด้านศาลนัดไต่สวน 19 มิ.ย.นี้ ด้านทีมทนายฯ เตรียมเดินสายร้องสภานายสอบมรรยาท “ทนายตั้ม” ส่วนปมยกที่ดิน “สวนชูวิทย์” 6 ไร่ ย่านสุขุมวิท พร้อมตั้งโต๊ะแถลงโต้สื่อใหญ่ “สนธิลิ้ม” ระบุ! ตัวเองรู้เรื่องนี้ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2566 ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง พร้อมด้วย นายสกลชัย ลิมป์ศรีสวรรค์ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลแพ่ง กรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายชูวิทย์พูดถึงนโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย ในช่วงระหว่างการหาเสียง

ทั้งนี้ นายอนันต์ชัย กล่าวแทนในเชิงข้อกฎหมายว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญขั้นพื้นฐานของประชาชนที่จะวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของพรรคการเมืองและกรณีกัญชา ปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่ปรากฏตามข่าวสารหลายครั้งว่าเกิดผลเสียต่อประชาชนและเยาวชนที่เข้าใช้กัญชาอย่างเสรี

นอกจากนี้ ยังมีนักกฎหมายออกมาให้ความเห็นว่า การที่นายชูวิทย์ให้ข้อมูลเรื่องกัญชาเห็นด้วยเพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ส่วนตัวสนับสนุนแนวทางชูวิทย์รณรงค์ปราศรัย ถึงแม้ที่ผ่านมาตนมองว่าเป็นเรื่องดี แต่ท้ายที่สุดแล้วมีผลเสียมากกว่า

ด้าน นายสกลชัย ทนายความในคดีนี้ กล่าวว่า ภายหลังการยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวแล้ว จะยื่นขอให้ศาลแพ่งไต่สวนฉุกเฉินด้วย

จากนั้น นายชูวิทย์ พร้อมทีมทนายความ เดินทางต่อไปยังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากกรณีที่นายษิทราจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อาทิ วันที่ 23 มี.ค., 24-27 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเนื้อหามีการระบุว่า นายชูวิทย์รับเงินจากเว็บการพนัน และ สารวัตรซัว จำนวน 10 ล้านบาท พร้อมเผยแพร่กราฟฟิกภาพถุงกระดาษบรรจุเงิน 2 ถุง ทำให้เนื้อหาข่าวถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างกว้างขวาง เป็นเหตุให้นายชูวิทย์ ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และลูกชายอีกคน

นายชูวิทย์ ย้ำว่า นายษิทรายังกล่าวหาว่า ลูกชายชูวิทย์รับเงินสกุลดิจิทัล พร้อมยืนยันว่า แม้นายษิทราจะติดต่อมาขอโทษ ตนจะไม่มีการยอมความใดๆ เนื่องจากเงิน 100 ล้านตามที่ฟ้องนี้จะนำไปทำบุญทั้งหมด

โดยศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา และนัดไต่สวนวันที่ 19  มิ.ย.นี้ 13.00 น.

ด้าน นายอนันต์ชัย ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากได้ยื่นฟ้องนายษิทราฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแล้ว นายชูวิทย์ยังเรียกเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท และให้ลงคำขอโทษ ประกอบด้วย สื่อโทรทัศน์ 10 สำนัก, หนังสือพิมพ์ 14 สำนัก และสื่อออนไลน์ 21 สำนัก รวม 45 สื่ออีกด้วย ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายมองว่า นายชูวิทย์กลับคำพูดเรื่องแหล่งที่มาเงิน 6 ล้านบาท เรื่องนี้ตนยอมรับว่า เป็นคนเขียนบทพูดให้นายชูวิทย์ชี้แจงต่อสื่อตั้งแต่แรก เปรียบเหมือนการวางกลยุทธ์ วางแผนในการต่อสู้  ทั้งนี้ ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ตนจะยื่นร้องต่อสภาทนายความ ให้สอบมรรยาทนายษิทรา เนื่องจากมีพฤติกรรมหลายอย่างที่เข้าข่ายผิดต่อมรรยาททนายความ ซึ่งโทษอาจสูงถึงขั้นลบชื่อออกจากทำเนียบทนายความ

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงตน ประเด็นการพัฒนาที่ดิน “สวนชูวิทย์” บริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 เป็นโครงการ อาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สูง 51 ชั้น ว่า ในอนาคตเรื่องนี้อาจจะต้องใช้บริการ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมถามกลับ นายสนธิ ว่า อยากได้สวนชูวิทย์มากใช่ไหม ถึงกับไปประกาศกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งว่าจะยึดผม พร้อมกล่าวว่า นายสนธิอาจจะมั่นใจว่ามีอำนาจบารมี มีเครือข่ายมาก แต่ตนมีเจตนารมณ์ดี ให้ดูที่เจตนาตนไม่อยากตอบโต้ แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำ โดยจะนัดแถลงข่าวต่อไปในอนาคต ระหว่างนี้ขอให้ นายสนธิ พูดทุกอย่างที่อยากพูดให้หมด พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครรู้ดีเรื่องนี้ดีเท่าตนเอง ตอนเปิดให้บริการสาธารณะนายสนธิ หายไปไหน ตนติดคุกอยู่จนพ้นโทษออกมา หายไปไหน แต่พอพูดเรื่องกัญชาก็ออกมาโจมตีกัน

นายชูวิทย์ ยังได้กล่าวพาดพึงถึง นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คนสนิทของนายสนธิ ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นายเนวิน ชิดชอบ ผู้ใหญ่ที่พรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ ให้ความเคารพ โดยระบุว่า ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มกัญชา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องต่อสู้เรื่องนโยบายกัญชาเสรี.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password