ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าคดีตู้ห่าว 24 ม.ค.นี้  – เฮียชู ไม่หวั่นถูกขู่ฆ่า ชงถอนประกันเมียตู้ห่าว

ระทึก! คดีตู้ห่าวและพวก หลังศาลนัดสอบคำให้การจำเลย เผย! ทนายความผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ค้านและขอให้สืบพยานล่วงหน้า ดีเดย์! 24 ม.ค.66 เวลา 09.00 น. ด้าน “ชูวิทย์” บุกศาล เกาะติดคดีดัง โวตัวเองมีชื่อเป็นพยานในคดีด้วย ไม่หวั่นแม้ถูกขู่ฆ่า เตรียมเสนอศาลเตรียมถอนประกัน นายตำรวจหญิงเมียตู้ห่าว ระบุ! มีขบวนการข่มขู่พยาน ใช้วิธีใต้ดินทำลายหลักฐาน ชงเรื่อง ผบ.ตร. รับลูก ส่งต่อตำรวจตามเรื่องทันที เชื่อมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเครือข่ายแก๊งอาชญากรข้ามชาติ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ม.ค.2566 ที่ห้องพิจารณาคดี 403 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง  ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย และนัดตรวจพยานหลักฐานคดี ตู้ห่าวกับพวก หมายเลขดำ ย.87/2566 ที่เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด 4 ได้นำสำนวนฟ้อง 332 หน้าเป็นโจทก์ฟ้อง นายฮวง ไฮ่ เท่า เป็นจำเลยที่ 1 นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานนท์ นักธุรกิจชาวจีน เป็นจำเลยที่ 2 รวมกับ จำเลยรายอื่นซึ่งมีพวกจำเลยสัญชาติจีน ไทย กัมพูชา และบริษัทนิติบุคคล (5 แห่ง) รวม 23 ราย เป็นจำเลยต่อศาลรวม 9 ข้อหา ในความผิดฐานตามประมวลกฎหมายยาเสพติด, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542, พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522, พ.ร.ก.การบริหารจัดการ การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560, พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509, พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ, พ.ศ.2490 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91, 209 ประกอบด้วย…

1.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยกระทำการในลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม

2.ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

3.ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

4.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน

5. เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายดำเนินงานขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

6. ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

7. ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

8.ร่วมกันรับคนต่างด้าวทำงานโดยคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตให้ทำงาน โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

และ 9.ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

โดยศาลได้เบิกตัวนายตู้ห่าวกับพวกที่ไม่ได้รับการประกันตัวจากเรือนจำมาศาลฯ  ส่วนจำเลยที่ได้รับการประกันตัว อาทิ พ.ต.อ.หญิง วัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ อดีต ผกก.ตม. จำเลยที่ 8 ภรรยานายตู้ห่าว มาที่ศาลฯด้วย ทั้งนี้ ศาลไม่อนุญาตให้ญาติ บุคคลใกล้ชิด บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง และผู้สื่อข่าวเข้ารับฟังการพิจารณา รวมทั้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันเทิงจินหลิง ย่านยานนาวา ที่มีการลักลอบเล่นการพนัน ค้ายาเสพติด ได้เดินทางมาสังเกตุการณ์  

โดยโจทก์ – จำเลยทั้ง 23 ราย และทนายความมาศาล ซึ่งศาลได้จัดล่ามภาษจีนไว้ด้วย ขณะที่จำเลยทั้ง 23 รายแถลงไม่ประสงค์จะเข้าศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในคดีอาญาเพื่อให้ความรู้จำเลย

ต่อมา นายชูวิทย์ เปิดเผยเบื้องต้นว่า เมื่อ 5 ปีก่อนที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตนเคยรับ โทษเมื่อทำผิดติดคุกตามกระบวนการยุติธรรม วันนี้ตนจะมาติดตามในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งเคยบอกแล้วว่าตนจะมาติดตาม โดยศาลจะนัดดูพยานหลักฐานดูคำให้การสอบถามจำเลยว่าจะให้การปฏิเสธหรือรับสารภาพ และตนเข้าใจว่านายตู้ห่าวกับพวกคงจะปฏิเสธ เพราะโทษหนักทั้ง9 ข้อหา อย่างไรก็ดี การต่อสู้ในวันนี้ก็คงจะดูว่ามีพยานหลักฐานอื่นใด จำเลยมีพยานเท่าไหร่นัดสืบพยายามกี่วัน กี่นัด ประการสำคัญที่อยากจะบอกคือตนจะติดตามว่ามีการข่มขู่พยาน มีหลักฐานที่ตนได้รายงานให้กับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เมื่อวานซึ่งท่านได้สั่งทีมงานให้ไป สอบคำให้การพยานว่ามีการข่มขู่พยานอย่างไร มีการเขียนว่าให้เงินทองก็ไม่ต้องให้การ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เขาเรียกว่า คำใต้ดิน ต่อไปก็คงจะวิ่งเต้นทำลายพยานหลักฐาน เป็นกี่ครั้งแล้วที่นายตู้ห่าวใช้วิธีการใต้ดินยัดเงินให้พยาน ไม่ต้องขึ้นให้การให้พยานหลบหนีไป กี่ครั้งแล้วที่ประชาชนพ่ายแพ้ เมื่อตนยังยินดีรับใช้กระบวนการยุติธรรมถูกลงโทษติดคุก 2 ปีทั้งๆ ที่เป็นที่ของตนเอง เมื่อตอนออกมาก็ต้องไปดูว่าคนอื่นๆ ที่ทำผิด จะได้รับโทษเหมือนตนหรือไม่ ถ้าไม่ได้รับก็ไม่ยุติธรรมกับตน แต่คดีของตนเป็นเรื่องเล็ก ส่วนคดีนี้เป็นเรื่องใหญ่ การมาขายยาเสพติดเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ วันนี้ทางอัยการจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มจำเลยรายหนึ่งที่ตอนแรกถูกสั่งฟ้องแค่คดีฟอกเงินแต่วันนี้จะฟ้องเพิ่มในข้อหา มีส่วนร่วมอาชญากรรมข้ามชาติ และจะเสนอให้พนักงานสอบสวนขอถอนประกัน พ.ต.อ.หญิง ที่เป็นจำเลยร่วมและได้ประกันตัวมาคนเดียว ซึ่ง คณะทำงานก็เตรียมแจ้งข้อหาองค์กรอาชกรรมข้ามชาติ และมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ซึ่งสามารถขอให้ศาลเพิกถอนประกันได้ ที่ผ่านมานายตู้ห่าว ยังมีพฤติกรรมข่มขู่พยานอีกหลายคน มีอิทธิพลและมีความพยายามทำลายหลักฐาน ด้วยวิธีการใต้ดิน แต่ก็เชื่อมั่นว่ากระบวนยุติธรรมจะสามารถลงโทษกลุ่มขบวนการเหล่านี้ได้ ซึ่งวันนี้ตนก็จะเข้าไปนั่งฟังในฐานะประชาชนและออกมาเพื่อรายงานให้สังคมทราบ

เมื่อถามว่านายชูวิทย์มีรายชื่อเป็นพยานในคดีนี้หรือไม่ นายชูวิทย์ ตอบว่า ตนมีรายชื่อเป็นพยานด้วย เพราะตนติดตามคดีนี้ พยานชี้เบาะแส อีกทั้งพยานที่สำคัญก็มาจากตนทั้งนั้น โดยวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะนัดเมื่อใดเพราะเป็นนัดครั้งแรก จำเลยในคดีนี้อาจจะรับสารภาพก็เป็นได้

เมื่อถามถึงการข่มขู่พยานว่าเป็นบุคคลรายใด นายชูวิทย์ ตอบว่า เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วเมื่อวานที่ตนได้บอกเรื่องข่มขู่พยานมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ให้ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. ท่านก็ให้ทีมบินไปสอบปากคำพยานทั้ง 2 คนทันที ตนบอกแล้วว่าให้สู้กันตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้ามาสู้กันใต้ดินตนรู้หมดทุกอย่างก้าว ตนบอกได้แค่ว่าพยานรายนี้คือพยานที่สำคัญมากที่สุด เป็นพยานที่ใกล้ชิดรู้ความเคลื่อนไหว จึงไม่สามารถบอกรายละเอียดมากกว่านี้ได้เพราะกระทบความปลอดภัย เท่าที่ตนทราบมีกลุ่มคน 4 คนต้องสงสัยไปนั่งเฝ้าพยานหน้าบ้าน ตอนนี้พยานคนดังกล่าวอยู่ในความคุ้มครองของ ผบ.ตร. ตนบอกเยอะไม่ได้ ให้นักข่าวไปถามทาง พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. ดีกว่า แต่บอกได้เลยว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล จะใช้ทุกวิถีทาง ทำลายน้ำหนักของพยานในระหว่างต่อสู้ของศาลชั้นต้น ซึ่งเป็นศาลสำคัญ การทำลายพยานหลักฐานก็เป็นวิธีการทางใต้ดิน อย่างที่ผ่านมาในอดีตที่ตนได้ออกมาแฉ เชื่อได้เลยว่าจะมีการใช้อิทธิพลในคดีนี้แน่นอน แต่ตนเหนื่อยมากกับเรื่องนี้ ตนยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม ตนก็จะมาตามคดีจนถึงศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจนคดีสิ้นสุด

ส่วนเรื่องที่คนจีนออกมาบอกว่าตำรวจมีการให้ทางหรือนำขบวนนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีมานานแล้วคือ คนจีนต่างๆ เหล่านี้เห็นเมืองไทยใช้เงินซื้อได้ทุกอย่าง แต่กรณีนี้มีการถ่ายคลิปลงสื่อโซเชียล การเข้าออกประเทศโดยไม่ต้องแสดงหน้าตาที่เคาน์เตอร์ มีกระบวนการหลายอย่าง ในสมัยก่อนกระเป๋าก็ยังไม่ต้องตรวจ ผ่าน ตม.ก็จ่ายเงินให้เขาพาออกไปได้ ไม่ต้องตรวจอะไร ต่อมาให้ใช้รถนำขบวนให้ดูยิ่งใหญ่เป็น VIP แต่ไม่เกี่ยวกับขบวนการทุนจีนสีเทา พวกคนจีนเหล่านี้มองเห็นเมืองไทยเป็นเมืองที่ไกลปืนเที่ยงไม่มีกฎหมายที่แข็งแกร่ง เจ้าหน้าที่รัฐของเราเป็นเสียเอง ทำให้คนเขาหัวเราะ ทำให้ต่างชาติเขาเยาะเย้ย อย่างที่นายตู้ห่าวเคยกล่าวไว้ว่า..มีเงินน่ะทำได้ทุกอย่าง เราอย่าให้ต่างชาติมาใช้ประโยคนี้กับประเทศเรา ให้เป็นมีเงินก็ทำไม่ได้ ทำตามกฎหมายดีกว่า

อีกด้านหนึ่ง ที่ ศาลอาญากรุงเทพใต้, ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 23 รายฟัง แล้วสอบถามว่า พวกจำเลยว่าจะให้การรับสารภาพ หรือปฏิเสธความผิด ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ ศาลรับคำให้การของจำเลยไว้แล้ว โดยนัดตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. และเบิกตัวจำเลยที่ต้องขังมาศาลด้วย

โดยในวันเดียวกันนี้ ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าก่อนฟ้องคดี ตามคำร้องหมายเลขดำ ยสฟ.1/2566 ที่อัยการสำนักงานคดียาเสพติด 4 ผู้ยื่นคำขอ ในคดีที่ นายฮวง ไฮ่ เท่า (HUANG HAITAO) กับพวกรวม 19 คน ตกเป็นผู้ต้องหา คดีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งพยานที่ขอสืบนี้ เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีนและเป็นประจักษ์พยานข้อเท็จจริงส่วนสำคัญในคดีนี้ โดยพยานอยู่ระหว่างรอส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรเพื่อกลับภูมิลำเนา จึงเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องขอสืบพยานก่อนฟ้องไว้

ขณะที่ ทนายความผู้ต้องหาที่ 12 แถลงขอเลื่อนการนัดสืบพยานล่วงหน้าวันนี้ออกไปก่อน อ้างว่ามีหมายเรียกพยาน เอกสารเพื่อใช้ประกอบการถามค้าน โดยรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ว่าพยานเอกสารตามหมายเรียกอยู่ในความครอบครองของพนักงานอัยการผู้ร้อง ซึ่งผู้ต้องหามีความประสงค์จะใช้พยานเอกสารดังกล่าวในการถามค้าน หากไม่ได้เอกสารมาจะทำให้ผู้ต้องหาเสียเปรียบ โดย อัยการแถลงว่า ภายหลังจากเลื่อนคดีนี้ โจทก์ได้ยื่นคำฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2566 ดังนั้น โจทก์จะยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้าคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173/2 ภายในเวลา 12.00 น.ในวันนี้ เพื่อสืบพยานล่วงหน้าในเวลา 13.00 น.

ทนายความจำเลยทั้งหมด แถลงว่า เนื่องจากโจทก์ยื่นคำฟ้องเข้ามาแล้ว มีจำนวนถึง 400 หน้าเศษ และมีจำเลยเพิ่มเติมจากผู้ต้องหาในคดีนี้อีกซึ่งมีการแต่งตั้งทนายความเข้ามา โดยทนายความที่แต่งตั้งเข้ามาใหม่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงของคดี การสืบพยานล่วงหน้าในช่วงบ่ายวันนี้จะทำให้ฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดเสียเปรียบ ประกอบกับในคำฟ้องมีการฟ้องนิติบุคคลเพิ่มเข้ามาซึ่งยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความ จึงขอเลื่อนการสืบพยานล่วงหน้าออกไปก่อน

อัยการโจทก์แถลงว่า เนื่องจากพยานโจทก์เป็นคนต่างชาติ และจะเดินทางกลับประเทภูมิลาเนาในเร็ววันนี้ เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะนำพยานโจทก์มาสืบได้ในภายหลัง

ทนายความจำเลยทั้งหมดแถลงว่า โจทก์ยื่นคำฟ้องเข้ามา แต่ยังไม่มีการยื่นบัญชีระบุพยาน ทําให้ฝ่ายจำเลยทั้งหมดเสียเปรียบ เพราะไม่ทราบว่าพนักงานอัยการ โจทก์นั้นจะระบุพยานอะไรบ้าง ประกอบกับฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกฟ้องต้องการพยานเอกสารคำให้การผู้ต้องหาทุกคน จึงขอให้ผู้ร้องนำคำให้การผู้ต้องหาทุกคนมามอบให้กับฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดในช่วงบ่ายของวันนี้

โจทก์แถลงว่า ไม่ขัดข้องที่จะสำเนาคำให้การผู้ต้องหา และจะส่งมอบคำให้การผู้ต้องหาทั้งหมดให้ฝ่ายผู้ต้องหาในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยวันนี้โจทก์จะยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้า และระบุบัญชีพยานเพียงพยานที่จะนำมาในล่วงหน้าเท่านั้น ส่วนพยานหลักฐานอื่นจะยื่นในภายหลัง

ทนายความผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ค้านและขอให้สืบพยานล่วงหน้าวันที่ 24 ม.ค.เวลา 09.00 น.

ศาลพิเคราะห์แล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงให้เลื่อนนัดสืบพยานล่วงหน้า เป็นวันที่ 24 ม.ค. เวลา 09.00-16.30 น.ตามที่นัดไว้ในคดีนี้ และที่โจทก์แถลงว่าในการสืบพยานล่วงหน้า พนักงานสอบสวนได้จัดเตรียมล่ามในการสืบพยานมาให้แล้ว แต่ฝ่ายผู้ต้องหาทั้งหมดแถลงว่าการสืบพยานล่วงหน้าคือการสืบพยาน จึงขอใช้ล่ามจากสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งถือว่าเป็นคนกลาง โดยศาลให้มีหนังสือถึงสำนักงานศาลยุติธรรม ขอล่ามภาษาจีนกลางมาในนัดหน้าด้วย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password