ตึก สตง.ถล่ม! เขย่าระบบรัฐไทย

เหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทรุดตัวจากแผ่นดินไหว ไม่ได้จบลงที่อุบัติเหตุ แต่ลุกลาม! กลายเป็นคดีเชิงระบบ! เขย่ามาตรฐานการก่อสร้าง และการกำกับโครงการรัฐทั้งห่วงโซ่? ความคืบหน้าล่าสุด สตง. เปิดทุกข้อมูล เดินหน้ากระบวนการยุติธรรม ท่ามกลางแรงกดดันจากการเมืองและคำถามสำคัญว่า รัฐจะตรวจสอบตัวเองได้จริงเพียงใด

หากนับถึงวันนี้ (28 ธันวาคม 2568) ถือได้ว่า…เหตุการณ์ “ตึก สตง.ถล่ม!” เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีอายุครบ 9 เดือนเต็ม พอดี!!!

เป็น 9 เดือนที่สังคมไทย…ใจจดจ่อต่อการควานหา “ข้อเท็จจริง!” ที่อยู่เบื้องหลังและเบื้องหน้า ของเหตุการณ์ที่ทำให้ สตง. หรือ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับความเสียหายในทุกมิติ…

นอกจากประเด็น…งบประมาณจัดสร้างอาคารสูง 29 – 30 ชั้น ที่มีมูลค่าก่อสร้างสูงถึงราว 2,136 ล้านบาท

ที่หนักสุด! คงไม่พ้นเรื่อง…เครดิตและความเชื่อมั่นต่อ “บทบาทและหน้าที่” ของความเป็น “องค์กรตรวจสอบ” ที่…หน่วยงานใช้งบประมาณรัฐทุกแห่ต่างหวาดผวาต่อการถูกตรวจสอบ…

สิ่งนี้…กระทบต่อภาพลักษณ์ของ สตง. อย่างรุนแรงเกินบรรยาย!!??

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา สตง. ภายใต้การนำของ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการฯ ได้ส่งเอกสารชี้แจงความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้จั่วหัวเรื่องเอาไว้ ตามนี้… “สตง. แจ้งความคืบหน้า กรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัว” ความยาวเอกสาร มีจำนวน 1 หน้ากระดาษ

รายละเอียดของเนื้อหาข้างต้น “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” สรุปรวมและขมวดปม อยู่ในเนื้อหาของบทความชิ้นนี้เอาไว้แล้ว…

โดยจากเหตุ อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัวฯ จากแรงแผ่นดินไหว สิ่งนี้…ได้สร้าง แรงสั่นสะเทือนต่อ “ระบบราชการไทย” อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง???

ไม่เพียงเพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เพราะ อาคารที่พังถล่ม! เป็นของหน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐโดยตรง จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คดีนี้ จะถูกจับตาในฐานะ “บททดสอบความน่าเชื่อถือ” ของระบบรัฐไทย!!!

นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ…รัฐบาลและฝ่ายการเมือง ได้ส่งสัญญาณชัด! ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง…เร่งคลี่คลายข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส

ขณะที่ รัฐสภา ทั้ง สส. และ สว. ต่างใช้กลไก “คณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ” ติดตามเรื่องราวอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เหตุการณ์นี้…ถูกลดทอนความสำคัญเหลือเพียงอุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ!!!

ความคืบหน้าล่าสุด (26 ธันวาคม) จาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า สตง. ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารหลักฐานให้กับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คณะกรรมาธิการของรัฐสภา พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ไปจนถึง คณะผู้ตรวจสอบของกรมบัญชีกลาง

โดยยืนยันว่า…ทุกกระบวนการดำเนินไปภายใต้กรอบกฎหมายและความโปร่งใส!

มีการระบุในแถลงการณ์ ว่า สตง. พร้อมเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และไม่มีเหตุผลใดในการปิดบังข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่า การตรวจสอบครั้งนี้เป็นเรื่องที่สังคมต้องได้รับคำตอบอย่างชัดเจน

ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งได้แถลงต่อสาธารณชนไปแล้ว ชี้ว่า…การพังถล่มเริ่มต้นจากส่วนล่างของอาคาร ชั้น 1–4 จากแรงเฉือนของแผ่นดินไหวที่กระทำต่อผนังรับแรงเฉือนจนเกิดการวิบัติ

ขณะเดียวกัน ยังพบข้อบกพร่องสำคัญหลายประเด็น ทั้งผลทดสอบคอนกรีตเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด, แบบรายละเอียดที่ใช้ก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมาย และระยะฝังเหล็กเสริมในจุดต่อสำคัญต่ำกว่ามาตรฐาน

ทั้งหมด…สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้าง! มากกว่า…ผลกระทบจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว!!!

ในประเด็นนี้ ผู้นำในองค์กร สตง. ชี้แจงว่า…หากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการใดไม่เป็นไปตามกฎหมาย หรือมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง สตง. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยไม่ยกเว้นผู้ใด เพื่อรักษาหลักนิติธรรมและความเชื่อมั่นของสังคม

ด้าน คดีอาญา พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้สรุปสำนวน และ พนักงานอัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง “ผู้ต้องหา” ทั้งที่เป็น…นิติบุคคล และ บุคคลธรรมดา รวม 23 ราย ต่อศาลอาญา

ในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับ…การออกแบบ, ควบคุม และก่อสร้างอาคารโดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมถึงความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามกฎหมายหลายฉบับ

ขณะเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการสอบสวนใน มิติความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ รวมถึง กรณีมีการร้องเรียนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งได้ส่งเรื่องต่อให้ สำนักงาน ป.ป.ช. ไต่สวนตามอำนาจหน้าที่

โดย สตง. ได้จัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องครบถ้วนแล้ว

หนังสือชี้แจงดังกล่าว ยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า…สตง. เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และเห็นว่าการตรวจสอบอย่างโปร่งใสเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบรัฐ มากกว่าการเร่งสรุปผลโดยไม่รอบคอบ

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญ? คือ…การตรวจสอบ ของ กรมบัญชีกลาง ในด้านการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งอาจกลายเป็น “จุดตั้งต้น” ของการทบทวนมาตรฐานโครงการก่อสร้างภาครัฐในภาพรวม หากพบความบกพร่องเชิงกระบวนการ

ในมุมมองเชิงกลยุทธ์ คดีอาคาร สตง. ทรุดตัวครั้งนี้…ได้สะท้อนจุดเปราะบางของระบบรัฐ ตั้งแต่…การออกแบบ, การควบคุมงาน, การตรวจรับ ไปจนถึงบทบาทของหน่วยงานตรวจสอบเอง

ขณะเดียวกัน ก็ เปิดโอกาส ให้ใช้เหตุการณ์นี้ เป็น “กรณีศึกษาครั้งใหญ่” เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ความโปร่งใส และความรับผิดของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งต่อ…ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และ สตง. นั่นคือ…การเดินหน้าสื่อสารเชิงรุก!อย่างต่อเนื่อง, ใช้ข้อมูลจริงเป็นฐาน และผลักดันให้ “บทเรียนจากคดีนี้” ถูกแปลงเป็น…มาตรการป้องกันเชิงระบบ

เพื่อไม่ให้เหตุลักษณะเดียวกันเกิดซ้ำในโครงการของรัฐในอนาคต!!!

ท้ายที่สุด! เหตุอาคาร สตง. ถล่ม ไม่ได้เป็นเพียงคดีหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม แต่เป็นบททดสอบสำคัญของรัฐไทย ว่า…

จะสามารถตรวจสอบตัวเองอย่างจริงจัง! และเปลี่ยนวิกฤตความเชื่อมั่นให้กลายเป็นการยกระดับระบบได้หรือไม่? อย่างไร?.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password