ขายที่ดินให้ต่างชาติ ต้องโปร่งใส! ปมร้อนผ่าว ทั่วไทยฝ่ายค้าน กัดไม่ปล่อย

เปิดทางเลือก ‘กม.ต่างชาติซื้อที่ดิน’ วัดใจรัฐบาลไปต่อหรือพอแค่นี้ ประธานวิปฝ่ายค้าน เผยได้ ตั้งกระทู้ถามสด หากรัฐบาลตอบไม่ชัด เตรียมเสนอญัตติด่วนให้สภาพิจารณา

วันที่ 5 พ.ย.2565 กลายเป็นประเด็นร้อน สำหรับร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของ คนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสู งสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ที่ ให้ต่างชาติถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ โดยต้องมีการลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และคงการลงทุนไม่น้อยกว่า 3 ปี ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมาทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง รวมทั้งเป็นประเด็นทางการเมืองที่พรรคการเมืองต่างตบเท้าออกมาพูดถึงและมีข้อกล่าวหาว่าขายชาติที่ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งหนึ่ง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาบุคคลสำคัญในรัฐบาล รวมถึงเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาชี้แจงประเด็นข้อกฎกระทรวงนี้อย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีการหารือในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการ ประมวลข้อคิดเห็น และความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับกฎหมายฉบับนี้ได้ 3 แนวทางว่ารัฐบาลมี “ทางเลือก” อย่างไรบ้างเกี่ยวกับประเด็นกฎกระทรวงฉบับนี้

1.เดินหน้าแก้ไขกฎกระทรวงฉบับนี้ตามที่ ครม.เมื่อวันที่ 25 ต.ค.เห็นชอบ โดยเมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกานำร่างกฎกระทรวงไปรับความคิดเห็นตามขั้นตอน และมีการนำเอาร่างกฎกระทรวงฉบับนี้กลับมาสู่การพิจารณาของ ครม. ครม.มติเห็นชอบโดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อ ครม.ยืนยันแล้ว ทำให้กฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้

โดยสาระสำคัญเงื่อนไขกฎกระทรวงฯจะเหมือนกับฉบับที่ประกาศใช้ในปี 2545 แต่จะปรับลดระยะเวลาในการคงการลงทุนในไทยไว้ไม่เกิน 3 ปี จากเดิม 5 ปี ส่วนเงื่อนไขอื่นๆก็ให้มีการกำหนดไว้ตามที่มีการปรับปรุงร่างกฎกระทรวง เช่น การต้องผ่านการคัดเลือกให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ตามคุณสมบัติ 4 กลุ่มสามารถ ขอวีซ่าระยะยาว (LTR) ได้ก็ให้ดำเนินการตามร่างกฎกระทรวงที่ผ่านความเห็นชอบของ ครม.แล้ว

2.ปรับเปลี่ยนกฎกระทรวงฯฉบับนี้ตามข้อเสนอของฝ่ายต่างๆในชั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่ายังมีการปรับเปลี่ยนได้ในชั้นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้อาจมีการร่างกฎกระทรวงฯฉบับใหม่ให้ ครม.พิจารณา

โดยร่างขึ้นจากข้อเสนอจากฝ่ายต่างๆ เช่น การขยายระยะเวลาในการคงเงินลงทุนในประเทศไทย 5 ปี หรือ 10 ปี การเพิ่มวงเงินลงทุนในไทยจาก 40 ล้านบาทให้มากขึ้น หรืออาจเปลี่ยนถอยคำในเงินลงทุนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ แทนสกุลเงินบาท รวมทั้งอาจมีการเพิ่มข้อเสนอเรื่องการให้เช่าที่ดินระยะยาวที่ได้มีการพูดถึงจากหลายฝ่ายว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะเป็นทางออกของเรื่องนี้ได้ และ 3.รัฐบาลตีตกการแก้ไขร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ โดยไม่มีการนำร่างกฎกระทรวงที่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณากลับมาสู่การพิจารณา ของ ครม.อีก เพื่อลดกระแสต่อต้านและแรงเสียดทานที่มีต่อเรื่องนี้ ทั้งนี้หากไม่มีการแก้กฎกระทรวงใหม่ก็จะกลับไปใช้กฎกระทรวงฉบับเดิมที่ออกมาในปี 2545 ซึ่งเปิดกว้างให้ชาวต่างชาติทุกกลุ่มที่มีการนำเอาเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท สามารถซื้อที่ดินและบ้านที่อยู่อาศัยบนที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ได้โดยคงเงินลงทุนไว้ในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 5 ปี

ทั้งนี้ ต้องจับตาดูว่าท้ายที่สุดแล้วทางเลือกสำหรับการแก้ไขกฎกระทรวงฯเรื่องให้ต่างชติถือครองที่ดินในไทยไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อดึงดูดการลงทุน และการอยู่อาศัยของกลุ่มต่างชาติผู้มีรายได้สูงจะได้ข้อสรุปอย่างไร รัฐบาลจะเลือกไปต่อหรือเลือกพอสำหรับร่างกฎกระทรวงที่เป็นเรื่องร้อนแรงอยู่ในขณะนี้

ก่อนหน้านี้ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการยื่นกระทู้ถามสดในหัวข้อเรื่องมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ว่าด้วยการอนุญาตให้ชาวต่างชาติและต่างด้าวได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ 1 ไร่แลกกับการลงทุน 40 ล้าน โดยพรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้เสนอ จะถามเรื่องมูลเหตุจูงใจ ความจำเป็น ผลกระทบและมาตรการทางด้านสังคม ด้านของความมั่นคง

ขณะที่พรรคก้าวไกล โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค จะถามเรื่องผลกระทบและมาตรการทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหากในกระทู้ธรรมสดนี้รัฐมนตรีตอบคำถามไม่ชัดเจน จะนำไปสู่การยื่นญัตติด่วนในช่วงบ่าย ส่วนรัฐมนตรีที่มาตอบกระทู้นั้นมีรัฐมนตรีตอบรับแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเป็นพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ นาย สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้มาตอบ

จากนั้นจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยฝ่ายค้านและคาดว่าฝ่ายรัฐบาลก็จะเสนอประกบในหัวข้อเรื่องเหตุการณ์ที่จ.หนองบัวลำภู และเรื่องน้ำท่วม ซึ่ง การเสนอญัตติ 3 เรื่องในคราวเดียวกันเป็นสิ่งที่ทำได้ และคาดว่าจะใช้เวลานานพอสมควร อาจจะจบภายในวันนี้ ต้องไปต่อในสัปดาห์หน้าเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 นั้น ตอนนี้ดูสถานการณ์อยู่ อาจจะยื่นก่อนประชุมเอเปคตามเดิม หรือหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปคก็น่าจะยื่นได้เลย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password