อ้างคิดน้อย? ‘กัน-อีฟ’ แจงบัญชีโปร่งใส โยกเปลี่ยนโอนเงินจากมูลนิธิธรรมแล้ว พร้อมนั่งเก้าอี้ประธานฯเอง

“กัน จอมพลัง” ควบ “อีฟ – ประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้” ตั้งโต๊ะแถลงปมเงินบริจาค ยืนยันไม่เคยโอนเงินให้ “มูลนิธิธรรมนัส” แจงบัญชีโปร่งใส ไม่เคยเบิกเงินสด เผย! เหลือเงินกว่า 90 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนข้อบังคับยกเลิกชื่อมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมขอโทษสังคม “คิดน้อย” ไปหน่อย ระบุ! 1จะนั่งเก้าอี้ประธานเองเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ด้าน “ณวัฒน์ – ไอซ์ รัชนก” ร่วมซักถามร้อนกลางวงแถลง

วันนี้ (24 ตุลาคม 2568) ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อม น.ส.กาญจนา สถาวร หรือ “อีฟ” ประธานมูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ ตั้งโต๊ะ แถลงข่าวกรณีดราม่าเงินบริจาคของมูลนิธิ ท่ามกลางสื่อมวลชนและบุคคลที่เคยร่วมบริจาคเข้าร่วมรับฟัง อาทิ “ไอซ์ รัชนก สุวรรณเกตุ” และ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ซึ่งต่างตั้งคำถามต่อการดำเนินงานของมูลนิธิและที่มาที่ไปของเงินบริจาคที่มีกระแสข่าวเชื่อมโยงกับ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า”

น.ส.กาญจนา ในฐานะ ประธานมูลนิธิ ชี้แจงว่า มูลนิธิเริ่มต้นด้วยเงินทุนจาก กลุ่มเพื่อนของกัน จอมพลัง จำนวน 500,000 บาท ปัจจุบันมีเงินบริจาครวมกว่า 207 ล้านบาท ใช้จ่ายไปแล้วราว 117 ล้านบาท เหลือเงินในบัญชี 90,171,000.60 บาท โดยยืนยันว่าเงินทุกบาทถูกใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนในโครงการต่าง ๆ และไม่เคยมีการโอนเงินใด ๆ ไปยังมูลนิธิธรรมนัส

เธอระบุว่า มูลนิธิเปิดบัญชีธนาคารเพียงสองบัญชี หนึ่งบัญชีใช้งานจริง อีกหนึ่งบัญชีสำรอง โดยการเบิกถอนเงินทุกครั้งต้องมีกรรมการร่วมลงนามอย่างน้อยสองในสาม และที่ผ่านมามีการตรวจสอบจากบริษัทบัญชีภายนอกยืนยันว่า “ไม่มีการเบิกถอนเงินสด” แม้แต่ครั้งเดียว เพราะมูลนิธิยึดหลักความโปร่งใส ไม่ใช้เงินสดเพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาเรื่องการทุจริต

ส่วน ข้อบังคับมูลนิธิ ข้อ 39 ซึ่งถูกตั้งคำถามว่า ทำไมระบุให้โอนทรัพย์สินต่อให้มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า หากมูลนิธิกันจอมพลังยุบเลิก? น.ส.กาญจนา กล่าวว่า เป็นผลจากการร่างเอกสารในช่วงเร่งรีบ ขณะนั้น ไม่มีมูลนิธิอื่นที่รู้จักหรือพร้อมรับช่วงต่อ และมูลนิธิธรรมนัสเคยร่วมทำงานในช่วงน้ำท่วม จึงเห็นว่าเหมาะสมในเวลานั้น ยอมรับว่า “คิดน้อย” และจะรีบแก้ไขข้อบังคับใหม่ โดยเปลี่ยนผู้รับช่วงต่อเป็นมูลนิธิที่มั่นคงทางการเงินและมีภาพลักษณ์เป็นกลาง พร้อมขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ

เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งมูลนิธิได้ดำเนินการตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 134 ซึ่งกำหนดว่า หากมูลนิธิเลิกต้องโอนทรัพย์สินไปให้องค์กรการกุศลที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียง หรือหากไม่มีให้ตกเป็นของแผ่นดิน ไม่สามารถโอนให้บุคคลใดโดยพลการได้ จึงไม่มีทางที่มูลนิธิธรรมนัสจะได้รับเงินในขณะมูลนิธิกันจอมพลังยังดำเนินงานอยู่

ด้าน “กัน จอมพลัง” กล่าวยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่เคยโอนเงินให้มูลนิธิธรรมนัสแม้แต่บาทเดียว” และพร้อมให้ตรวจสอบทุกบัญชี เขายังระบุว่า ข้อกำหนดข้อ 39 เป็นเรื่องเข้าใจผิด และยอมรับว่า “คิดน้อย” ตอนจัดตั้งมูลนิธิ แต่ย้ำว่าทั้งหมดไม่มีเจตนาแอบแฝง พร้อมเปิดเอกสารหลักฐานบัญชีธนาคาร และรายงานการตรวจสอบจากผู้ทำบัญชีประกอบการแถลง

“กัน จอมพลัง” ยังกล่าวว่า ตนไม่เคยรับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากมูลนิธิเลยแม้แต่บาทเดียว และมูลนิธิได้บริจาคเงินต่อไปยัง…มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ และมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ตามความประสงค์ของผู้บริจาค เช่น กรณีเงินบริจาคจากศิลปินชื่อดัง “แจ็คสัน หวัง” ที่มีการกำหนดให้ส่งต่อไปยังสองมูลนิธิดังกล่าวโดยตรง

ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม “กัน จอมพลัง” ไม่เป็นประธานมูลนิธิด้วยตนเอง เจ้าตัวตอบว่า ตั้งใจให้มูลนิธิมีความโปร่งใสและดำเนินการได้แม้ไม่มีตนในอนาคต แต่เมื่อสังคมตั้งคำถาม ตนก็ยินดีที่จะ “นั่งตำแหน่งประธานมูลนิธิด้วยตนเอง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริจาค

ในช่วงหนึ่งของการแถลง นายณวัฒน์อิสรไกรศีล” ซึ่งเคยร่วมบริจาคเงินให้มูลนิธิ ได้ลุกขึ้นตั้งคำถามต่อหน้าสื่อมวลชน โดยระบุว่า รู้สึกกังวลต่อความโปร่งใสและไม่อยากให้บริษัทของตนซึ่งเป็นบริษัทมหาชนถูกเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน พร้อมถามตรงว่า “ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าใครเป็นประธานมูลนิธิ” และ “กัน จอมพลัง” เป็นเพียงพรีเซนเตอร์หรือผู้ดำเนินกิจกรรมแทนคณะกรรมการหรือไม่?

เกี่ยวกับเรื่องนี้ น.ส.กาญจนา ชี้แจงว่า ไม่เคยปิดบังเรื่องตำแหน่งประธาน เพียงแต่เธอไม่ใช่บุคคลในแวดวงสื่อ จึงไม่ได้ออกสื่อบ่อยนัก แต่การจดทะเบียนและประกาศรายชื่อกรรมการมูลนิธิทั้งหมดได้ลงในราชกิจจานุเบกษาอย่างถูกต้องแล้ว ส่วน “กัน จอมพลัง” ยืนยันว่า ตนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและทำงานภาคสนาม ไม่ใช่ “พรีเซนเตอร์” อย่างที่เข้าใจ

ระหว่างการแถลงมีช่วงถกเถียงกันอย่างเข้มข้น โดย น.ส.รัชนก” ตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างกัน จอมพลัง กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่า ทำไมต้องยืนยันว่า “ไม่สนิท” เจ้าตัวตอบว่า “ใครอยากช่วยผม ผมก็สนิทด้วยทั้งนั้น” พร้อมย้ำว่า ไม่มีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางการเมือง

ในตอนท้าย นายณวัฒน์ ถามถึงกระแสข่าวว่า กัน จอมพลัง ใช้เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานรัฐในการช่วยเหลือภัยพิบัติ กัน ตอบว่า เป็นการประสานกับกรมฝนหลวงและป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (ปภ.) โดยถูกต้อง เพราะพื้นที่เข้าไม่ถึง รถไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ จึงใช้เครื่องบินหลวงขนของไปแจกจ่ายประชาชน ไม่มีผลประโยชน์หรือการแอบอ้างใด ๆ

กัน จอมพลัง กล่าวปิดท้ายว่า เขาพร้อมรับผิดชอบต่อความไม่สบายใจของสังคม โดยหากมีผู้บริจาคคนใดรู้สึกไม่สบายใจ สามารถขอคืนเงินได้ และหากจำเป็นตนจะชำระคืนด้วยเงินส่วนตัว และย้ำว่า “ทำด้วยใจ ไม่มีการเมือง ไม่มีผลประโยชน์” และไม่คิดลงเล่นการเมืองแม้หลายฝ่ายจะชักชวน

บรรยากาศการแถลงตลอดสองชั่วโมงเต็มเป็นไปอย่างตึงเครียด แต่ในที่สุด “กัน จอมพลัง” และ “อีฟ กาญจนา” ยืนยันว่า จะปรับปรุงข้อบังคับมูลนิธิ เปลี่ยนชื่อมูลนิธิผู้รับช่วงต่อให้ชัดเจน พร้อมประกาศให้สังคมตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เพื่อยืนยันว่ามูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้ เป็นองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ที่ “โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง.”

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password