“ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” สั่งดีอีเอสเปิดรุกหนักใส่ “เว็บไซต์+แพลตฟอร์ม” ก้าวล่วงสถาบัน เผยเบื้องต้นพบแล้ว 42 ยูอาร์แอล พร้อมดำเนินการสั่งปิดแน่ ส่วนปมลาซาด้าของจีน ต้องเคารพกฎหมายและคนไทยที่รักสถาบัน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กับเว็บไซต์และแพลตฟอร์มที่มีการนำเสนอโฆษณาด้านการตลาดในลักษณะที่ก้าวล่วงสถาบันของลาซาด้าและที่คล้ายกัน ซึ่งในกรณีของลาซาด้า ได้ดำเนินคดีไปแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งไปที่ศาลเพื่อขอให้ปิดกั้นการเข้าถึงแพลตฟอร์ม รวมถึงการแชร์ผ่านยูทูป ทวิตเตอร์​และเฟซบุ๊ก เบื้องต้นพบทั้งหมด 42 ยูอาร์แอล อย่างไรก็ตาม โดยปกติหากแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับการแจ้งจากดีอีเอส จะมีการปิดตัวเองอยู่แล้ว เพราะหากไม่ปิดจะมีความผิด คือเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และกฎหมายอื่น

สำหรับการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามียูอาร์แอลที่ดำเนินการคล้ายๆ กัน คาดว่าน่าจะสามารถปิดได้เกือบทั้งหมด เพราะมีความผิดชัดเจน ส่วนมาตรการที่จะนำมาป้องกันในระยะยาว รมว.ดีอีเอส ระบุว่า เอเจนซี่โฆษณา อินฟลูเอนเซอร์และผู้ที่อยู่ในวงการประชาสัมพันธ์ต้องมีจรรยาบรรณ​และมีสมาคมวิชาชีพดูแล เพื่อหารือกันว่าการทำโฆษณาต้องถูกกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ไม่บูลลี่ หรือทำให้สังคมเกิดความรู้สึกไม่ดี จึงต้องมีการกำกับดูแลระหว่างกัน หากให้หน่วยงานหรือรัฐบาลไปสั่งคงไม่เหมาะสม เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่อยากให้เคารพกฎหมายและเป็นไปตามบริบทที่สังคมไทยรับได้ อะไรที่สังคมไทยรับไม่ได้ก็อย่าไปทำ หากไปทำอะไรที่ขัดความรู้สึกคนไทย สุดท้ายธุรกิจทำโฆษณาก็จะเสียหายเอง

“เราเข้าใจดีว่าลาซาด้าเป็นแพตฟอร์มจากประเทศจีน แต่ต้องคิดถึงคนไทยเหมือนกัน จะคิดว่าอยากทำอะไรก็ได้มันไม่ถูก เป็นคนจีนก็ต้องเคารพกฎหมายไทยและความรู้สึกของไทย” นายชัยวุฒิ ย้ำและว่า แพลตฟอร์ม อี คอมเมิร์ซไม่ได้เป็นผู้จัดทำโฆษณา จึงต้องตรวจสอบเอเจนซี่ผู้จัดทำโฆษณา ทั้งนี้ จำเป็นจะต้องนำอัลกอริทึมและกฎหมายป้องกันและแก้ไขมาใช้ให้ทัน ก่อนจะถูกคนไทยด่าทั้งประเทศแล้วจึงค่อยแก้ไข.