กรุงไทย แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นสหรัฐ รับสัญญาณฟื้นตัวหลังเฟดลดดอกเบี้ย

Krungthai CIO มองตลาดการเงินโลกฟื้นตัว หลัง FED ลดดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แนะเพิ่มสัดส่วนหุ้นสหรัฐและเวียดนาม พร้อมจัดพอร์ตสมดุลรับการเปลี่ยนทิศทางการลงทุนปี 2026

ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 15-19 ธันวาคม 2568 ว่า ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดในการประชุมเมื่อวันที่ 9-10 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดย Dot Plot ยังไม่เปลี่ยนโทนจากเดิม พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP และปรับลดเงินเฟ้อ สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้อย่างสมดุลซึ่งเอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ด้านตลาดตราสารหนี้ บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปี ผันผวนตลอดสัปดาห์ จากการปรับขึ้นก่อนการประชุม FED ก่อนอ่อนตัวลงหลังการลดดอกเบี้ย และกลับมาปรับขึ้นอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ หลังประธาน FED สาขาชิคาโก ส่งสัญญาณให้รอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนลดดอกเบี้ยรอบถัดไป ขณะที่ราคาทองคำปรับขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย ส่วนราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากการกลับมาส่งออกของแหล่งผลิตน้ำมันในอิรัก เพิ่มความกังวลอุปทานล้นตลาด

สำหรับสัปดาห์นี้ Krungthai CIO มองตลาดหุ้นมีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideways เพื่อรอความชัดเจนจากการประชุมธนาคารกลางหลัก คาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยและย้ำการติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ ขณะที่ BOJ มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ในกรณีฐานอาจชะลอออกไปจากความผันผวนของตลาดการเงินและบอนด์ยีลด์ระยะยาว ส่วนความเสี่ยง Unwind Carry Trade ประเมินว่ายังอยู่ในระดับจำกัด ด้าน BOE และ ธนาคารแห่งประเทศไทย  มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง โดยเฉพาะ ภาคครัวเรือนที่มีภาระหนี้สูง

ทั้งนี้ ความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ย FED คลี่คลายลง หลังการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปี และสัญญาณผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง แนะผู้ลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็น Slightly Overweight

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Krungthai CIO แนะนำกลยุทธ์ แบบ “Barbell” ในปี 2026 รับการหมุนเวียนของเม็ดเงินลงทุน (Market Rotation) โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้น Growth กลุ่มเทคโนโลยี จากแนวโน้มการลงทุนด้าน AI ที่แข็งแกร่ง ควบคู่หุ้น Defensive อย่างกลุ่ม Healthcare ที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตและมูลค่ายังน่าสนใจ พร้อมกระจายการลงทุนผ่านกองทุน Core Portfolio อย่าง KTWC

นอกจากนี้ ยังมองบวกต่อตลาดหุ้นเกาหลีใต้ จากวัฏจักรขาขึ้นของชิปหน่วยความจำที่ได้แรงหนุนจากความต้องการของ AI ซึ่งคาดว่าจะต่อเนื่องอย่างน้อย 2 ปี รวมถึงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย และหุ้นกลุ่มธนาคารยุโรปที่ได้ประโยชน์จากการสิ้นสุดวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของ ECB ขณะเดียวกัน แนะนำเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม เลือกลงทุนหุ้นจีนบางกลุ่มที่ได้แรงหนุนเชิงนโยบาย ลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย และเพิ่มการลงทุนในทองคำ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ต.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password