ยอดผลิตรถยนต์เดือน มิ.ย. 2567 ลดลงร้อยละ 20.11
ส.อ.ท.เผย ยอดผลิตรถยนต์ เดือน มิ.ย.มีจำนวน116,289 คัน ลดลงร้อยละ 20.11 ขาย 47,662 คัน ลดลงร้อยละ 26.04 ส่งออก 89,071 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.28
ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 5,360 คัน ลดลงร้อยละ 16.38
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมิถุนายน 2567 ว่า
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2567 มีทั้งสิ้น 116,289 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 20.11 และลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 7.82 จากการผลิตขายในประเทศที่ลดลงถึงร้อยละ 43,06 ตามยอดขายในประเทศที่ลดลงร้อยละ26 และผลิตส่งออกลดลงร้อยละ 3.70
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 761,240 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2566 ร้อยละ 17.39
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 47,662 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 4.43 แต่ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 26.04 เพราะรถกระบะที่ขายลดลงถึงร้อยละ 36.44 และรถ PPV ลดลงร้อยละ 49.98 จากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและเศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราต่ำ สถาบันการเงินจึงระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อโดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุก
ส่งออกได้ 89,071 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 0.24 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 0.28 จากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ายังเติบโต และส่งออกรถยนต์นั่ง HEV เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 356.12 จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,990 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 17.46
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 12,589 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 68.01
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 843 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้วร้อยละ 21.58
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 183,221 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 144.31
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 414,894 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 35.30
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 58,774 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 20.41.