ครม.ดัน ‘บ้านล้านหลัง เฟส 3’ ทุ่ม 2 หมื่นลบ.ช่วยคนไทยมีบ้าน ดบ.3% 5 ปีแรก นาน 60 งวด

ครม.ไฟเขียว ธอส. เดินหน้าต่อโครงการบ้านล้านหลังเฟส 3 หลัง 2 เฟสแรกประสบความสำเร็จ หนุนให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนไปแล้วทั่วไทย เผย! รอบนี้ อัดเม็ดเงิน 2 หมื่นล้านบาท มุ่งเน้นช่วยมีรายได้น้อย ผู้ที่เริ่มต้นทำงานสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก 3.00% ต่อปี เงินงวดคงที่นานถึง 60 งวด ให้กู้บ้านราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1,500,000 บาท ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. ฟรี! ค่าประเมินและค่าจดจำนอง พร้อมรับรหัสเข้าร่วมโครงการทาง GHB ALL GEN และ GHB ALL เริ่ม 9 โมงเช้า 27 ก.พ.เป็นต้นไป

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สานต่อโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 กำหนดกรอบวงเงินสินเชื่อรวมอีก 20,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ ในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่ง ธอส. ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อไปแล้วรวมกว่า 59,800 ล้านบาท

โดย ธนาคารจะมุ่งเน้นให้สิทธิ์กับผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท เข้าร่วมโครงการเป็นลำดับแรก ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรกเท่ากับ 3.00% ต่อปี ปีที่ 6-7 เท่ากับ MRR-2% ต่อปี และปีที่ 8 ถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อยทั่วไป เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1% ต่อปี และ กรณีกู้เพื่อซื้ออุปกรณ์ฯ เท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารอยู่ที่ 6.40% ต่อปี) เงินงวดคงที่นานถึง 60 งวดแรก ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี ให้กู้บ้านราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1,500,000 บาท ทั้งประเภทบ้าน หรือห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด พิเศษ! ธอส.ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการมีบ้านให้กับลูกค้าด้วยการยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง) อีกด้วย

นอกจากนี้ ธอส. ยังได้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้รับวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพประจำหรืออาชีพอิสระ สามารถนำหลักฐานการชำระค่าเช่าบ้าน หรือผ่อนชำระเงินดาวน์บ้านไม่น้อยกว่า 12 เดือนมาแสดงให้กับธนาคารเพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อเพิ่มเติมได้ และหากไม่สามารถแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Financial Literacy และออมอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าเงินงวดผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 9 เดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาสินเชื่อกับธนาคารได้ต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 ได้มีเวลาในการจัดเตรียมเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อ ธนาคารจึงเตรียมเปิดให้รับรหัสเข้าร่วมโครงการได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ผ่าน Mobile Application : GHB ALL GEN หรือ GHB ALL และรับรหัส 10 หลัก (ตัวอักษร 3 หลัก และตัวเลข 7 หลัก) ทาง GHB Buddy ใน Line Application เพื่อนำมาประกอบการยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หาก ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้ว ทั้งนี้ ธนาคารจะยกเลิกรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ของประชาชนที่เคยได้รหัสแล้วแต่ยังไม่ได้ดำเนินการยื่นคำขอกู้หรือทำนิติกรรมกับธนาคาร และต้องขอรับรหัสใหม่หากยังคงต้องการเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL,  GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password