คนร.เคาะแผน! พัฒนารัฐวิสาหกิจปักธงลงทุนกระตุ้นศก.การจ้างงาน ติดตามแก้ปัญหา6แห่ง

คนร. ไฟเขียวแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566-2570 ปักธงภารกิจรัฐวิสาหกิจเดินหน้าลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามหลักเศรษฐกิจ BCG และแนวคิดการดำเนินธุรกิจยั่งยืน ติดตามการแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจ6แห่ง

วันที่ 3 มิ.ย. 2565 นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวถึงการประชุมคนร. ครั้งที่ 2/2565 เมื่อ 22 มิ.ย. 2565 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบร่างแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566 – 2570 ซึ่งจะเป็นกรอบทิศทางหลักในการพัฒนารัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 เพื่อเป็นกลไกในการถ่ายทอดยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติได้อย่างครบถ้วน

โดยแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566-2570 มุ่งเน้นให้รัฐวิสาหกิจมีบทบาทและภารกิจขององค์กรที่ชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ พัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการลงทุน การจ้างงาน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการประชาชน ให้ตอบโจทย์หมุดหมายหลักทั้ง 13 หมุดหมายภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ในด้านต่าง ๆ อาทิ การเกษตร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมเอสเอ็มอี และธุรกิจสตาร์ทอัพ การท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาองค์กรไปสู่องค์กรดิจิทัลในด้านการให้บริการและการบริหารจัดการ เป็นต้น

นอกจากนี้ คนร. ยังได้กำหนดนโยบายให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นไปตามหลักเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG) และแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (ESG) รวมทั้งให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจตามแผนดังกล่าวด้วย ซึ่งรัฐวิสาหกิจจะนำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566-2570ไปเป็นหลักในการจัดทำแผนวิสาหกิจของหน่วยงานให้สอดคล้องและจะมีการติดตามอย่างต่อเนื่องต่อไป

นางปานทิพย์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังรับทราบ ความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาองค์กรของรัฐวิสาหกิจทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือไอแบงก์ ซึ่ง คนร. ได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจเร่งดำเนินการตามแผนให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมและให้กระทรวงเจ้าสังกัดกำกับดูแลและรายงานความคืบหน้าต่อ คนร. อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินการของบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ณ สิ้นปี 2564 และได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจกำกับดูแลการดำเนินการของบริษัทในเครือให้สอดคล้องกับภารกิจของรัฐวิสาหกิจ และในกรณีที่มีผลประกอบการขาดทุน ให้จัดทำแผนแก้ไขปัญหาเพื่อเสนอกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาและรายงาน คนร. ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password