มิติใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เริ่มแล้ว โดยมีภาคธุรกิจเอกชนร่วมงานคับคั่ง ไทยตั้งเป้า ใช้อุตสาหกรรม “ฮาลาล” เป็นส่วนสำคัญการร่วมมือ ขณะ ซาอุดี อ้าแขนรับแรงงานไทย ขอเรียนรู้ กลยุทธ์ ดึงนักท่องเที่ยว

วันที่ 16 พ.ค. 2022 เวลา 9.30 น การสัมมนาด้านความร่วมมือทางธุรกิจและการลงทุนระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย เริ่มขึ้นแล้ว ตัวแทนประเทศไทย นำโดย นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ส่วนซาอุดีอาระเบียนำโดย มิสเตอร์คอลิด อัล ฟาลิฮฺ รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน ทั้งสองฝ่ายมีนักธุรกิจเข้าร่วมนับร้อยราย ฝ่ายไทยเป็นนักธุรกิจระดับนำ 49 คนจาก 12 อุตสาหกรรมโดยบรรยากาศภายในงาน รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุน ของซาอุเดียอารเบีย แสดงความ ชื่นชมประเทศไทย และต้องการเรียนรู้ความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวของไทย ที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนได้ถึงปีละ 40 ล้านคน ซึ่งใน ค.ศ.2030 ซาอุดีคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ 100 ล้านคน ปัจจุบันซาอุดีรับนักท่องเที่ยวปีละ 20 ล้านคน (เป็นต้วเลขที่รวมผู้เข้าร่วมพิธีฮัจย์และอุมเราะฮฺแล้ว) นอกจากนี้ ซาอุดี ยังชื่นชมความสำเร็จของประเทศไทยด้านอื่นๆ เช่น ด้านบริการทางการแพทย์ ด้านการเกษตร คาดหวังว่าสองประเทศจะเป็นหุ้นส่วนสำคัญระหว่างกัน

ทางด้านนายดอน กล่าวชื่นชมความสำเร็จของซาอุดีอาระเบีย และวิสัยทัศน์ของผู้นำ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2022 เมื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทมร์โอชา นายกรัฐมนตรีประเทศไทย เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียตามคำเชิญ “ในความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดี หากอยากไปเร็วก็ไปคนเดียว อยากไปได้ไกลต้องไปด้วยกัน ไทยกับซาอุดีจะจับมือกันอีกครั้งเพื่อเดินไปข้างหน้า” นายดอนกล่าว และย้ำว่าโดยเฉพาะส่วนอุตสาหกรรมฮาลาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในความสัมพันธ์ครั้งนี้ เศรษฐกิจฮาลาลโลกมีมูลค่าสูงถึง 4.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะอาหารและการเกษตรมีมูลค่าสูงถึง 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซาอุดีอาระเบียจะกลายเป็นตลาดสำคัญของผลิตภัณฑ์ฮาลาลจากประเทศไทยทั้งเป็นตลาดกระจายผลิตภัณฑ์ฮาลาลจากประเทศไทยไปทั่วโลก

ขณะที่ ซาอุดีอาระเบียคาดว่า จะรับแรงงานไทยมีฝีมือระดับกลางและระดับสูงจำนวนมากถึง 6 แสนคน เวลานี้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันฝันที่จะมีอนาคตอันสดใสร่วมกัน พวกเราคนไทยต้องร่วมกันดุอาอฺ ภาวนาและอวยพร.