สลากฯคัดทิ้งผู้ค้าตัวปลอม ชงหวยออนไลน์บีบราคาขาย 80 บ.

บอร์ดสลากกินแบ่งฯ งัดมาตรการเด็ด คัดทิ้ง! “ผู้ค้าฯตัวปลอม” ออกจากสารบบ กรองเข้มกลุ่มเก่า 1.3 แสนราย พ่วงกลุ่มใหม่คัดเหลือ 7 หมื่นรายจากผู้สมัครทั่วประเทศเฉียดล้านคน ระบุ! มาตรการตรวจสอบผู้ขายจริงตามราคามีความจำเป็น ทั้งในระบบซื้อจองและระบบโควตา พร้อมประสานผู้ว่าฯ สตช. หน่วยงานรัฐในและนอกสังกัด ก.คลัง ควานหา “ผู้ค้าฯตัวจริง” หวัง 2 แสนรายในระบบใหม่ กดราคาหวยรัฐเหลือ 80 บาท ด้าน ประธานบอร์ดฯ “ลวรณ แสงสนิท” ย้ำ! 2 พ.ค.นี้ เตรียมนำร่องขายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ วอน “ผู้ซื้อ-ผู้ค้า” สแกน QR Code ส่งข้อมูลให้สำนักงานสลากฯ เพื่อบล็อคตัวปลอมออกจากระบบ อีกด้านหนึ่ง มีกลุ่มต้านคัดค้านหนัก อ้างผู้ค้าฯอ่อนเทคโนโลยีสื่อสาร

วันที่ 24 มีนาคม 2565 ห้องประชุมอเนกประสงค์ ชั้น 3 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.นนทบุรี นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงข่าวความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา ตามมาตรการต่างๆ ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

นายลวรณ กล่าวถึงภาพรวมของการดำเนินมาตรการทั้ง 3 มาตรการ ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 ซึ่งในเฟสแรกมี 77 จุด  ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย ในส่วนของกรุเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง รวม 151 จุด อยู่ระหว่างการทำสัญญารับสลากไปจำหน่าย เริ่มงวด 2 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะทำให้ยอดรวมของจุดจำหน่ายสลากโครงการ 80 มีทั้งหมด 228 ราย (228 จุด ใน 18 จังหวัด)สำหรับ ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการในจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกและภาคใต้ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการคัดเลือกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ครบ 1,000 จุดทั่วประเทศตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้

สำหรับ การคัดกรองผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้า ทั้งในส่วนของรายเดิม ปี 2558 และที่สมัครใหม่ 2565 นั้น เนื่องจากผู้ลงทะเบียนมีจำนวนมากเกือบ 1 ล้านราย จึงต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยใช้การตรวจสอบการจำหน่ายจริงตามราคา และข้อมูลจากภาครัฐในการดำเนินการคัดกรอง ได้แก่ กรมการปกครอง กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มาประกอบการพิจารณา เพื่อให้การคัดกรองมีความแม่นยำถูกต้อง และได้ผู้ที่ทำอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงที่กำลังขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในปัจจุบัน ไม่ใช่  ผู้ที่นำสลากไปจำหน่ายต่อให้แก่พ่อค้าคนกลาง 

ส่วนการดำเนินการจำหน่าย สลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยสำนักงานสลากฯ นั้น อยู่ระหว่างพัฒนาระบบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ระยะเวลาอันใกล้ ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯได้ทดสอบระบบโดยใช้งวดวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา และงวด 1 และ 16 เมษายน เป็นตัววัดผลและทดลองระบบ รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าและประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้สลากฯถูกขายในราคากำหนดที่ฉบับละ 80 ซึ่งผู้ขายฯสามารถจะนำสลากฯมาฝากขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ควบคู่ไปกับนำอุปกรณ์สื่อสารเช่น โทรศัพท์มือถือหรือแทบเลตมาเสริมในการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ควบคู่ไปกับการขายสลากฯใบกระดาษตามปกติ และหากไม่มีปัญหาอะไรแล้ว คาดว่างวดวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ สำนักงานสลากฯน่าจะนำระบบการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มาดำเนินการขายให้กับประชาชนได้

ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงรายละเอียดของการตรวจสอบการเป็นผู้จำหน่ายสลากจริง ของผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิมปี 2558 โดยวิธีการ Scan QR Code จากผู้ซื้อสลากเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท และการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” ว่า มาตรการดังกล่าว มีความสำคัญและจะช่วยยืนยันการจำหน่ายสลากของผู้ขายได้ ทั้งในส่วนของระบบซื้อ-จองล่วงหน้าและระบบตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือขอความร่วมมือทุกจังหวัด ในการสำรวจผู้จำหน่ายสลากจริงที่จำหน่ายสลากในพื้นที่ของจังหวัด เพื่อนำข้อมูลผู้ที่จำหน่ายสลากจริงที่ผ่านการตรวจสอบจากจังหวัด มาตรวจสอบร่วมกับข้อมูลจากการลงพื้นที่ของชุดเฉพาะกิจที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่สำรวจข้อมูลผู้ขายสลากทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน และมีการตรวจสอบด้วยความรอบคอบครบถ้วนทุกมิติ สำนักงานสลากฯ จึงกำหนดเวลาผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 ที่ได้ลงทะเบียนยืนยันตัวตนเดือนมกราคม 2565 แล้ว สามารถทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ ได้ไปพลางก่อน จนกว่าสำนักงานฯ จะดำเนินการคัดเลือกและประกาศรายชื่อผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายใหม่ทั้งหมด และให้แยกจำนวนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 และรายใหม่ ปี 2565 ออกจากกัน เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ

ทั้งนี้  ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายเดิม ปี 2558 มีจำนวนไม่เกิน 129,290 ราย (จากยอดผู้ยืนยันตัวตนเดือนมกราคม 2565)  และ ผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ รายใหม่  ปี 2565  จะมีจำนวนไม่เกิน 70,000 ราย ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว และทำให้มีผู้ค้าสลากตัวจริงรวมกันในระบบประมาณ 2 แสนราย ที่จะช่วยให้การกำหนดราคาขายสลากฯอยู่ในราคาควบคุมที่ฉบับละ 80 บาท ทั่วประเทศ

ในส่วนของ ขั้นตอนและกระบวนการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง นั้น พันโท หนุน กล่าวว่า จากการที่ได้มีการทดสอบระบบ ให้ผู้ซื้อสลาก Scan QR Code จากผู้ซื้อสลากเพื่อยืนยันว่าเป็นผู้จำหน่ายสลากจริงในราคา 80 บาท และให้มีการจำหน่ายสลากผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน”  ตั้งแต่ งวดวันที่ 16 มีนาคม 2565 ถึงงวดวันที่ 16 เมษายน 2565  เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบการใช้ระบบ มาตรวจสอบการเป็นผู้จำหน่ายสลากจริง นั้น  สำนักงานฯ จะดำเนินการตรวจสอบการเป็นผู้จำหน่ายสลากจริงด้วยวิธีดังกล่าวอีกอย่างน้อยจำนวน 3 งวด ในภายหลัง สำหรับการแต่งตั้ง คณะกรรมการจัดทำบัญชีผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล นั้น สำนักงานสลากฯ จะแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเกี่ยวข้องร่วมเป็นองค์ประกอบ เพื่อให้เกิดการรับรู้เป็นวงกว้างและเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น และจะประกาศอย่างเปิดเผย รวมถึงขั้นตอนในการคัดเลือกและกำหนดการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวอีกว่า เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบผู้ค้าจริงในระบบตัวแทนจำหน่ายสลากสอดคล้องกับระบบซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล และนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาในการทำสัญญา สำนักงานสลาก ฯ จะนำระบบการตรวจสอบมาใช้กับระบบตัวแทนจำหน่ายประเภทบุคคลทั่วไป (รายย่อย) คนพิการที่รับสลากที่ไปรษณีย์ และนิติบุคคลด้วยเช่นเดียวกัน คือดาวน์โหลด QR Code มาติดไว้ที่จุดจำหน่ายสลาก เพื่อให้ผู้ซื้อ scan ยืนยันการจำหน่ายสลากราคา 80 บาทผ่านไลน์ของสำนักงานฯ และในส่วนของตัวแทนรายย่อย และคนพิการที่รับสลากที่ไปรษณีย์ ให้สมัครแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และซื้อ-ขายสลากผ่านระบบแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และ“ถุงเงิน”  สำหรับ ตัวแทนนิติบุคคล (สมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ) นั้น มีมาตรการตรวจสอบโดยเฉพาะอยู่แล้ว กรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการนำสลากไปจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่ บอร์ดสำนักงานสลากฯกำลังประชุมฯ อยู่นั้น มีกลุ่มผู้ค้าสลากฯรวมตัวกันบริเวณด้านล่างหลายร้อยคน แสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่บอร์ดสำนักงานสลากฯ จะทำการคัดกรองผู้ค้าที่ไม่ใช่ตัวจริงในกลุ่ม 1.3 แสนราย รวมถึงไม่เห็นด้วยกับการที่สำนักงานสลากฯจะนำระบบการดำเนินการจำหน่าย สลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มาใช้ควบคู่กับการขายสลากฯแบบเก่า ด้วยข้ออ้างที่ว่า ผู้ค้าสลากฯกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่ไม่ชำนาญในการใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีเหตุผลแท้จริงซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการจำหน่ายสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จะตัดพ่อค้าคนกลาง และผู้ค่้าฯตัวปลอมออกไป รวมถึงทำลายระบบการรวบเล่มเลขชุด ทำให้สูญเสียผลประโยชน์จำนวนมหาศาล.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password