สนง.สลากฯเดินหน้าต่อปีที่ 6 ‘สลากสร้างสรรค์เพื่อชุมชน’ พัฒนาสู่ชุมชนเข้มแข็ง/ยั่งยืน

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินหน้าต่อโครงการสลากสร้างสรรค์เพื่อชุมชนต่อเนื่องปีที่ 6 พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาช่วยติวเข้มด้านการทำธุรกิจ พัฒนาสินค้าและแพ็กเกิจจิ้งสวยๆ เผย! ปีนี้พิเศษนอกจาก 10 ชุมชนใหม่ ยังดึง 4 ชุมชุมจากโครงการฯ 5 ปีแรกมาร่วมต่อยอดความสำเร็จ พร้อมสร้างช่องทางการขายครอบคลุมทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงการจัดโครงการสลากสร้างสรรค์เพื่อชุมชนปีที่ 6 ว่า เป็นการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นนวัตกรรม ส่งเสริมเศรษฐกิจ สังคม ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน โครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ตอบวิสัยทัศน์ข้างต้นได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการสร้างคุณค้าร่วมให้กับชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของสมาชิกชุมชน อีกทั้งยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจของประเทศ โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีชุมชนที่ได้รับการพัฒนาไม่น้อยกว่า 47 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งในปีที่ 6 นี้ ได้รับเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ชุมชนต่างๆ เพื่อหวังให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากที่สุด

“โครงการสลากสร้างสรรค์เพื่อชุมชนในปีที่ 6 นี้ ได้ดำเนินการภายใต้หลักคิดของการพัฒนาการเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน ขับเคลื่อนพัฒนาการบริหารจัดการชุมชนในด้านผลิตภัณฑ์และบริการชุมชนที่มีเอกลักษณ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้สมาชิกในชุมชนมีงาน มีอาชีพ มีรายได้ มีความสุขภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้มีความมั่นคงและยั่งยืนอย่างเป็นธรรม” โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุ

ด้าน พันโทหนุน ศันศนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ปีนี้มีชุมชนจากทั่วประเทศ ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ 25 ชุมชน แต่คัดเลือกเหลือ 10 ชุมชน โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากพื้นฐานด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิต ที่เอื้อต่อการท่องเที่ยงและการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน รวมถึงมีผู้นำชุมชนที่เป็นที่ยอมรับนับถือและมีการทำงานในรูปแบบกรรมการชุมชน รวมทั้งสมาชิกชุมชนยินดีให้ความร่วมมือกับสำนักงานสลากฯ ตลอดจนเป็นชุมชนที่มีโอกาสเติบโตหรือมีศักยภาพในการสร้างความเข้มแข็งทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม

โครงการฯได้ร่วมมือกับคณะที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายด้านมาช่วยขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิกชุมชน ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายในช่วง 5 เดือน โดยทุกชุมชนจะได้รับ ดังนี้

1.การพัฒนาจากทีมที่ปรึกษาโครงการฯ ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการพัฒนาชุมชน ด้านกลยุทธ์การตลาด ด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร

2.การจัดแสดงนิทรรศการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่สำนักงานสลากฯ และการจัดทำ E-Catalog     นำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการเด่นของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี่ 1- 6

3.การพัฒนาป้ายสำคัญในชุมชนและเอกสารแนะนำชุมชน

4.การประชาสัมพันธ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักเพื่อเพิ่มรายได้ เช่น การจัดงานแถลงข่าวโครงการฯ การจัดการท่องเที่ยวชุมชน การเผยแพร่ข้อมูล ผ่านสถานีโทรทัศน์ / Youtube เป็นต้น

และ 5.การจัดแผนการยกระดับชุมชนฯ แผ่นการตลาดออนไลน์ และแผนการเชื่อมโยงความสำเร็จเชิงพาณิชย์ให้กับทุกชุมชน โดยในปีนี้ ได้เพิ่มการจัดทำเว็บไซต์ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า ผลิตภัณฑ์และบริการชุมชนตั้งแต่ปี 1-6 รวม 57 ชุมชน

พันโทหนุน ย้ำว่า โครงการสลากสร้างสรรค์เพื่อชุมชน เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาชุมชน เพื่อให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยทั้ง 10 ชุมชนใหม่ และ 4 ชุมชนจากโครงการฯในปีที่ 1-5 รวมเป็น 14 ชุมชน จะได้รับการเติมเต็มองค์ความรู้จากวิทยาผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาชุมชน ทั้งเรื่องการพัฒนาการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาโภชนการ รวมถึงเปิดมุมมองในเรื่องของการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะมีโอกาสได้ลงมือปฏิบัติจริง ที่จะทำให้เกิดความรู้และความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และสามารถนำกลับไปพัฒนาและต่อยอดให้กับชุมชนของตนเองได้ต่อไป

“เชื่อวาการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ จะสามารถตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน” ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุ

สำหรับ 10 ชุมชนจากทั่วประเทศที่ผ่านการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย 1.วิสาหกิจชุมชนบ้านตาชายายสาคลองห้าร้อย จ.นนทบุรี 2.ชุมชนบ้านนาต้นจั่น จ.สุโขทัย 3.วิสาหกิจชุมชนบ้านหาดไก่ต้อย จ.อุตรดิตถ์ 4.ท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านเดื่อ จ.หนองคาย 5.สหกรณ์เกษตรกรรุ่นใหม่ จังหวัดอุดรธานี จำกัด จ.อุดรธานี 6.ชุมชนบ้านท่าวัดเหนือ จ.สกลนคร 7.บ้านกุดหว้า จ.กาฬสินธุ์ 8.วิสาหกิจชุมชนสตรีจ้าวภูผา จ.จันทบุรี 9.วิสาหกิจชุมชนเพชรงามเกาะช้าง จ.ตราด และ 10.ชุมชนบ้านแหลมนาว จ.ระนอง ซ

และ ชุมชุนเดิมจากปีที่ 1-5 จำนวน 4 ชุมชน ที่จะได้รับการพัฒนาต่อยอดจากโครงการในปีนี้ ประกอบด้วย 1.ชุมชนบ้านโอ่งอ่าง เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี 2.ชุมชนย่านเก่าวังกรด จ.พิจิตร 3.ชุมชนบ้านถ้ำเสือโฮมสเตย์ จ.เพชรบุรี และ 4.วิสาหกิจชุมชนไทดำบ้านนาป่าหนาด จ.เลย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password