ศาลฎีกา ยกฟ้องคดี “ยิ่งลักษณ์” สั่งย้าย “ถวิล” โดยมิชอบ
ศาลฎีกา ยกฟ้องคดี “ยิ่งลักษณ์” สั่งย้าย “ถวิล” อดีตเลขาฯสมช. เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ชี้เป็นการโยกย้ายตามปกติ ขณะ “พล.ท.ภราดร” ชี้ชัด เป็นเรื่องการเมือง ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล
วันที่ 26 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะผู้พิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดี หมายเลขดำที่ อม. 11/2565 คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อ 12 ปีที่แล้ว
โดยคดีดังกล่าว อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีเมื่อช่วงเดือน ก.ย. 2554 กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯ มีคำสั่งโยกย้ายนายถวิล เลขาฯ สมช.ในขณะนั้น มาเป็นที่ปรึกษานายกฯ โดยมิชอบ โดยนัดอ่านไปเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้พิพากษาถึงแก่อนิจกรรม และได้เลือกใหม่ จึงต้องให้ผู้พิพากษาที่ได้รับเลือกพิจารณาคดีได้อย่างพอเพียง และไม่กระชั้นชิด จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกวันนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา และนัดอ่านอีกครั้งในวันนี้ (26 ธ.ค.66) เวลา 13.30 น. และ ต่อมาเวลา 13.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากคำสั่งย้ายนายถวิล เป็นการโยกย้ายตามปกติ เเละให้ถอนหมายจับคดีนี้
โดยเหตุผลสำคัญที่ ศาลฎีกา ระบุไว้คือ “ไม่มีพยานหลักฐานใดที่แสดงถึงความเชื่อมโยงในการโยกย้ายนายถวิล เพื่อให้พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติแต่อย่างใด เพราะกระบวนการในการโยกย้ายนายถวิล ระยะเวลาห่างจากการแต่งตั้งพล.ต.อ.วิเชียร ถึง 22 วัน และไม่ปรากฏพยานว่าการโอนย้ายนั้น เป็นการเตรียมการโดยแบ่งแยกหน้าที่กันทำ เพื่อให้มีการแต่งตั้งพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด ศาลจึงเห็นว่าจำเลยไม่ได้มีเจตนาพิเศษในการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี แต่อย่างใด”
ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสมช. ในฐานะพยานฝ่ายจำเลย ให้สัมภาษณ์ผ่าน The Politics ทาง มติชนทีวี ภายหลังคำวินิจฉัยของศาลในกรณีนี้ว่า จริงๆเรื่องนี้ไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย การวินิจฉัยของศาลถือเป็นเรื่องชัดเจนแล้วว่า การโยกย้ายนายถวิลไม่ได้มีเจตนาพิเศษอะไร เป็นการโยกย้ายตามอำนาจปกติของนายกรัฐมนตรี จึงไม่ผิดในมาตรา 157
แต่ต้องยอมรับว่า มันมีความประสงค์เพื่อเป็นพลุนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาลในขณะนั้น แล้วใช้เงื่อนไขการโยกย้ายนายถวิล ในตำแหน่งเลขาธิการสมช. มาเป็นบ่อเหตุ โดยนำต้นเชื้อจากการโยกย้ายนี้ ประกอบกับใช้เหตุผลในเรื่องการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ไปต่อจิ๊กซอว์ให้เห็นภาพด้วยการโยงไปเกี่ยวข้องในหมู่ญาติพี่น้อง ของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ กับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร มาเป็นชนวน ซึ่งผลทางการเมืองมันก็ผ่านไปแล้วอย่างที่เห็นกัน แต่ความจริงจากศาลก็ปรากฏแล้วว่า เรื่องนี้คือเรื่องการเมือง
“ยิ่งพูดไปให้เห็นชัดไปอีกว่า เรื่องนี้เป็นการเมืองหรือไม่ ก็โยงได้จากตัวนายถวิล หลังเกษียณอายุราชการ ก็ไปเป็นประธานรัฐวิสาหกิจในกระทรวงมหาดไทย เป็นสมาชิกส.ว.มันก็เป็นคำตอบแบบหนึ่งว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น มันมีการสมคมคิดอย่างเป็นกระบวนการของฝ่ายอนุรักษ์ เพื่อมาเป็นเหตุ แล้วมันก็เป็นเหตุของการรัฐประหารปี 2557 จนกระทั่งมาจบเอาในวันนี้ ทั้งๆที่ ที่ไปที่มาของเรื่องนี้ เป็นเรื่องการเมือง แล้วก็เป็นเรื่องตลกที่สุดด้วย ที่ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่การย้ายเลขาฯสมช.แล้ว นายกฯหลุดจากตำแหน่ง” พล.ท.ภราดร กล่าว