นายกฯ วางแผนปี66 ไทยให้ความสำคัญ ด้านเศรษฐกิจมหภาค หลังQ4 ปี65 เติบโต1.4%
โฆษกรัฐบาล เผยศก.ไทยไตรมาส 4/2565 ไทยขยายตัวดีกว่าคู่ค้าสำคัญ นายกฯ กำชับเร่งขับเคลื่อนประเด็นเศรษฐกิจไทย หลังไตรมาส4 ปี2565 เศรษฐกิจไทยเติบโต 1.4 % และ คาดปี 2566 จะสามารถขยายตัวได้ถึง 3.7%
วันที่ 23 ก.พ.2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2565 ทั้งปี 2565 และแนวโน้มปี 2566 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัว 1.4% ซึ่งยังสูงกว่าประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่มีการขยายในไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 1%, 0.6% และ -0.9% ตามลำดับ ซึ่งในภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขยายตัว 2.6% ปรับตัวดีขึ้นจาก 1.5% ในปี 2564
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยเป็นผลมาจากภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นฟู ลงทุนจากภาคเอกชนและภาครัฐ รวมทั้งการอุปโภค บริโภคภาคเอกชนและภาคเกษตรที่ขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยในปี 2566 ขยายตัวในช่วง 2.7 – 3.7%
นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี 2565 ขยายตัวที่ 1.4% มีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวเร่งขึ้นของการส่งออกบริการ การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐที่กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาสที่ 1.5% โดยเป็นผลจากการขยายตัวของการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ 10.3% ด้านการต่างประเทศ การส่งออกมีมูลค่า 65,814 ล้านดอลลาร์ การนำเข้ามีมูลค่า 62,844 ล้านดอลลาร์ ด้านการผลิต ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 12.8% ตามการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาสินค้าสำคัญ เช่น กลุ่มผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน 51.5% ข้าวเปลือก 27.6% สุกร 42.4% ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรโดยรวมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 16.5% สาขาการก่อสร้าง กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส 2.6% สาขาที่พักและบริการด้านอาหาร ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง 30.6% ในไตรมาสนี้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จำนวน 5.465 ล้านคน รายรับรวมจากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 0.425 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้นที่ 213.9% โดยเสถียรภาพทางเศรษฐกิจนั้น อัตราการว่างานอยู่ที่ 1.15% ต่ำกว่า 1.23% ในไตรมาสก่อนหน้า
เศรษฐกิจไทยปี 2565 ขยายตัวที่ 2.6% เร่งตัวขึ้นจาก 1.5% ในปี 2564 ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนผลผลิตมวลรวมในประเทศต่อหัวของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 248,635.3 บาท/คน/ปี หรือ 7,890.70 ดอลลาร์/คน/ปี เพิ่มขึ้นจาก 231,986.1 บาท/คน/ปี หรือ 7,254.1 ดอลลาร์/คน/ปี ในปี 2564
โฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐบาล ให้ความสำคัญการบริหารประเทศในประเด็นเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดูแลแก้ไขปัญหาหนี้สินของลูกหนี้รายย่อย ทั้งหนี้สินและภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม การดูแลการผลิตภาคเกษตรและรายได้การเกษตร การรักษาแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกสินค้า การสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน การขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ ควบคู่ไปกับการเพิ่มพื้นที่ทางการคลังเพื่อรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะปานกลาง และเพิ่มศักยภาพการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และติดตาม เฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมทั้งการรักษาบรรยากาศทางเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศด้วย.