ดราม่า! ช่องว่างคำสั่ง???

(ปมความขัดแย้งระหว่างคำสั่ง…การเมือง vs หลักเกณฑ์ราชการ และคิวสอบ สตง.)

9 จังหวัดภาคใต้น้ำลดแล้ว แต่ที่ผุดขึ้นมาแทน คือ “ศึกลงทะเบียนเยียวยา” ภาพคนใต้ต่อคิวถ่ายเอกสาร สะท้อนปมขัดแย้งระหว่าง “คำสั่งการเมือง” ที่อยากให้ “ง่าย – เร็ว” กับ “ระเบียบราชการ – สตง.” ที่ยัง “เข้ม – แน่น – ห้ามผิด!” สะท้อนภาวะ “ผู้นำ” ของ นายกฯอนุทิน จะยังปล่อยให้ จนท.ท้องถิ่ นเสี่ยงตายดาบหน้า หรือจะสั่งการให้เป็นทางการเสียที

ปมร้อนๆ ท่ามกลางสถานการณ์ “บิ๊กคลีนนิ่ง – หาดใหญ่!’ ระหว่าง…รัฐบาลจากส่วนกลาง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย และ “โฆษกรัฐบาล” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ฝ่ายหนึ่ง…

กับ…ข้าราชการท้องถิ่น ที่ดูแลเกณฑ์การพิจารณา “ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา” 9,000 บาท ในพื้นที่น้ำท่วม 9 จ.ภาคใต้ อีกฝ่ายหนึ่ง…

ปมของปัญหานี้ นั่นคือการ “ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก?” กับการ “ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา” ของครัวเรือนของชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย กระทั่ง เกิดภาพ…แถวของประชาชนที่ยาวเหยียดหน้า “ร้านถ่ายเอกสาร” ในทุกอำเภอ

จนเกิดวิวาทะร้อนแรง! ตามมา ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริง และโลกโซเชียลออนไลน์  

ที่สำคัญ…เรื่องนี้ มันเกี่ยวข้องกับ นายอนุทิน ทั้งในบริบทความเป็น “นายกรัฐมตรี” และ “รมว.มหาดไทย” ซึ่งกำกับดูแล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ดูแลเรื่องจ่ายเงินเยียวยาฯ ให้กับผู้ประสบภัย…โดยตรง!

เรียกว่า…ประเด็นนี้ นายกฯอนุทิน โดยเต็มๆ ชนิดเลี่ยงยาก…ลอยตัวลำบาก!!??

ต้องไม่ลืมว่า…สิ่งที่ รัฐบาลไปกดดัน ข้าราชการท้องถิ่น ให้ต้องดำเนินการในลักษณะ “ลดขั้นตอน – อย่าทำให้ชาวบ้านลำบาก” นั้น อีกด้านหนึ่ง มันมีกฎระเบียนและข้อบังคับ คอยค้ำคอ! อยู่

โดยเฉพาะ…คู่มือ, หนังสือราชการ, ระบบ audit ที่บังคับเรื่องการมีอยู่เจริงของเอกสารที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ยังต้องให้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง

ปมลึกของเรื่องนี้ จึงมิต่างจาก…ความขัดแย้งระหว่างคำสั่งการเมือง vs หลักเกณฑ์ราชการ–สตง.!!!

จากภาพ…การต่อแถวเข้าคิวยาวเหยียด รอถ่ายเอกสารของคนใต้ จึงถูกมองว่าเป็น “เอกสารชีวิต” เพราะหากไม่มีเอกสารครบตาม แบบฟอร์มของ ปภ. แล้วล่ะก็…

เงินเยียวยา 9,000 บาทก็อาจหลุดมือได้!!!

แม้ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะได้ประกาศไว้ชัดแล้วว่า…การลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ต้อง…“ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ถึงมือทุกคน”

“โฆษกรัฐบาล” ยืนยันว่า…นายกฯสั่งลดขั้นตอน ใช้เอกสารให้น้อยที่สุด และให้เจ้าหน้าที่ “ดูใจประชาชน”

แต่ภาพความจริงกลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง!

นั่นเพราะ “ระบบราชการไทย” ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วย “คำสั่งด้วยวาจาแต่ขับเคลื่อนด้วย “ระเบียบ – หนังสือเวียน – มติ ครม. – คำสั่งกระทรวง” ที่มีผลผูกพัน…ทางวินัยและข้อกฎหมาย!!!

“คู่มือการจ่ายเงินเยียวยา” ที่ ปภ. ส่งลงไปก่อนหน้าน้ำท่วม กำหนดชัดว่า…ต้องมีสำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, รูปถ่ายความเสียหาย, หลักฐานการอยู่อาศัยจริง และเอกสารอื่นที่จำเป็น

ทั้งหมด ก็เพื่อรองรับ…การตรวจสอบของ สตง.  ซึ่งได้เน้นย้ำว่า…เอกสารทุกใบต้อง “ตรวจสอบย้อนกลับได้”

นี่คือ…เหตุผลที่ท้องถิ่นยังขอเอกสารครบชุด ไม่ใช่เพราะอยากยุ่งยาก แต่เพราะ “กลัวผิด” และผิดแล้ว คือ “ติดคุก!” ไม่ใช่แค่โดนตำหนิ

ข้าราชการท้องถิ่น รู้ดีว่า…วันหนึ่งเมื่อกระแสสื่อซาลง สตง. จะตามมาขอเอกสาร และหากหาหลักฐานไม่เจอเพราะทำตาม “คำพูดลอย ๆ” ของฝ่ายการเมือง ผลที่ตามมา ก็คือ การถูกกล่าวหา “ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” หรือ “ทำให้รัฐเสียหาย” กลายเป็นความผิดต่อเงินแผ่นดิน

นี่จึงเป็น “ดราม่า!” ที่จริง ๆ ไม่ได้เกิดจาก…ข้าราชการท้องถิ่น แต่เกิดจาก “ช่องว่างคำสั่ง” ของรัฐบาล!!!

นายกฯอนุทิน ในฐานะ “ผู้นำรัฐบาล” สามารถสั่ง…กระทรวงมหาดไทย ให้ “ออกคำสั่งยกเว้นเอกสารบางรายการ” ภายใต้ภาวะภัยพิบัติได้ทันที! ด้วยการ “ส่งหนังสือเวียน” ไปยังทุกจังหวัด เพื่อให้…ท้องถิ่น ใช้บิลค่าน้ำ – ค่าไฟ แทนทะเบียนบ้าน

สามารถจะออก “มติ ครม.” ให้เกณฑ์การตรวจสอบในภาวะฉุกเฉิน! และใช้ “หลักฐาน” เท่าที่ประชาชนมีอยู่

แต่จนถึงขณะนี้…ยังไม่ปรากฏ “คำสั่งลายลักษณ์อักษร” ในรูปของเอกสารใด ๆ ออกมาเลย???

สิ่งที่ปรากฏให้เห็น เป็นเพียง…คำกล่าวบนเวทีเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่ ว่า…ต้อง “ลดขั้นตอน –อ ย่าซ้ำเติมประชาชน”

แต่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น…ไม่สามารถ “ยึดถือ” เป็น “เกราะคุ้มกัน” ในวันที่มีการสอบสวนย้อนหลังได้…

ยิ่งไปกว่านั้น ตัว นายกฯอนุทิน เอง ยังสวมหมวกอีกใบ นั่นคือ “รมว.มหาดไทย” กำกับ ปภ. โดยตรง นี่จึงทำให้เกิดคำถามตามมาถึง “ภาวะผู้นำ” เด่นชัดในบัดดล ว่า…

หาก มีอำนาจเต็มอยู่ในมือ เหตุใด? นายกฯและรมว.มหาดไทย จึงไม่ปรับเกณฑ์, ปรับระเบียบ และออกคำสั่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้จริง!

แต่กลับปล่อยให้ท้องถิ่น…รับแรงเสียดทานแทนรัฐบาล???

ส่วนตัวนายกฯเอง…กลับใช้เพียง “คำประกาศ” เชิงอุดมคติ…ที่ไม่มีผลผูกพันกับหน่วยปฏิบัติ!!??

ประเด็น “ผู้เช่า – ผู้พักอาศัยจริง” เป็นอีกตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนช่องว่างนี้…!!!

นายกฯอนุทิน ประกาศว่า…เงินเยียวยาควรไปถึง “ผู้เช่า” ที่มีหลักฐานค่าน้ำ ค่าไฟ แม้ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน แต่ในแบบฟอร์ม ปภ. ไม่ได้ระบุให้ใช้ “บิลค่าน้ำ ค่าไฟ” เป็นหลักฐานหลักแต่อย่างใด???

ประเด็นนี้…ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ต้อง “ชั่งน้ำหนัก” อย่างหนัก ระหว่าง “ฟังคำประกาศนายกฯ” กับ “ทำตามเอกสารราชการ”

ในหลายพื้นที่ จึงเลือกทำ…ตามระเบียบ เพราะไม่ต้องการ “เสี่ยง!” ต่อการถูก “ชี้มูล” ความผิดในอนาคต

ความ “ตั้งใจดี” ของฝ่ายการเมือง…จึงไม่สามารถ “เปลี่ยน!” เป็นการปฏิบัติจริงได้ เพราะ “คำประกาศ” จากปากนายกฯ ไม่ได้ถูกแปลงเป็น “กฎเกณฑ์ที่ใช้ได้จริง” นั่นเอง

น้ำท่วมครั้งนี้…จึงเผยให้เห็น “อาการเรื้อรัง” ของ…ระบบอำนาจรัฐไทย อย่างชัดเจน!!! นั่นคือ…

คำสั่งการเมืองไปทางหนึ่ง…แต่ระเบียบราชการไปอีกทาง!!!

เมื่อ…ไม่มีคำสั่งที่เป็น “ลายลักษณ์อักษร” จำเป็นอยู่ดีที่…ข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งหมายรวมถึง ข้าราชการอื่นๆ ทั่วประเทศ ก็จำเป็นจะต้อง “ยึด” ตัวบทกฎหมายและระเบียนที่มีอยู่

เพราะนั่นคือ…สิ่งที่จะถูกใช้ “ตัดสินชะตา!” ในวันที่สังคม…หันไปสนใจเรื่องอื่นแล้ว

ปัญหาใหญ่…ไม่ใช่เรื่องเอกสาร มากหรือน้อย??? แต่เป็นเรื่อง…ความรับผิดชอบของ “ผู้นำ” ว่า…จะปล่อยให้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เป็น…ผู้เลือกเส้นทางเสี่ยงเอง

หรือจะ “ใช้อำนาจที่มี” ออกคำสั่งให้ชัดเจนไปเลย ว่า…ต้องใช้เอกสารเท่าใด? ต้องยกเว้นอะไร? และจะคุ้มครองเจ้าหน้าที่อย่างไร? ในกรณีที่ถูกตรวจสอบย้อนหลัง

หากรัฐบาล…ต้องการความเร็ว นายกฯสามารถจะออก “คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินด้านเอกสาร” ได้ทันที!

แต่ถ้าเลือกที่จะไม่ออกฯ นั่นก็เท่ากับ ยอมให้ “ความลักลั่น!” นี้เดินหน้าต่อไป และให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น…แบกรับกับผลที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตแทน???

การเยียวยาหลังน้ำท่วม คือ ภารกิจสำคัญที่สุด! ของรัฐบาลในเวลานี้ แต่การ “เยียวยา” จะไม่มีวันทำได้อย่างรวดเร็ว? หาก “ผู้นำ” ไม่สั่งการให้มีการ…ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ สอดคล้องกับสถานการณ์จริง!!!

คำพูด…ที่ไม่ได้รับรองด้วยเอกสาร จะไม่ช่วยให้ “เงิน” ถึงมือประชาชนได้เร็วขึ้น และยิ่งจะไม่สามารถ “คุ้มครอง” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น…ที่ต้องลงนามในเอกสารทุกใบ ภายใต้ภาวะกดดันเช่นนี้

ท้ายที่สุด! ภาวะ “ผู้นำ” ของนายกฯอนุทิน จะถูกชี้วัด! ไม่ใช่จาก…จำนวนครั้งที่ลงพื้นที่?

แต่มาจาก…ความสามารถในการ “สั่งการให้เป็นระบบ, เป็นลายลักษณ์อักษร และใช้งานได้จริง!”

เพื่อให้ การช่วยเหลือหลังน้ำท่วม ไม่ใช่เพียง…คำประกาศที่สุดแสนจะไพเราะ แต่เป็น “คำสั่ง” ที่ปฏิบัติได้ โดยไม่ทำให้ใคร? ต้องเสี่ยงคดีในวันข้างหน้า!

ความรับผิดชอบ…ในวิกฤตครั้งนี้! จึงอยู่ที่ “การตัดสินใจ” เชิงนโยบาย มากกว่า…การปล่อยให้ “คำสั่ง” ด้วยวาจา เดินสวนทางกับ “ระเบียบราชการ” ที่ยังคงเข้มขลัง และพร้อมจะ เอาผิด! ทั้งทางวินัยและอาญา กับข้าราชการทุกคน ที่ไม่ปฏิบัติตามกติกาที่มีมาแต่ดั่งเดิม

เอาเข้าจริง! ปัญหาทั้งมวล…มาจากคนเพียงคนเดียว? บวกกับ “ลูกหาบ” ที่ปากพูดเร็วกว่าความคิด แค่นั้นเอง!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password