คลังแลกยืดลดภาษีน้ำมันอีก 4 ด. – บี้! กองทุนน้ำมันฯจัดการดีกว่านี้ แนะนำแอปฯมาใช้ด่วน!
ครม.เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 4 เดือน ด้าน รมว.คลัง รุกหนักกองทุนน้ำมันฯ ไล่บี้การบริหารจัดการใหม่ ชี้! ปรับลดดีเซลทันทีลิตรละ 1 – 2 บาท วางราคาในช่วง 33 – 35 บาทต่อลิตร รวมถึงจัดเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราที่แตกต่างกันระหว่างประเภทน้ำมันดีเซล ย้ำ! ต้องเร่งนำเทคโนโลยีไอทีสร้างแอปฯหรือบัตรส่วนลดในอนาคตอันใกล้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ว่า ได้เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 4 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2566 ถึง 20 พฤษภาคม 2566 เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดกับพี่น้องประชาชน และเพื่อให้กลไกทางเศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนได้ แม้ว่าการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตในครั้งนี้ จะส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ก็ตาม
ทั้งนี่ เพื่อให้วัตถุประสงค์ของการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงในครั้งนี้ สามารถส่งผ่านไปถึงประชาชนโดยตรง และส่งผ่านถึงการลดต้นทุนของสินค้าและบริการได้ กระทรวงการคลังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงควรพิจารณาการบริหารจัดการเสถียรภาพของราคาน้ำมันดีเซลและสถานะทางการเงินของกองทุนฯ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลทันที 1 – 2 บาทต่อลิตร และบริหารจัดการให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล อยู่ในช่วงระหว่างราคา 33 – 35 บาทต่อลิตร ประกอบกับพิจารณาจัดเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราที่แตกต่างกัน ระหว่างประเภทน้ำมันดีเซล รวมทั้งพิจารณาความเป็นได้ในวิธีการนำเทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชั่น หรือบัตรส่วนลดมาใช้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันในอนาคตเพื่อให้สามารถดำเนินการได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย
“การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด และจะพิจารณาความเหมาะสมของมาตรการต่างๆ เพื่อให้การดำเนินนโยบายช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว” รมว.คลัง กล่าวสรุป.